"หมอแท้จริง" เผยรื้อคดีใหม่ข้อหาเมาแล้วขับได้ หลังพบหลักฐานมีโคเคนในร่างกาย “บอส อยู่วิทยา”
จากกรณีที่อัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ "บอส อยู่วิทยา" ทายาทเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดัง ข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ในคดีขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อ เสียชีวิตเมื่อปี 2555 แถมยังหลุดในทุกข้อหาของคดีนี้ และเตรียมถอนหมายจับ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง "บอส อยู่วิทยา"
- เปิด 7 รายชื่อคณะทำงานตรวจสำนวนพิจารณาสั่งคดี “บอส อยู่วิทยา”
- ผบ.ตร.สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ คดี"บอส อยู่วิทยา" ให้เวลา 15 วัน
- แถลงการณ์ "คณาจารย์นิติ มธ." เรียกร้อง 2 ข้อ ปมคดี "บอส อยู่วิทยา"
- นักฟิสิกส์จุฬา วิเคราะห์ "บอส อยู่วิทยา" ซิ่งเฟอร์รารี่ 177 กม./ชม. ขัดแย้งพยานให้การขับแค่ 60
- สตม. รับ "บอส อยู่วิทยา" หลุดแบล็กลิสต์เกือบ 2 สัปดาห์แล้ว
- นายกฯ ไม่สบายใจปมอัยการสั่งไม่ฟ้อง "บอส อยู่วิทยา" ลั่น ใครทำผิดต้องถูกลงโทษฅ
- ขานรับคำวิจารณ์! อัยการสูงสุดแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบพิจารณาการสั่งคดี “บอส อยู่วิทยา”
- รองอธิการฯ ม.ธรรมศาสตร์ ชี้ "บอส อยู่วิทยา" หลุดคดี ตอกย้ำคุกไทยมีไว้ขังคนจน
- สมาคมทนายความฯ เปิด 8 ข้อสงสัย "บอส อยู่วิทยา" จี้กางรายละเอียดทั้งหมดของคดี
- ไม่เก็ท? "สิระ" เรียก อสส.-ผบ.ตร. แจงปมสั่งไม่ฟ้อง “บอส อยู่วิทยา”
ด้านเฟซบุ๊กของ นายแพทย์ แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก ระบุถึงเอกสารผลการตรวจร่างกายของนายวรยุทธ อยู่วิทยา เมื่อปี 2555 โดยระบุว่า "หลักฐานชัดขนาดนี้ทำไมไม่ฟ้องเมาแล้วขับ"
โดยเอกสารที่ "น.พ.แท้จริง" ระบุ เป็นหนังสือที่ น.395/2555 วันที่ 1 ต.ค.2555 เรื่อง ข้อมูลสารแปลกปลอมในร่างกาย ถึงหัวหน้าภาควิชาพยาธิวิทยา โดยมีเนื้อหาระบุถึงสาขาวิชานิติเวชวิทยา ภาควิชาพยาธิวิทยาขอแจ้งเกี่ยวกับสารแปลกปลอมที่พบในร่างกายของนายวรยุทธ อยู่วิทยา ตามที่สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ ขอทราบข้อมูลคือ
อัลพาโซแลม เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภที่ 4 ตาม พ.ร.บ.วัตถุออกฤทธิ์ ต่อจิตและประสาทฯ โดยทางการแพทย์อาจใช้เป็นยานอนหลับ หรือยาแก้โรค ทางจิตประสาทและสามารถพบในปัสสาวะได้นานถึง 3-4 วัน หลังเสพ
ส่วน ข้อ 2. ซึ่งมีการใช้ปากกาเน้นข้อความ ระบุว่า Benzoyleegonine เป็นสารที่เกิดขึ้นในเลือดในกระบวนการเปลี่ยนแปลงในร่างกาย(Metabolism) หลังจากการเสพ โคเคน เป็นยาเสพติดให้โทษแระเภทที่ 2 ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ โดย โคเคน ปกติจะไม่พบปนอยู่ในยาหรืออาหารและสามารถในเลือดได้นาน 18-24 ชั่วโมง หลังเสพ
และ Cocaethylene เป็นสารที่เกิดขึ้นในเลือดในกระบวนการเปลี่ยนแปลงในร่างกาย (Metabolism)หลังการเสพ Cocaine ร่วมกับแอลกอฮอล์
นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ได้ให้ความเห็นหลังมีการเผยแพร่ผลการตรวจเลือดของนายบอส วรยุทธ อยู่วิทยา ว่ามีสารแปลกปลอม ในร่างกายประเภทกล่อมประสาท จำนวน 4 สาร และ 2 ใน 4 เป็นสารที่เกิดจากการเสพโคเคนเข้าไปเท่านั้น
โดย นพ.แท้จริง กล่าวว่า ช็อกมากที่อัยการสั่งไม่ฟ้องคดี ทั้งที่หลักฐานชัด แต่ขณะที่ พบหลักฐานใหม่คือผลการตรวจเลือดที่พบสารเสพติดในร่างกาย นั่นคือโคเคน ตอนแรกที่เกิดเหตุมีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ในร่างกายของนายบอสจริง แต่เป็นการตรวจวัดหลักนายบอสหลบหนีไปที่บ้าน ซึ่งทางทนายความได้ต่อสู่พยายามหาหลักฐานมาแย้งว่าแอลกอฮอล์ที่ตรวจได้เกิดขึ้นหลังจากเกิดเหตุแล้ว จนไม่ได้ดำเนินคดีในข้อหาเมาและขับ
แต่หลักฐานใหม่ที่ได้มา ซึ่งไม่ได้ถูกนำไปรวมในสำนวนตั้งแต่แรก ทั้งนี้จะเป็นหลักฐานสำคัญที่สามารถจะรื้อคดีนี้ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง