เมื่อวันที่ 23 ส.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีลงพื้นที่ บ้านสำโรง หมู่ 13 ตำบลแคน อำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ เพื่อติดตามกรณีหญิง อายุ 35 ปี อ้างว่าถูกผู้ใหญ่บ้านมอมเบียร์เเล้วลวนลาม
ทีมข่าวได้พูดคุยกับผู้เสียหาย คือ นางอัมพรพรรณ อายุ 35 ปี ได้เล่าย้อนเหตุการณ์ ว่าเวลา 12.00 น. ของวันที่ 13 ส.ค.63 ที่ผ่านมา ระหว่างที่ตนไปนั่งกินข้าวกับพี่สาว ที่ร้านอาหารใกล้ ๆ กับบ้านพักของผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นคนก่อเหตุ จากนั้นผู้ใหญ่บ้านผ่านมา ตนจึงชักชวนให้นั่งดื่มกินด้วยกันในฐานะคนรู้จักและเคยดื่มกินด้วยกันมาก่อน
กระทั่งเวลาประมาณ 13.00 น. ผู้ใหญ่บ้านก็บอกว่าจะไปนั่งดื่มกินกับเพื่อนต่อที่อีกหมู่บ้านหนึ่ง ระยะทางห่างกัน 15 กิโลเมตร ตนจึงขับรถกระบะพาผู้ใหญ่บ้านไป โดยมีพี่สาวไปด้วย แต่พี่สาวแยกตัวกลับก่อน ส่วนตนก็นั่งดื่มกับผู้ใหญ่บ้าน 2 คน โดยผู้ใหญ่บ้านที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ก็หันมาหยอกล้อและกัดตนที่แผ่นหลัง 1 ครั้ง ตนตกใจประกอบกับความเมา จึงถีบอีกฝ่าย เเต่ยังไม่คิดอะไร คิดว่าหยอกล้อธรรมดา
นางอัมพรพรรณ บอกว่า จากนั้นเวลา 19.00 น. ตนก็ขับรถพาผู้ใหญ่กลับบ้าน เเต่เมื่อถึงหมู่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านได้ชวนนั่งดื่มเบียร์ต่อที่บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นบ้านของญาติผู้ใหญ่บ้าน โดยนั่งดื่มกันในห้องที่ต่อเติมจากตัวบ้าน ซึ่งภายในห้องมุมหนึ่งมีโต๊ะกินข้าว ส่วนอีกมุมเป็นเเคร่ไม้ ซึ่งตนนั่งดื่มกับผู้ใหญ่บ้านที่โต๊ะกินข้าว จนถึงเวลาประมาณ 23.00 น. ตนหลับคาวงเหล้า ภาพตัด ไม่รับรู้อะไรเลย
จนกระทั่งเวลาประมาณ 01.00 น. รู้สึกเหมือนมีคนมากอด เเละเจ็บตามร่างกาย จึงตื่นนอน เมื่อรู้สึกตัวถึงรู้ว่าตัวเองอยู่ในสภาพสวมกางเกงสเตย์ตัวเดียวเท่านั้น และเจ็บปวดตามเนื้อตัว ส่วนผู้ใหญ่บ้าน นอนอยู่ข้าง ๆ ในสภาพเปลือกกายล่อนจ้อนอยู่ในห้อง
ผู้ใหญ่บ้านเมื่อรู้ว่าตนรู้สึกตัว ก็พยายามจะลวนลาม กัดตามร่างกาย เเละพยามถอดกางเกง นอกจากนี้ยังพยายามถ่ายรูปตอนที่ตนเปลือย เเต่ตนไม่ยอม ซึ่งตนไม่กล้าร้อง เพราะกลัวจะถูกฆ่า อีกทั้งยังสู้เเรงไม่ได้ จึงยกมือไหว้ขอร้องว่า "อาอย่าทำหลานเลย" ผู้ใหญ่บ้านจึงหยุด เเล้วใส่เสื้อผ้า ตนก็รีบขับรถกระบะกลับบ้าน
จากนั้นเช้าวันที่ 14 ส.ค.63 เวลา 07.25 น. ผู้ใหญ่บ้านส่งข้อความมาทางเฟซบุ๊ก โดยยอมรับผิด มีการขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป เเละบอกว่ารูปที่ถ่ายตอนเปลือยนั้นลบทิ้งไปเเล้ว หลังจากนั้นช่วงสาย ตนได้ไปเเจ้งความที่ สภ.สนม จ.สุรินทร์ เเล้วผู้ใหญ่บ้านเกิดรู้ จึงทักข้อความเฟซบุ๊กมาอีกครั้ง เวลา 12.56 น. โดยข่มขู่ว่าจะฆ่า ให้ระวังตัวไว้ ติดคุกแค่ 15 ปีไม่นาน
จากนั้นช่วงบ่ายวันที่ 15 ส.ค.63 ภรรยาของผู้ใหญ่บ้านมาหาตนที่บ้าน เพื่อขอโทษ เเละขอร้องว่าไม่ให้เอาเรื่อง ซึ่งตนไม่ยอม ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะเสียความรู้สึกที่ถูกผู้ใหญ่ที่ตนเคารพมาทำเเบบนี้ เเละตั้งเเต่เกิดเรื่อง ตนยังไม่เห็นหน้าผู้ใหญ่บ้านเลย ดังนั้นขอให้ผู้ใหญ่บ้านพูดความจริงกับตำรวจ เเล้วรับผิดชอบกับสิ่งที่ทำ
