ตำรวจอำนาจเจริญ ยึดไอซ์ล็อตใหญ่ มูลค่า 377 ล้านบาท

ตำรวจอำนาจเจริญ โชว์ผลงานยึดไอซ์ล็อตใหญ่ 754 กิโลกรัม ทะลักเข้าไทยจากฝั่งเพื่อนบ้าน มูลค่ากว่า 377 ล้านบาท ส่วนผู้ต้องหาสามารถหลบหนีไปได้

คอนเทนต์แนะนำ

ดับแล้ว 5 ศพ! นักท่องเที่ยวต่างชาติสังเวยชีวิตให้เหล้าผสมเมทานอลในลาว

ทำถึง! ทีมเชียร์ลีดเดอร์ขอนแก่นวิทยายน จากไวรัลชุดบอดี้มนุษย์และเปรต

รมช.คลัง แนะเข้าเว็บ Welfare.mof.go.th ยืนยันสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3 พล.ต.ท.มนครี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส. และ พล.ต.ต.ธรรมจักร คงมงคล ผบก.ภ.จว.อำนาจเจริญ ร่วมกันแถลงข่าวยึดยาไอซ์จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนัก 754 กิโลกรัม ยาบ้าอีก 180,000 เม็ด รถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิซิ ปาเจโร สีขาว 1 คัน หมายเลขทะเบียน 2กจ1000 กรุงเทพมหานคร รวมมูลค่ากว่า 377 ล้านบาท

การจับกุมในครั้งนี้ พ.ต.อ.อลงกรณ์ สนุกพันธ์ ผกก.สส.ภ.จว.อำนาจเจริญ ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีขบวนการเครือข่ายยาเสพติดลักลอบลำเลียงยาเสพติด (ยาไอซ์,ยาบ้า) จากประเทศเพื่อนบ้านในเขตพื้นที่จังหวัดนครพนมลำเลียงเข้ามาพื้นที่ตอนใน พ.ต.อ.อลงกรณ์จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและได้ร่วมกับ จนท.ตำรวจจาก กก.2บก.ปส.2 วางแผนในการจับกุม และสายลับได้แจ้งเบาะแสว่าขบวนการเครือข่ายยาเสพติดนี้จะใช้รถยนต์มิตซูบิซิ ปาเจโร สีขาว หมายเลขทะเบียน 2กจ1000 กรุงเทพมหานคร ในการลำเลียงยาเสพติด

ต่อมารถยนต์คันดังกล่าวที่ตรงตามที่ได้รับแจ้งจากสายลับขับมาถึงบ้านโคกสวาสดิ์ ต.นาผือ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ พ.ต.อ.อลงกรณ์จึงสั่งการให้สกัดรถยนต์คันดังกล่าวแต่คนขับได้เร่งความเร็วเพื่อหลบหนีและเมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ใช้รถยนต์จอดขวางหน้าจนสามารถสกัดให้จอดได้ แต่ชายวัยรุ่นที่เป็นคนขับได้เปิดประตูรถยนต์และวิ่งหลบหนีเข้าไปป่าละเมาะข้างทาง จนท.ตำรวจพยามวิ่งไล่ติดตามแต่ชายวันรุ่นดังกล่าวได้อาศัยความมืดหลบหนีไปได้ จนท.ตำรวจจึงได้ทำการตรวจค้นรถยนต์คันดังกล่าว พบถุงพลาสติดสีดำอยู่ภายในรถยนต์หลายใบ โดยวางไว้ตั้งแต่บริเวณเบาะหลังคนขับและเบาะหลังคนนั่งด้านซ้ายจนถึงบริเวณท้ายรถ เมื่อตรวจสอบโดยละเอียดก็พบว่าเป็นยาไอซ์น้ำหนัก 754 กิโลกรัม ยาบ้าอีกจำนวน 90 มัด ประมาณ 180,000 เม็ด จึงได้ทำการตรวจยึดของกลางและรถยนต์คันดังกล่าวไว้

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคนร้ายจะอาศัยความมืดหลบหนีไปได้แต่จากการสืบสวน และข้อมูลที่ได้รับรายงานจากสายลับในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ก็พอที่จะทราบถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังและร่วมขบวนการดังกล่าวแล้วว่าเป็นใคร ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้มีการรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมและควบคุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป