จากกรณีกลุ่มผู้ปกครองของนักเรียนชั้นอนุบาล 1 โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งย่านราชพฤกษ์ ส่งคลิปวงจรปิดในห้องเรียนของบุตรหลานมาให้กับทีมข่าว โดยระบุว่าบุตรหลานถูกคุณครูใช้ความรุนแรง และเข้าแจ้งความเรียบร้อยแล้วนั้น
ล่าสุด วันที่ 26 ก.ย. 63 โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ จ.นนทบุรี มีการออกแถลงการณ์ไล่ออกครูจุ๋มแล้วนั้น โดยออกหนังสือ "เรื่องชี้แจงการลงโทษนักเรียนที่ไม่เหมาะสม" ทางโรงเรียนนำคลิปไปแจ้งความที่ สภ.ชัยพฤกษ์ ลงบันทึกประจำวัน วันที่ 24 ก.ย. 63
โดยได้มีการพูดคุยกับผู้ปกครองโดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ 1. ด้านคดีความ โรงเรียนจะคอยอำนวยความสะดวกแก่นักเรียนและผู้ปกครองในการการดำเนินคดีกับครูจุ๋ม 2. ด้านมาตรการป้องกัน แก้ไขปัญหา เยียวยา ผู้ปกครองได้เสนอหลายวิธี ได้แก่ การติดกล้องวงจรปิดในห้องเรียน การเปลี่ยนครูประตำชั้น ให้นักจิตวิทยาดูแลนักเรียน เป็นต้น โดยจะนัดพูดคุยอีกครั้งในวันที่ 29 ก.ย. 63
ที่ สภ.ชัยพฤกษ์ นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมผู้ปกครองเด็กนักเรียนอนุบาล 1 เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งความเพิ่มเติมและยื่นหนังสือให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้รับคลิปวิดีโอวงจรปิดจำนวน 2 วัน จากนายณรงค์ปกรณ์ อินไชยย์ทอง อายุ 41 ปี พ่อน้องเทมส์ เด็กชายวัย 3 ขวบ ซึ่งเป็นที่เห็นภาพน้องเทมส์ถูกทำร้ายร่างกายจากครูในชั้นเรียน คลิปวงจรปิด วันที่ 17 ก.ย. 63 ขณะที่น้องเทมส์นั่งบนเก้าอี้ในห้องเรียนตามปกติ ส่วนครูจุ๋มนั่งอยู่ที่โต๊ะด้านหลังห้องเรียน เดินเข้ามาใช้กำปั้นทุบหลัง 1 ครั้งอย่างแรง บิดและกระชากใบหูน้องเทมส์ ก่อนจะอุ้มตัวยกออกจากเก้าอี้เข้าไปในห้องน้ำ ผ่านไปสักพักน้องเทมส์เดินร้องไห้ออกมาจากห้องน้ำ กลับมานั่งที่เก้าอี้ จากนั้นวงจรปิดจับภาพขณะที่ครูจุ๋มกำลังใช้วัตถุบางอย่างขีดเขียนที่ใบหน้าน้องเทมส์ ก่อนครูจุ๋มเดินออกมายืนหน้าชั้นเรียนแล้วยิ้มแย้มตามปกติ
คลิปวงจรปิดวันที่ 21 ก.ย. 2563 บันทึกภาพเหตุการณ์ ขณะที่น้องเทมส์ กำลังยืนเก็บของที่กระเป๋านักเรียน แขวนอยู่เก้าอี้นั่งในชั้นเรียน ครูจุ๋มยืนอยู่ด้านหลังน้องเทมส์ เดินเข้ามาจับมือทั้งสองข้างก่อนยกมากดที่ใบหน้าน้องเทมส์แล้วเดินออกไป ในจังหวะเดียวกันนี้ มีครูผู้หญิงอีกคนเดินเข้ามาผลักศีรษะน้องเทมส์ลงที่โต๊ะอย่างแรง ก่อนจะพยายามใช้วัตถุบางอย่างป้ายที่ใบหน้าน้องเทมส์อีกด้วย