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้พูดคุยกับสามีผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนกับภรรยาไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน เพราะตนทำงานอยู่ที่จังหวัดกำเเพงเพชร ส่วนภรรยาอยู่บ้านที่สุรินทร์กับลูก 4 คน ซึ่งที่ผ่านมาครอบครัวตนก็ให้ความเคารพนายสามารถ เพราะเป็นญาติผู้ใหญ่ที่น่านับถือ ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะทำเรื่องไม่ดี กระทั่งวันที่ 14 ส.ค.63 ภรรยาโทรมาเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ตนตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก รีบเดินทางกลับบ้านมาหาภรรยา ซึ่งตอนนี้ตนเสียใจ เเละเป็นห่วงภรรยา เพราะผู้ใหญ่บ้านมีการข่มขู่ว่าจะฆ่า ดังนั้นจึงขอให้ผู้ใหญ่บ้านยอมรับความจริง เเละรับผิดชอบกับสิ่งที่ทำ
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ติดต่อไปยัง พ.ต.ต.พิเชษฐ์ ชูโฉมงาม พนักงานสอบสวน สภ.สนม จ.สุรินทร์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าทางคดี ว่าเมื่อช่วงเช้า เวลา 09.30 น. ได้เรียกผู้เสียหายมาทำการสอบปากคำ ซึ่งผู้เสียหายได้นำหลักฐานเป็นข้อความทางเฟซบุ๊ก ที่สนทนากับผู้ใหญ่บ้านมามอบให้ เเละได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้
จากนั้นเวลา 12.00 น. ได้เรียกนายสามารถ อายุ 41 ปี ผู้ใหญ่บ้านมารับทราบข้อกล่าวหา "กระทำอนาจารบุคคลอื่น ในขณะที่บุคคลนั้นอยู่ในสภาวะไม่สามารถขัดขืนได้" เเละข้อหา "ทำร้ายร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายเเก่กาย" รวมแล้วจำนวน 2 ข้อหา
ในเบื้องต้นนายสามารถ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าอยู่ในห้องเเล้วนั่งดื่มกินด้วยกันจริง เเต่ฝ่ายหญิงยังมีสติตลอดเวลา ไม่ได้หลับ ไม่มีการลวนลามหรือทำร้ายร่างกาย เเละขอให้การในชั้นศาล
เเต่อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ โดยหลังจากนี้จะสอบปากคำพยานเพิ่มอีก 1 ปาก เเละรอผลการตรวจร่างกายผู้เสียหายจากเเพทย์ เเล้วจะสรุปสำนวนส่งฟ้องศาลจังหวัดรัตนะต่อไป
ทั้งนี้เช้าวันที่ 14 ส.ค.63 เวลา 07.25 น. ผู้ใหญ่บ้านส่งข้อความมาทางเฟซบุ๊กโดยยอมรับผิด มีการขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป เเละบอกว่ารูปที่ถ่ายตอนเปลือยนั้นลบทิ้งไปเเล้ว หลังจากนั้นช่วงสาย ฝ่ายหญิงได้ไปเเจ้งความที่ สภ.สนม จ.สุรินทร์ เเล้วผู้ใหญ่บ้านเกิดรู้ จึงทักข้อความเฟซบุ๊กมาอีกครั้ง เวลา 12.56 น. โดยข่มขู่ว่าจะฆ่า ให้ระวังตัวไว้ ติดคุกแค่ 15 ปีไม่นาน
จากนั้นช่วงบ่ายวันที่ 15 ส.ค.63 ภรรยาของผู้ใหญ่บ้านมาหาฝ่ายหญิงที่บ้าน เพื่อขอโทษ เเละขอร้องว่าไม่ให้เอาเรื่อง ซึ่งฝ่ายหญิงไม่ยอม ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะเสียความรู้สึกมาก ๆ
ตัวเเทนชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอสนม 7 ตำบล รวม 21 คน ได้รวมตัวกันที่ว่าการอำเภอสนม จังหวัดสุรินทร์ เเสดงความไม่เห็นด้วย เเละรับไม่ได้กับพฤติกรรมของผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าว เพราะสร้างความเสื่อมเสีย จึงรวมตัวกันเพื่อปกป้องสถาบันกำนันผู้ใหญ่บ้านของอำเภอ ว่าเป็นพฤติกรรมส่วนบุคคล
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้พูดคุยกับกำนันตำบลเเคน คือ นางบุญสวย หวังสุข เปิดเผยว่า ผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าว ดำรงตำเเหน่งมา 8 ปี ส่วนตัวก็รู้จักเเละสนิทสนม ที่ผ่านมาเป็นคนอัธยาศัยดี ตั้งใจทำงานเพื่อส่วนรวม จนชาวบ้านเกิดความไว้ในเเละเลือกให้เป็นผู้นำชุมชน ก็คาดไม่ถึงว่าจะกล้าก่อเหตุเเบบนี้ เพราะผู้เสียหายเองก็เป็นญาติกับผู้ใหญ่บ้าน ถือเป็นความเสื่อมเสียเป็นอย่างมาก
โดยภายหลังจากที่เป็นข่าว ตนพยายามติดต่อผู้ใหญ่บ้านเพื่อจะถามไถ่เรื่องราว เเต่ติดต่อไม่ได้ โทรศัพท์ก็ปิดเครื่อง บ้านก็ไม่อยู่ ไม่ทราบว่าไปที่ไหน ก็อยากให้ผู้ใหญ่มาให้ปากคำตามความเป็นจริงกับตำรวจ เเล้วเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้เดินทางไปยังบ้านหลังเกิดเหตุ อยู่ติดถนนกลางหมู่บ้าน สภาพเป็นบ้าน 2 ชั้น ชั้นบนเป็นไม้ ชั้นล่างเป็นปูน ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่ชั้นล่าง เป็นห้องที่ต่อเติมออกจากตัวบ้าน ภายในห้องมุมตรงประตูทางเข้า มีโต๊ะอาหาร ซึ่งเป็นจุดนั่งดื่มเบียร์ ส่วนอีกมุมภายในห้อง อยู่ห่างกัน 4 เมตร มีเเคร่ไม้ มีเสื่อ เเละผ้าปูที่นอนสีฟ้า
ทีมข่าวได้พบกับเจ้าของบ้าน คือ นางธา บุญเกตุ อายุ 79 ปี ได้เปิดบ้านพาทีมข่าวเดินชมห้อง โดยนางธา เล่าว่า วันที่ 13 ส.ค.63 วันเกิดเหตุ ตนอยู่ที่บ้านกับลูกชายอีก 2 คน รวม 3 คน จนเวลาประมาณทุ่มกว่า ๆ ผู้ใหญ่บ้านกับผู้เสียหายได้ขับรถกระบะมาที่บ้าน เเล้วนั่งดื่มเบียร์อยู่ด้วยกันในห้องดังกล่าว โดยจุดที่นั่งดื่มคือตรงโต๊ะกินข้าว
โดยช่วงเเรก ๆ ลูกชายของตนก็ไปนั่งพูดคุยด้วย เเต่ไม่ได้ดื่มด้วย ผู้ใหญ่บ้านกับผู้เสียหายดื่มกัน 2 คน จนเวลาประมาณ 4-5 ทุ่ม ลูกชายตนก็เข้านอนในบ้าน ในห้องดังกล่าวจึงเหลือผู้ใหญ่บ้านกับผู้เสียหายเพียง 2 คน ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะคืนนั้นไม่ได้ยินเสียงร้องเเต่อย่างใด ได้ยินเพียงเสียงรถขณะที่ผู้เสียหายขับออกจากบ้านไป
กระทั่งวันรุ่งขึ้น เวลาประมาณ 10.00 น. มีตำรวจมาที่บ้าน โดยมีผู้เสียหายพาชี้จุดที่นั่งดื่ม เเละจุดเกิดเหตุคือบริเวณเเคร่ไม้ในห้อง ตนจึงทราบว่าเกิดเรื่องขึ้น ซึ่งตนตกใจมาก เพราะตนกับผู้ใหญ่บ้านเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ที่ผ่านมาไม่เคยมีพฤติกรรมไม่ดี เเละที่ผ่านมาผู้ใหญ่บ้านเเละผู้เสียหาย ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันเเต่อย่างใด ทั้งคู่ดูถูกคอกันดี ดื่มกินด้วยกันเป็นประจำ เเต่เมื่อเกิดเรื่องเเบบนี้ขึ้น ก็ขอให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ตนจะไม่ขอช่วยเหลือ แต่จะให้ผู้ใหญ่บ้านรับกรรมกับสิ่งที่ทำ
Advertisement