เปิดใจสาวต้มไข่ในไมโครเวฟ ระเบิดใส่หน้าเปลือกร้อนเหมือนแผ่นเหล็กฉาบร่าง (คลิป)

จากกรณีสมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Chadakan Tae” โพสต์ภาพนิ่งอาการบาดเจ็บของตัวเองที่บริเวณใบหน้าและลำคอ จนต้องเข้าพักรักษาตัวที่ รพ.เกษมราษฎร์ประชาชื่น กรุงเทพฯ โดยระบุข้อความเตือนภัยเป็นอุทาหรณ์ว่า “ไข่ไมโคเวฟ อย่าหาทำ กูเกิ้ลก็อย่าเชื่อมาก ใครไม่รู้ว่าการนำไข่ไปต้มในไมโคเวฟไม่ได้ ก็ขอรู้ไว้ เพราะเมื่อนำไปต้มแล้วเกิดไข่ระเบิด น้ำร้อน ความร้อน กระเด็นโดนใบหน้าและลำคอหลายจุด จนได้รับบาดเจ็บ” ภายหลังโพสต์ออกมา กลายเป็นที่สนใจของคนในโลกออนไลน์

คอนเทนต์แนะนำ

เปิดใจ น้องเฟิร์น นิสิตคณะเภสัชศาสตร์ ผู้ชนะเลิศออกแบบโลโก้ "หมูเด้ง"

สลด! หนุ่มเมียนมา เก็บเงินในกระทงจมน้ำดับ เชื่อรับเคราะห์จากคนลอย

ควันหลงลอยกระทง ขยะเกลื่อนทะเล ชายหาดสัตหีบ

ล่าสุดวันที่ 3 ส.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางไปยังโรงพยาบาลดังกล่าว เพื่อพูดคุยกับ น.ส.ชฎากาญ ชัยเจริญมงคล หรือ น้องเต้ อายุ 21 ปี ผู้บาดเจ็บ เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 31 ก.ค.63 เวลาประมาณ 22.30 น. ขณะที่ตนอยู่หอพักลำพัง รู้สึกหิว ด้วยความที่เป็นเวลากลางดึก จึงไม่ได้ออกไปซื้อของกิน จากนั้นจึงค้นหาข้อมูลในกูเกิ้ล (google) เกี่ยวกับการต้มไข่ไก่ด้วยไมโครเวฟ บอกว่าสามารถทำได้ ตนจึงดักสินใจนำไข่ไก่ 2 ฟอง ใส่ถ้วยและเติมน้ำเต็มถ้วย จากนั้นนำเข้าไมโครเวฟเป็นเวลา 10 นาที กระทั่งครบกำหนด จึงพักทิ้งไว้ 1 นาทีครึ่ง จึงเดินไปเปิดฝาไมโครเวฟแล้วนำออกมา

โดยจังหวะที่นำออกมานั้น ตนใช้ผ้ารองที่ถ้วยเพื่อยกออก ทันใดนั้นไข่ไก่ 2 ฟอง เกิดระเบิดอย่างแรง ทำให้น้ำร้อน เปลือกไข่ เนื้อไข่ที่อยู่ในถ้วย กระเด็นโดนใบหน้าเกือบทั่วใบหน้า 3 ส่วน 4 ของใบหน้า โดยเฉพาะด้านซ้ายและบริเวณลำคอกับช่วงอกบริเวณไหปลาร้า จนทำให้ได้รับบาดเจ็บ

ขณะเกิดเหตุตนรู้สึกแสบร้อน และรู้สึกชาที่บริเวณใบหน้าและลำคอมาก เหมือนจับแผ่นแม่เหล็กที่มีความร้อนสูง ซึ่งตนสังเกตเห็นเนื้อผิวหนังที่บริเวณอกและลำคอเริ่มหลุดออก ส่วนใบหน้ามีรอยแดงแต่ยังไม่เกิดแผลพุพอง ตนรีบวิ่งไปที่ตู้เย็น นำน้ำเย็นกว่า 10 ขวดออกมาราดใบหน้าและลำคอ ให้รู้สึกเย็นขึ้น พร้อมกับโทรศัพท์หาแฟนและแม่ให้มาดู จากนั้นแฟนตนมาถึงพร้อมกับซื้อน้ำแข็งเข้ามาให้ ตนจึงนำน้ำแข็งไปประคบเย็นบริเวณที่ถูกน้ำร้อนกระเด็นใส่ จากนั้นแฟนตน จึงออกไปซื้อยาทาแผลพุพองและน้ำเกลือมา ตนจึงใช้น้ำเกลือมาราดที่ใบหน้าและลำคอเพื่อล้างแผล ก่อนทายาและประคบเย็น และเดินทางไปที่โรงพยาบาล เนื่องจากมีบาดแผลขนาดใหญ่

โดยน้องเต้ เล่าว่า ตนรักษาเป็นเวลา 3 วันแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่โรงพยาบาล ล้างแผลทุกวัน ใช้ขี้ผึ้งทาหน้า ฉีดยาฆ่าเชื้อ ทานยาแก้อักเสบ แผลที่ใบหน้าเริ่มแห้ง เนื้อผิวหนังที่ตายเริ่มหลุดลอกออกเป็นแผ่น แต่ยังมีน้ำเหลืองอยู่บ้าง ส่วนที่ลำคอมีแผลพุพอง ล่าสุดบ่ายวันนี้แพทย์อนุญาตให้กลับไปพักรักษาตัวที่บ้านได้ และนัดมาดูบาดแผลอีกครั้งในวันที่ 9 ส.ค.63

ส่วนสาเหตุที่ตนออกมาโพสต์เรื่องนี้ เพราะอยากให้เป็นอุทาหรณ์เตือนภัย สำหรับคนที่ไม่รู้ และอาจเกิดอันตรายแบบตนได้ ภายหลังจากแชร์เรื่องนี้ออกไป มีทั้งคนที่เข้าใจ และคนที่เข้ามาต่อว่าเรื่องการนำไข่ไปต้มในไมโครเวฟ ซึ่งตนอยากบอกว่า ถ้าตนรู้มาก่อนก็คงไม่ทำ ส่วนคนที่เข้าใจก็ให้กำลังใจตนอย่างดี จึงขอขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังเข้ามา

ในขณะเดียวกัน ทีมข่าวสอบถามข้อมูลไปยัง นายแพทย์สิทธา ลิขิตนุกูล หรือหมอกอล์ฟ แพทย์สังคมสื่อสารเพื่อคุณธรรม ถึงกรณีที่เกิดขึ้น หากเกิดไข่ระเบิดหรือน้ำร้อนลวกรุนแรงเป็นแผลพุพองที่ผิวหนังเปิด ควรจะเปิดน้ำก๊อกล้างผ่าน 10-15 นาทีตลอดเวลา หรือหากมีน้ำเย็นหรือน้ำแข็งสามารถนำประคบล้างได้เช่นกัน จากนั้นนำผ้าสะอาดประคบไว้ แล้วรีบพบแพทย์ให้เร็วที่สุด

ทั้งนี้หมอกอล์ฟ เตือนว่าไม่ควรนำน้ำเกลือมาราด หรือไม่ควรนำยาทาแผลพุพองมาทาที่บาดแผล เพราะหากนำน้ำเกลือราดจะเสี่ยงติดเชื้อและสูญเสียอวัยวะได้ จึงต้องได้รับยาสำหรับฆ่าเชื้อโดยเฉพาะ