หญิงชนท้ายเบนซ์ เรียกผัวมาตบคู่กรณีจนต่างหูเพชรหล่นหาย

หญิงชนท้ายเบนซ์ แทนที่จะไกล่เกลี่ยดีๆ โทรตามสามีมาช่วย มาถึงตบหน้าชายคู่กรณี จนต่างหูเพชรหล่นหาย ก่อนอาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไป

คอนเทนต์แนะนำ

เปิดใจ น้องเฟิร์น นิสิตคณะเภสัชศาสตร์ ผู้ชนะเลิศออกแบบโลโก้ "หมูเด้ง"

"ใหม่ ดาวิกา" ไม่ทน! ฟ้องคนด่าแรง เอาเงินมาช่วยเหลือสัตว์

ตำนาน นางนพมาศ จากพิธี "จองเปรียง" สมัยสุโขทัย สู่ประเพณี "ลอยกระทง"

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 10 พ.ย.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี เดินทางเข้าตรวจสอบหลังจากได้รับแจ้งมีรถเก๋งชนกัน 2 คันและเกิดการทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกาย ทำให้ต่างหูเพชรตกหล่นหลายไป

เหตุเกิดถนนราชพฤกษ์ขาออกช่วงทางโค้งเลี้ยวเข้าถนนรัตนธิเบศร์ ต.บางรักน้อย อ.เมืองนนทบุรี 

ในที่เกิดเหตุพบรถเก๋งยี่ห้อมาสด้ารุ่น CX-3 สีเทา อยู่ในลักษณะชนท้ายรถเก๋งยี่ห้อเบนซ์สีขาวได้รับความเสียหายเล็กน้อย โดยรถทั้ง 2 คันจอดอยู่เลนขวา คนขับรถเก๋งเป็นหญิงอายุประมาณ 40 ปี ยังนั่งอยู่ภายในรถ โดยมีจังหวะลงมาพูดคุยกับประกันภัย ก่อนจะให้ไปที่ สภ.บางศรีเมือง ขณะเดียวกันคู่กรณีคือ นายเจริญรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี คนขับรถเบนซ์ที่มากับภรรยายืนชี้จุดที่มีการถูกทำร้ายร่างกาย และต่างหูเพชรหล่นหายไป

โดยเหตุการณ์นี้มีพลเมืองดีผ่านทาง ได้ถ่ายคลิปวิดีโอไว้หลังจากมีการก่อเหตุทำร้ายร่างกายกันแล้ว โดยในคลิปเป็นภาพมีการยืนโต้เถียงกันอยู่

นายเจริญรัตน์ เล่าว่า ตนเองขับมาจากถนนราชพฤกษ์ขาเข้าและม้วนลงมาเพื่อจะเข้าสู่ถนนรัตนาธิเบศร์มุ่งหน้าแยกบางพลู ซึ่งขณะนั้นตนเองขับอยู่เลนขวาเก๋งคู่กรณีอยู่เลนซ้าย จู่ๆคู่กรณีก็เปลี่ยนเลนมาทางขวา ตนเองก็บีบแตรเตือนไป แต่เขากลับไม่หยุด ทำให้ตนเองต้องเป็นฝ่ายชะลอรถเอง หลังจากนั้นตนเองก็เร่งเครื่องแซงขึ้นไป ตั้งใจว่าจะมาถามทำไมถึงขับรถแบบนี้ แต่เขาไม่จอด ตนเองจึงแซงขึ้นหน้าไปและชะลอรถเพื่อให้จอด แต่เขากับบีบแตรใส่ สุดท้ายเขาไม่จอด ทำให้พุ่งชนท้ายรถตน หลังจากนั้นตนเองก็ลงมาพูดต่อว่าทำไมถึงขับรถปาดแบบนี้ คำตอบที่ได้เขาบอกไม่เห็น ตนจึงบอกไปว่าในเมื่อมีการเฉี่ยวชนกันแล้วเรียกประกันเลย แต่หญิงคนดังกล่าวกลับด่าถ้อยคำที่หยาบคาย ตนเองจึงได้ด่ากลับ สักพักเขาโทรเรียกสามีเขามา เมื่อมาถึงสามีไม่พูดอะไรเลยใช้มือซ้ายผลักอกและใช้มือขวาตบมาที่ด้านซ้ายของใบหน้าทำให้ได้รับบาดเจ็บ

จนกระทั่งมารู้ที่หลังเหตุว่าต่างหูเพชรด้านซ้ายนั้นหายไป ส่วนชายคนดังกล่าวที่เป็นสามีใช้จังหวะที่ตนกำลังโทรแจ้งตำรวจหลบหนีไปก่อนที่ตำรวจจะมาถึง หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่พยายามช่วยกันหาตุ้มหูเพชรที่ตกหล่น แต่พบเพียงตัวล็อคต่างหูเท่านั้น ส่วนน้ำหนักและราคาไม่แน่ชัดซื้อมานานแล้ว คู่ละประมาณหมื่นกว่าบาท ซึ่งเหตุการณ์นี้เป็นเพียงแค่รถเฉี่ยวชนกันเท่านั้นตนเองไม่คิดว่าจะเกิดเหตุถึงขั้นทำร้ายร่างกายตามมา

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แยกรถทั้ง 2 คัน พร้อมให้ทั้ง 2 ฝ่ายไปที่โรงพัก โดยให้ฝ่ายชนท้ายซึ่งเป็นหญิงประสานสามีที่มาทำร้ายร่างกายเข้ามาพบพนักงานสอบสวน โดยเหตุการณ์นี้จะต้องแยกเป็น 2 คดีคือเป็นคดีอุบัติเหตุรถชน กับคดีทำร้ายร่างกาย.