จากกรณีตำรวจ สภ.เมืองสุพรรณบุรี นำกำลังเข้าจับกุมกลุ่มผู้ต้องหา ในข้อหาร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราเด็กที่มีอายุ ต่ำกว่า15 ปี หลังชาวบ้านร้องเรียนว่า กลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นเครือญาติกัน และข่มขืนเด็กหญิงวัย 12 ปี นานกว่า 2 ปี ส่วนเด็กที่ถูกกระทำ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้รับไปอยู่ในความดูเเลเเล้ว ทั้งนี้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้คุมตัวผู้ต้องหากลุ่มผู้ใหญ่ทั้ง 5 คนไปขออำนาจศาลจังหวัดสุพรรณบุรีฝากขัง และท้ายคำร้องได้ขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง
อ่านข่าวเพิ่มเติม
สลดเด็ก ป.6 ถูกญาติ 7 คนขืนใจน้อง 10 ขวบร่วมด้วย ผู้ต้องหาโต้ถูกใส่ร้าย
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 มิ.ย.63 พ.ต.อ.มาโนชญ์ จิตรภักดี รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.63 ที่ผ่านมา ผู้เสียหายซึ่งเป็นพี่สาวและอยู่ในฐานะเป็นผู้ปกครองของ ด.ญ.เอ (นามสมมติ) 12 ปี ได้พาเหยื่อพาพบพนักงานสอบสวน และแจ้งว่าได้ถูกข่มขืนกระทำชำเราโดยบุคคลใกล้ชิดจำนวนหลายคน ซึ่งขณะนั้นผู้เสียหายได้พาเหยื่อไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ผลตรวจพบว่าถูกกระทำล่วงละเมิดทางเพศจริง ทางพนักงานสอบสวนจึงได้สอบปากคำเหยื่อต่อหน้าสหวิชาชีพ
จากการให้การของเหยื่อทราบว่า มีการล่วงละเมิดทางเพศต่อเหยื่อ โดยมีผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 7 คน เป็นผู้ใหญ่ 5 คน เยาวชนจำนวน 2 คน โดยผู้ต้องหาส่วนหนึ่งเป็นเครือญาติและอยู่ในละแวกบ้าน ทางพนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถทำการออกหมายจับผู้ต้องหาซึ่งเป็นผู้ใหญ่ ในข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และกระทำอนาจาร แก่เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยเด็กนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้เด็กนั้นเข้าใจผิดคิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น นี้คือหาข้อกล่าวของผู้ใหญ่ทั้ง 5 ราย
น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย เดินทางไปที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.สุพรรณบุรี โดยมีนางอุรัยวรรณ์ แสงแก้ว หัวหน้าบ้านพักเด็กฯ รายงานถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดย น.ส.กัญจนา กล่าวว่า ประเด็นหลัก ๆ ต้องการมาให้กำลังใจน้อง และมาดูว่าจะจัดการกับชีวิตน้องต่อไปอย่างไร พบว่าสภาพจิตใจน้องค่อนข้างดี จึงให้กำลังใจให้น้องก้าวเดินไปข้างหน้าและพลังใจที่เข้มแข็ง ผู้ที่อยู่ในแวดล้อมจะพยามยามให้อนาคตที่ดีที่สุดสำหรับน้อง ทั้งด้านความปลอดภัย การศึกษา และที่อยู่อาศัย ต้องขอขอบคุณผู้ที่นำเรื่องน้องมาสู่กระบวนการกฎหมาย เพื่อที่จะเอาผิดกับผู้ที่กระทำกับน้อง คนทำผิดต้องได้รับการลงโทษ มิฉะนั้นจะเป็นเยี่ยงอย่างให้กับชุมชนหรือสังคมที่อื่น ซึ่งเป็นเรื่องที่สังคมรับไม่ได้ “น้องคงยากที่จะกลับไปสู่ชุมชนเดิม ทางผู้เกี่ยวข้องต่าง ๆ จะต้องมีการประเมินจะหาที่อยู่ที่เหมาะสมให้กับน้อง และการศึกษาน้องจะต้องต่อเนื่องด้วย”
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 5 รายจะมีพฤติกรรมแตกต่างกันไปดังนี้
1. นายอนันต์ นรินทร์นอก อายุ 51 ปี ชาวอ.เมืองสุพรรณบุรี มีพฤติการณ์กระทำชำเรากับเหยื่อที่บ้านของผู้ต้องหาเอง จนสำเร็จความใคร่และสอดใส่ โดยข่มขู่ว่าหากไปบอกใครจะทำร้าย และกระทำการหลายครั้ง ในครั้งล่าสุดวันที่ 3 มิ.ย.63
2.นายทรงวุธต์ หันกลาง อายุ 21 ปี ชาวอ.เมืองสุพรรณบุรี มีพฤติกรรมบังคับขู่เข็ญกระทำชำเราเหยื่อที่บ้านพักตั้งแต่ปลายเดือน ก.พ.61 เรื่อยมา โดยเฉลี่ยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งสุดท้ายเดือน พ.ค.63 ในขณะที่ไม่คนอยู่บ้าน
3.นายประเชิญ ชาวปลายนา อายุ 32 ปี ชาวอ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี กระทำชำเราในบ้านของเหยื่อหลายครั้งในห้องน้ำ และข่มขู่ว่าจะฆ่า ถ้านำเรื่องไปบอกคนอื่น
4.นายพะเยาว์ เรืองฤทธิ์ อายุ 32 ปี ชาวอ.เมืองสุพรรณบุรี เป็นคนในละแวกใกล้เคียง เข้าไปข่มขืนกระทำชำเราเหยื่อขณะที่ไม่มีคนอยู่ โดยให้เหยื่อสำเร็จความใคร่ให้
5 นายสุรัตน์ ภูฆัง อายุ 34 ปี ชาวอ.เมืองสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นลูกเขยของนายอนันต์ ผู้ต้องหาที่ 1 ซึ่งอยู่ในละแวกเดียวกับเหยื่อ บังคับให้เหยื่อสำเร็จความใคร่ให้วันเว้นวัน วันสุดท้ายก็คือวันที่ 3 มิ.ย.63
ส่วนอีก 2 รายเป็นเด็ก มีการข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายหลายครั้งเช่นกัน ทางพนักงานสอบสวนจะได้ทำหนังสือเรียกตัวมาสอบปากคำ เนื่องจากออกหมายจับไม่ได้เพราะเป็นเด็ก อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ทั้งหมดยังให้การปฎิเสธ โดยอ้างว่าเด็กสติไม่ดี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากการสอบปากคำเด็กพบว่าไม่ได้เป็นไปตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง
น.ส.พลอย (นามสมมติ) เป็นภรรยาของนายสุรัตน์ หนึ่งในผู้ต้องหา เเละเป็นลูกสาวของนายอนันต์ หนึ่งในผู้ต้องหาเช่นกัน เปิดเผยว่า เเม้ตำรวจจะทำตัวพ่อเเละสามีไปฝากขังเเล้ว เเต่ส่วนตัวก็ยังเชื่อว่าทั้งคู่นั้นบริสุทธิ์ ซึ่งตอนนี้คนที่เป็นธุระจัดการในเรื่องสู้คดีก็คือคุณเเม่ มีการยืมเงินคนรู้จักจำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นหลักทรัพย์ในการยื่นประกันตัว เเม้เบื้องต้นพนักสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัว เเต่จะไปยื่นต่อในชั้นศาล ตอนนี้ยังยืนยันว่าจะสู้ให้ถึงที่สุด
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เครียดหนักมาก นอกจากเรื่องคดีเเล้วก็ยังถูกสังคมประณาม ซึ่งถ้าหากพ่อกับสามีกระทำจริง ก็ให้รับโทษตามกฎหมาย เเต่ถ้าหากผลการพิสูจน์เเล้วว่าไม่ผิด ทั้งคู่จะใช้ชีวิตอยู่ในสังคมต่อไปได้อย่างไร ดังนั้นจึงฝากบอกพ่อกับสามีว่า "เป็นห่วง" ส่วนในเรื่องการสู้คดีก็จะทำให้ดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสุพรรณบุรี โดยคัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน แต่ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันเดียวกัน ญาติของผู้ต้องหาทั้ง 5 รายได้ยื่นเรื่องประกันตัวในชั้นศาล หลังจากที่ในชั้นพนักงานสอบสวนมีการคัดค้านการประกันตัว