จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก เจ้ม้อยv+ ได้มีการโพสต์เรื่องราวของคุณแม่แรกคลอดที่ต้องสูญเสียลูกไปหลังจากทำคลอดเสร็จ โดยยังคาใจกับสาเหตุการตายของลูก เนื่องจากยังไม่ได้รับคำชี้แจงที่ชัดเจน โดยหมอทำคลอดชื่อหมอสยาม การฝากครรภ์เป็นการฝากแบบพิเศษ หรือ การผ่าคลอด
ล่าสุดวันที่ 8 ต.ค.63 ทีมข่าวเดินทางมาพบกับครอบครัวผู้เสียหาย ครอบครัวน้องกัปตัน เพศชาย คลอดวันที่ 5 ต.ค. 63 ช่วงเวลา 10.00 น. เสียชีวิตวันที่ 6 ต.ค. 63 เวลา 03.00 น. สาเหตุที่โรงพยาบาลแจ้งคือ น้ำคร่ำเข้าไปอุดตันที่ปอด ทำให้เด็กหายใจเองไม่ได้
นายวิทูร พึ่งพร พ่อของเด็กทารกผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตลอดการตั้งครรภ์ ภรรยาตนมีอาการปกติมาก แพทย์ที่ไปฝากครรภ์ด้วยก็ไม่เคยแจ้งภาวะเสี่ยง แต่หลังคลอด ปรากฎว่าครอบครัวได้รับแจ้งว่า ลูกตนมีอาการหายใจเองไม่ได้ โดยแจ้งมาหลังจาก 4 ชั่งโมงหลังการคลอด
ตนเองได้มีโอกาสนเจอลูกตอนที่ลูกใกล้จะจากไปแล้ว ตนยังติดใจในการรักษาว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อตนถามภรรยา ภรรยาแจ้งว่าหมอในห้องคลอดบอกว่าลูกตนแข็งแรง น้ำคร่ำใสสะอาด คะแนนการคลอดเต็ม 10 ลูกตนได้ 9.9 คะแนน แต่เมื่อลูกตาย กลับมาบอกว่าน้ำคร่ำสกปก ทำให้ไปติดที่ปอดจนหายใจไม่ได้
ครอบครัวมองว่าการชี้แจงของโรงพยาบาลมีความไม่ชัดเจน ตนเองอธิบายไม่ถูก ลูกตนเป็นคน แต่ยังไม่มีการรับผิดชอบ นอกจากการจ่ายค่าห้องพิเศษขณะนี้ให้ ตนเคยถามโรงพยาบาลว่าหากลูกตนอาการโคม่า ทำไมจึงไม่ส่งต่อรักษาที่อื่น ซึ่งโรงพยาบาลก็ระบุว่าโรงพยาบาลมีความสามารถในการรักษา ส่วนตัวไม่คิดว่าต้องแจ้งเกิดแล้วต้องแจ้งตายลูกไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งตอนนี้ตนเองยังไม่ได้ไปแจ้งเกิดลูกเลย เพราะตนยังรู้สึกแย่
น.ส.ศรีวรรณ เนตรวีระ แม่ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนเองมีการฝากครรภ์กับหมอ ตอนไปฝากครรภ์จนถึงก่อนคลอด ลูกมีอาการปกติ ตนเองก็เคยฝากครรภ์ลูกคนที่ 2 กับหมอคนนี้มาแล้ว หลังจากที่ตนคลอดลูกออกมา หมอได้นำลูกมาดูดนมตนเป็นครั้งแรก ลูกมีอาการปกติมาก จากนั้นพยาบาลมีการนำลูกไปที่ห้องพักฟื้น โดยบอกว่าต้องรอ 2 ชั่วโมงเพื่อดูอาการ ก่อนจะนำมาพบแม่อีกครั้ง
ลูกตนมีอาการปกติ ตอนดูดนมมีแรง หายใจปกติ ตนเองจึงยังไม่เข้าใจว่าลูกเสียชีวิตได้อย่างไร ลูกตนสามารถหายใจเองได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปกว่า 4 ชั่วโมง แพทย์กลับมาบอกว่าลูกอาการ 50/50 ซึ่งตนสงสัยว่าทำไมเมื่อเลยเวลา 2 ชั่วโมงแรกไปแล้ว โรงพยาบาลถึงไม่มีการแจ้ง จนตนต้องให้คนไปถาม แพทย์ยังบอกว่า ก่อนลูกตนจะมีอาการหายใจเองไม่ได้ ส่วนตัวรู้สึกติดใจ จึงตัดสินใจจะนำร่างลูกส่งที่นิติเวช เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริง
นอกจากนี้ ตนเองมีอาการเหมือนคนฝันว่าลูกมานอนข้าง ๆ ตน และมาบอกว่าหิวนม แต่กินนมไม่ได้ เนื่องจากต้องกลับบ้านแล้ว คล้ายว่าลูกมาลาแม่ และหลังจากที่ตนโพสต์ พบว่ามีคนติดต่อมาว่ามีลูกเสียชีวิตหลังคลอดกับหมอคนนี้ และที่โรงพยาบาลนี้หลายรายเช่นกัน
ขณะที่ นางธัญญลักษณ์ เสือขำ อายุ 43 ปี แม่ที่เสียลูกหลังคลอด เปิดเผยว่า ตนเองเองก็ฝากครรภ์แบบพิเศษกับหมอคนเดียวกัน กำหนดคลอดวันที่ 14 เม.ย. 63 แต่ตนเองมีอาการตลอดก่อนกำหนด เลือดออกที่ช่องคลอดวันที่ 19 มี.ค. 63 เลือดออกค่อนข้างเยอะ ตนก็โทรหาหมอ คุณหมอให้ไปที่โรงพยาบาลวัดคลื่นหัวใจเด็กในท้อง เด็กอาการปกติ จากนั้นตนก็นอนรอ แล้วพยาบาลก็มาแจ้งให้ตนกลับบ้าน โดยไม่ได้บอกสาเหตุ ซึ่งตอนนั้นตนมีอาการปวดท้องหน่วง ๆ ไม่ได้หนักมาก
จากนั้นเวลา 08.00 น. ของวันที่ 20 มี.ค. 63 ตนเองปวดท้องหนัก จึงกลับมาโรงพยาบาล ตนโทรหาหมออีก หมอก็ให้ตนมาหาที่โรงพยาบาล สุดท้ายก็ไม่ได้พบ จนกระทั่งตนนอนรออยู่ในห้องผ่าตัด ไม่มีใครช่วยดูแล ตนถึงกับร้องไห้ออกมาอย่างหนัก จากนั้นน้ำคร่ำตนเองก็แตก จนตนต้องเรียกคนมาดู หมอก็มาทำคลอดให้ และบอกตนหลังเด็กออกมาว่าน้องตายแล้ว ตนเองก็ทำอะไรไม่ถูก
ตนเองคิดว่าหากหมอทำคลอดให้ตนตั้งแต่คืน 19 มี.ค. 63 ลูกตนต้องไม่ตาย เพราะลูกยังดิ้นในท้องตน หมอไม่ได้ยอมรับอะไร บอกแต่ว่าเขาติดเคสผ่าตัด จึงไม่ได้มาเจอตน ตนเองเคยถามหมอถึงความรับผิดชอบ ได้คำตอบที่ไม่คิดจะได้ยินจากปากหมอคือ "หมอช่วยชีวิตแม่เด็กไว้แล้ว ถ้าทำเด็กตาย ต้องมาตามล้างตามเช็ดทุกเคสหรือ" ตนเองต้องรักษาตัวในไอซียูร่วม 1 เดือน และได้รับเงินผ่าตัดคืน แลกกับความทุกข์ทรมาน ซึ่งตนเองไม่ได้แจ้งความเพราะตนไม่ได้ส่งศพไปชันสูตร ตอนนั้นตนเองทำอะไรไม่ถูกด้วย
ด้านน.ส.สุทัตตา ทับทิมแก้ว ซึ่งคลอดลูกสาววันที่ 28 ส.ค. 63 ช่วงเวลา 01.16 น. ลูกเสียชีวิต 4 ก.ย. 63 เวลา 23.56 น. ชื่อน้องใบบุญ เป็นลูกคนแรก เปิดเผยว่า ตนเองฝากครรภ์แบบพิเศษกับหมอคนเดียวกัน
โดยวันที่ 27 ส.ค. 63 ตนเองมีอาการน้ำเดินเหมือนจะคลอดลูก แพทย์ตรวจแล้วว่าปากหมดลูกตนยังไม่เปิด อัลตราซาวด์ดูเด็ก แพทย์บอกว่าเด็กน่าจะมีอาการหัวใจโต ตนเองมีอาการจิตตก ห่วงลูกจะอันตราย ไปนอนรอหมออยู่นานมาก เนื่องจากแพทย์ติดผ่าคนไข้คนอื่น ซึ่งเป็นการคลอดก่อนกำหนดราว 1 เดือน ระหว่างรอคลอดตนมีอาการหายใจไม่ออก หมอต้องให้ออกซิเจน โดยพยาบาลเข็นตนไปรอที่ห้องผ่าตัด ภาพที่เห็นคือหมอก็ทำคลอดคนอื่นไปด้วย
จากนั้นเมื่อถึงคิวตน ลูกคลอดออกมา ตนเองได้ยินเสียงร้องลูก 2 ครั้ง แล้วก็นิ่งเงียบไป จากนั้นลูกตนก็ไม่รู้สึกตัวอีก จนกระทั่งเสียชีวิต โดยแพทย์แจ้งว่าลูกตนบวมน้ำ เลือดจาง ชัก ช็อก ปอดติดเชื้อ ซึ่งแพทย์ก็ไม่ได้รับผิดชอบ ตนเองได้คุยกับหมอวันที่เผาลูก หมอแจ้งว่าเด็กที่ตายไม่ได้เป็นเพราะตัวของหมอ แต่ครอบครัวยังติดใจมาถึงวันนี้ ซึ่งตนเองไม่ได้แจ้งความ เพราะไม่มีความรู้