ส่วนคลิปวงจรปิดวันที่ วันที่ 23 ก.ย. 63 เป็นคลิปที่ครูจุ๋ม นั่งบนเก้าอี้นักเรียน เรียกน้องเทมส์เข้าไปดูโทรศัพท์แล้วพยายามถ่ายรูปเซลฟี่คู่น้องเทมส์ จังหวะนั้นน้องเทมส์จะเดินหนี ครูจุ๋มดึงใบหูกลับมาให้ถ่ายรูปคู่ด้วย
นายณรงค์ปกรณ์ อินไชยย์ทอง อายุ 41 ปี พ่อน้องเทมส์ วัย 3 ขวบ เปิดเผยว่า ภายหลังจากเห็นคลิปวงจรปิดในห้องเรียนวันที่ 23 ก.ย. 63 ในกลุ่มผู้ปกครอง ยังไม่เจอน้องเทมส์ถูกทำร้ายร่างกาย จึงมีการไล่กล้องวงจรปิดย้อนหลัง พบว่าลูกถูกทำร้ายร่างกายวันที่ 17 ก.ย. 63 เวลาประมาณ 10.36 น. ตามคลิปวงจรปิด และถูกดึงหูเข้ามาถ่ายรูปเมื่อวันที่ 23 ก.ย. 63 เวลาประมาณ 14.30 น.
ภายหลังเห็นคลิปถึงกับน้ำตาคลอ ด้วยความเจ็บปวดใจ ส่งลูกไปเรียนโรงเรียนที่ตั้งใจเลือกมาอย่างดี ไปเรียนที่โรงเรียนได้ 6 เดือนแล้ว ไม่คาดคิดจะโดนทำร้ายทรมาน รู้สึกรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น้องเทมส์ไม่เคยเล่าให้ฟังว่าถูกทำร้ายร่างกาย เนื่องจากน้องเทมส์ยังไม่สามารถเล่าประติดประต่อเรื่องราวได้ อีกทั้งพฤติกรรมของครูจุ๋มเหมือนทำร้ายเด็ก แล้วโอ๋เด็กให้ผ่านไปวัน ๆ ที่ผ่านมา น้องเทมส์เป็นเด็กร่าเริงมาก แต่พักหลังมานี้ช่วงนอนกลางคืนมักจะผวา ละเมอตื่นมาร้องไห้ หรือเวลาเข้าห้องน้ำตอนเช้าจะมีอาการกลัวชักโครก มีอาการระแวงและเริ่มกลัวคน
เมื่อวานนี้ที่ครูจุ๋มออกมาขอโทษที่โรงเรียน ตนมองว่าครูจุ๋มยังไม่รู้สึกผิดจริง ๆ เหมือนขอโทษให้จบแล้วผ่าน ๆ ไป หลังจากนี้ไม่มั่นใจว่าจะให้น้องเทมส์เรียนต่อที่โรงเรียนแห่งนี้หรือไม่ ยังสองจิตสองใจ ทั้งนี้วันอังคารที่ 29 ก.ย. นี้ จะเดินทางเข้าไปที่โรงเรียนพร้อมกลุ่มผู้ปกครองอีกครั้ง
นางสาวณักษ์ลภัส สุรมโนกุล อายุ 31 ปี แม่น้องเทมส์ เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่เห็นคลิปน้องเทมส์ถูกทำร้ายร่างกาย ตนรู้สึกไม่สบายใจ ทนดูพฤติกรรมไม่ได้ และยิ่งมีคนบอกว่าน้องเทมส์โดนหนักสุด ตนแทบเข่าทรุด รู้สึกเสียใจ อีกทั้งได้เห็นร่องรอยบาดแผลของน้องเทมส์ที่มีอาการช้ำแดงบริเวณหลังและซี่โครงหลายจุด ยิ่งรับไม่ได้เพราะเลี้ยงลูกประคบประหงมให้เติบโตมา นอกจากนี้ ยังมีคนเล่าถูกพฤติกรรมครูจุ๋มที่ทำร้ายน้องเทมส์ว่าเคยเดินเข้าไปในห้องน้ำ จังหวะนั้นน้องเทมส์นั่งขับถ่ายอยู่ครูจุ๋มเกิดไม่พอใจจึงทุบหลังตีน้องเทมส์จนร้องไห้อีกด้วย
อยากถามครูจุ๋มว่า "ทำได้ยังไง เด็ก 2-3 ขวบ ตาดำ ๆ การเป็นครูต้องมีจรรยาบรรณ ต้องรักเด็ก ปลูกฝัง และสอนเด็กให้ดี แต่กลับทำร้ายร่างกายเด็กทั้งที่เด็กนั่งอยู่เฉย ๆ ทำจนเป็นนิสัย" ทั้งนี้ มีครูที่เข้ามาใหม่ทำงานได้ 2 สัปดาห์ ล่าสุดลาออกจากโรงเรียนแล้ว เนื่องจากรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และบอกว่าครูจุ๋มทำงานมานาน เป็นที่เกรงกลัวของครูหลายคน ที่ผ่านมามีคนบอกคนเตือนแต่ไม่สามารถทำอะไรครูจุ๋มได้
ทีมข่าวได้รับวิดีโอกล้องวงจรปิดจาก นางสาวกาญจนา ปัญญาแดง อายุ 30 ปี แม่ของน้องโอห์ม เด็กชายวัย 3 ขวบ ซึ่งเป็นคลิปบันทึกจากภายในห้องเรียนอนุบาล 1 ขณะที่ครูจุ๋มกำลังผลักและด่าเด็กนักเรียน น้องโอห์มถูกครูจุ๋มด่าทอ เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 63 เวลา 11.05 น. ครูจุ๋มกำลังเช็ดโต๊ะจัดเตรียมห้องเรียน จากนั้นเดินออกไปที่หน้าห้อง ก่อนจะกระชากเสื้อน้องโอห์มเข้ามาในห้อง ผลักเข้าไปในห้องจนล้มหลายรอบ พร้อมทั้งถูกชี้หน้าด่าเป็นเวลานาน
นางสาวกาญจนา ปัญญาแดง อายุ 30 ปี แม่ของน้องโอห์ม เด็กชายวัย 3 ขวบ เปิดเผยว่า ตนเห็นคลิปตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 63 ทันทีที่เห็นคลิปตนพยายามลุ้นขอให้ไม่ใช่ลูกของตน แต่สุดท้ายพบว่าเป็นน้องโอห์มที่ถูกทำร้ายด้วย ยอมรับว่าพูดไม่ออก จุก เสียใจมาก ที่ครูจุ๋มผลักน้องจนล้มหลายครั้ง
ที่ผ่านมาน้องโอห์มไม่เคยเล่าหรือบอกว่าโดนครูจุ๋มลงโทษรุนแรง กระทั่งช่วงที่เห็นคลิป จึงได้พยายามถามลูก ทราบว่าเคยมีเหตุการณ์ในห้องเรียน น้องโอห์มมองไม่เห็นกระดาน จึงยืนขึ้นบนเก้าอี้ จากนั้นครูจุ๋มเดินมาด่า น้องจึงบอกว่าปวดปัสสาวะ จากนั้นครูจุ๋มตีน้องโอห์มแล้วลากออกไปที่ห้องน้ำด้านข้างห้องเรียน ซึ่งเป็นมุมที่กล้องวงจรปิดมองไม่เห็นชัดเจน ก่อนจะขังเดี่ยวให้น้องโอห์มอยู่ในห้องน้ำลำพัง พักใหญ่จึงยอมปล่อยออกมา
ภายหลังเกิดเหตุ ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา สังเกตเห็นว่าน้องโอห์มไม่กล้าอยู่คนเดียว ระแวงกลัว ไม่กล้าไปเข้าห้องน้ำคนเดียว กลัวห้องน้ำ ก้าวร้าวขึ้น คำพูดไม่น่าฟัง พฤติกรรมใช้ความรุนแรง เช่น กระชากหัวพ่อ ตีหัวพ่อ พฤติกรรมเปลี่ยนไปทั้งหมด โดยเชื่อว่าน่าจะเป็นพฤติกรรมจดจำและลอกเลียนแบบจากครูในชั้นเรียน นอกจากนี้ทุกครั้งที่เอ่ยชื่อครูจุ๋ม น้องโอห์มมักจะพูดเสียงดังหรือเอ่ยชื่อครูจุ๋มด้วยน้ำเสียงดุดัน คล้ายพฤติกรรมเลียนแบบ
ในขณะเดียวกันทีมข่าวได้รับภาพจากกล้องวงจรปิดจาก นางสาวณัฐมณกาญจน์ ลิ่มอติบูลย์ อายุ 35 ปี แม่น้องรีวิว เป็นคลิปเหตุการณ์เมื่อ วันที่ 23 ก.ย. 63 เวลา 10.32 น. บันทึกภาพขณะที่อยู่ในห้องเรียน น้องรีวิวกำลังนั่งเขียนหนังสืออยู่ ครูจุ๋มเดินไปกดหัว แล้วจิกหัวโขกโต๊ะ 2 ครั้งอย่างแรง ทั้งที่เด็กนั่งเรียนตามปกติ
นางสาวณัฐมณกาญจน์ ลิ่มอติบูลย์ อายุ 35 ปี แม่น้องรีวิว เด็กหญิงวัย 3 ขวบ เปิดเผยว่า ก่อนที่จะเห็นคลิปที่น้องรีวิวถูกครูทำโทษรุนแรง ยอมรับว่าไว้ใจค่อนข้างสนิทกับครูจุ๋ม มีการพูดคุยติดต่อกันตลอด มักจะพูดคุยถามครูจุ๋มว่าวันนี้น้องรีวิวเป็นอย่างไร ครูจุ๋ม บอกว่าน้องน่ารัก วันนี้ทำทรงผมให้ใหม่ ก่อนหน้านี้น้องรีวิวมีร่องรอยบาดแผล รอยเล็บ ตามร่างกาย มีร่องรอยเขียวช้ำตามใบหู หลัง ลำคอ ที่ผ่านมาเคยถามลูกสาวว่าไปทำอะไรมา ลูกบอกแค่ว่า "โดนยุงกัด" แต่เมื่อได้เห็นคลิปหลักฐานที่ครูจุ๋มทำร้ายเด็กจริง และหนึ่งในนั้นคือน้องรีวิว ตนจึงรับไม่ได้และไม่ยอม ตนจะดำเนินคดีทางอาญาให้ถึงที่สุด
ส่วนกรณีที่ครูจุ๋มอ้างว่าเครียดเพราะแม่ป่วย มีปัญหาครอบครัวนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะเมื่อ 4 ปีก่อน มีเคสกรณีนักเรียนของโรงเรียนถูกครูชาวต่างชาติ ครูไทยรายอื่น และครูจุ๋มทำร้ายร่างกายอีกด้วย ซึ่งเกิดมานานมากแล้ว ภายหลังจากที่โรงเรียนบอกว่าครูจุ๋ม เป็นบุคลากรที่ดี ไม่เคยมีประวัติแบบนี้ ตนไม่เชื่อ ถ้าหากต้องการรู้ว่าผู้ปกครองต้องการอะไรอีก ตนอยากถามกลับไปว่า "ให้กระทืบกลับคืนไหม เห็นเด็กเป็นที่ระบายอารมณ์หรอ" ถ้าวันหนึ่งลูกครูจุ๋มโดนทำร้ายแบบนี้ จะต้องรู้สึกหรือต้องการอะไร ตนหาเงินเสียค่าเทอมหลายบาท ซื้อสังคม ซื้อการศึกษา สภาพแวดล้อมที่ดี แต่กลับได้สิ่งนี้ตอบแทน และตนเรียกร้องให้มีการตรวจเจาะเลือดหาสารเสพติดในตัวครูจุ๋มด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ใจแทบขาด! ครูอนุบาลจิกหัวตบเด็กหน้าคว่ำ พ่อเด็กฉะป่วยจิต แฟนหนุ่มบอกใจดีอ้างตีเพราะดื้อ
สำหรับนักเรียนที่ถูกครุจุ๋มทำร้ายร่างกาย จากหลักฐานคลิปกล้องวงจรปิดมีจำนวนหลายคน และผู้ปกครองได้ดำเนินการแจ้งความเพื่อเอาผิดตามขั้นตอนกฎหมายแล้วนั้น
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ต.บางตะไนย์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นางนิษฐา อยู่คง ครูใหญ่โรงเรียน เปิดเผยว่า ภายหลังจากทราบเหตุการณ์ว่ามีการลงโทษทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียนระดับชั้นอนุบาล 1 ทางคณะกรรมการโรงเรียนมีการตรวจสอบ ติดตามตามข้อเท็จจริงต่าง ๆ ซึ่งทางโรงเรียนยอมรับว่ารู้สึกตกใจและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ ทางโรงเรียนไม่เพิกเฉย พยายามหาข้อมูลสอบถามและพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายตามความเป็นจริง
สำหรับครูจุ๋ม เป็นครูพี่เลี้ยงของโรงเรียน ทำงานมานานกว่า 7-8 ปีแล้ว ที่ผ่านมาโรงเรียนไม่ปรากฎเห็นพฤติกรรมครูจุ๋มทำโทษเด็กนักเรียน และไม่เคยได้รับการแจ้งร้องเรียน หรือรายงานเกี่ยวกับพฤติกรรม อีกทั้งเป็นบุคลากรที่ดีของโรงเรียน ได้รับการชื่นชมจากผู้ปกครองมาโดยตลอด ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ทราบเรื่อง โรงเรียนดำเนินการเลิกจ้างครูจุ๋มทันที ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. 63 ที่ผ่านมา และดำเนินการสอบสวนและเตรียมฝ่ายกฎหมาย เตรียมแจ้งความเอาผิดครูจุ๋มตามความผิดอาญา เนื่องจากทำลายชื่อเสียงของโรงเรียน
เบื้องต้น จากการสอบถาม ครูจุ๋มบอกว่าเกิดจากความเครียด แม่ป่วย ปัญหาส่วนตัว จึงควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ การลงโทษนักเรียนลักษณะนี้เป็นช่วงระยะ 1 เดือนย้อนหลังเท่านั้น ขณะเดียวกันได้เห็นคลิปแล้วมีครูนิ ครูสอนศิลปะอีกรายที่มีพฤติกรรมปรากฎตามภาพวงจรปิดห้องเรียน มีการลงโทษนักเรียนในลักษณะเดียวกับครูจุ๋ม ซึ่งยังไม่ได้รับรายงานเรื่องนี้ แต่ก็จะดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียด
สำหรับห้องเรียน นักเรียนชั้นอนุบาล 1 นั้น มีครูประจำชั้น ครูพี่เลี้ยง ครูสอนศิลปะ และครูต่างชาติ ประจำอยู่ทั้งหมด 4 คน ในการดูแลนักเรียน หลังจากนี้โรงเรียนมี 4 มาตรการที่จะดำเนินการ คือ 1. สร้างความเชื่อมั่น ตรวจสอบคุณภาพครูผู้สอน ระดับอนุบาล ปฐมวัย โดยเฉพาะการควบคุมจิตใจ 2. สร้างมาตรฐานการตรวจสอบเข้มแข็ง มีการติดตามกล้องวงจรปิดอย่างละเอียด 3. มาตรฐานพัฒนาบุคลากรครูต่อเนื่อง ครูปฐมวัย ใช้เทคนิคเพิ่มการเสริมแรงให้กำลังใจ ห้ามใช้ความรุนแรง และ 4. มาตรฐานสร้างเครือข่ายของกลุ่มผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมดูแลนักเรียนร่วมกับทางโรงเรียน เพื่อนำมาปรับปรุงให้ดีขึ้น
Advertisement