เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่เกาะติดบริเวณชายแดนติดลำน้ำสาย จุดข้ามสายลมจอยต่อเนื่องต.หัวฝาย ซึ่งมีจุดเสี่ยงเข้า-ออก ทั้งทางบก-ทางเขา โดยเฉพาะทางน้ำ เพราะในช่วงน้ำความลึกของน้ำเพียงแค่ 1 เมตรเท่านั้น ขณะที่ความกว้างของลำน้ำในจุดนี้ประมาณ 50 เมตร ซึ่งหากมองข้ามไปฝั่งเมียนมา จะพบเห็นอาคารบ้านเรือนอยู่ติดกับริมน้ำ
โดยบางหลังมีการทำขั้นบันไดเชื่อมลงมายังลำน้ำอีกด้วย แต่เจ้าหน้าที่ยังมีวางกำลังเข้มงวดตลอดแนว 8 กิโลเมตร ในฝั่งนี้ตั้งแต่ ต.หัวฝ่าย ต่อเนื่องยาวลำน้ำสาย จุดข้ามสายลมจอย ถึงด่านพรมแดนแม่สาย สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 (สะพาน 2)
จุดข้ามสายลมจอยต่อเนื่อง ต.หัวฝาย พบชาวเมียนมา ลักษณะต้องสงสัยทำที่ถือไม่ไผ่คล้ายคันเบ็ด เกี่ยวกับตาข่ายคล้ายตะคัดดักปลา ทำทีลงมายังลำน้ำสาย ซึ่งค่อย ๆ เดินขยับมาเกือบถึงริมฝั่งไทย โดยจังหวะนี้เจ้าหน้าที่รีบเข้าประชิด และประกาศแจ้งให้ขึ้นกับไป โดยชาวเมียนมาอ้างว่ามาหาปลา ขอให้สัก 2-3 ตัว ถึงจะขึ้นไป แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยินยอม กล่าวประกาศอีกครั้งว่า “กลับฝั่งไปเลยครับ”
ขณะที่ พ.อ.สัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล ผู้บังคับการ กองกำลังผาเมืองเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 (ผบ.ฉก.ม.3) เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ด่านพรมแดนแม่สายพบคนลักลอมข้ามมาไทยกว่า 150 จุด แบ่งเป็นการเดินข้ามเขาและเดินข้ามน้ำลำน้ำสาย จุดข้ามสายลมจอย ซึ่งเฝ้าระวังกรณีพบเห็นชาวเมียมาหาปลา เพราะหากเผลอแม้แต่วินาทีเดียวก็วิ่งหายข้ามมาไทยได้แล้ว ขณะเดียวกันต้องคุมเข้มพื้นที่ล่อแหลม
ทั้งนี้ยังพบว่าช่วงกลางคืนเจ้าหน้าจะใช้กล้องอินฟาเรด หรือกล้องตรวจการกลางคืน ส่องสำรวจเป็นระยะ ๆ ส่วนโซลาร์เซลล์พร้อมไฟสปอตไลต์ที่ติดตั้งช่วยส่องสว่างในจุดเสี่ยงที่สามารถลักลอบขึ้นมาได้ง่าย อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจตลอดทั้งวัน ทีมข่าวยังไม่พบการลักลอบเข้ามาฝั่งไทยแม้แต่คนเดียว
แต่แม้ไม่พบผู้ลักลอบข้ามแดน ไทยยังคงวางกำลังทหารเข้มจุดเสี่ยง โดยเฉพาะช่องทางป้ายเหลือง ดอยผาหมี เพราะชายแดนไทย-เมียนมา ห่างกันเพียงช่องทางถนนเท่านั้น ดอยผาหมี ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย เป็นอีกจุดที่พบการลักลอบเข้าไทยเป็นประจำ ซึ่งล่าสุดทีมข่าวลงพื้นที่จุดเสี่ยงบริเวณช่องทางป้ายเหลือง ซึ่งห่างจากด่านตรวจผาหมี ต.เวียงพางคำ จ.เชียงราย ประมาณ 400 เมตร จุดนี้เจ้าหน้าที่วางกำลัง 3 นาย กินนอน ประจำการตลอด 24 ชม. พร้อมกล้องวงจรปิด ริมถนนฝั่งไทย ช่วยในการสอดส่อง
สืบเนื่องจากบริเวณนี้ หากวัดจากแนวถนนกั้นด้านฝั่งไทยถัดมาเพียง 400 เมตร ก็พบหมู่บ้านฝั่งไทยแล้ว ขณะที่ฝั่งเมียนมาถัดไปในแนวเดียวกับถนนเพียง 200 เมตรก็พบหมู่บ้านฝั่งเมียนมา โดยการวางกำลังหลักในแนวดอยผาหมี เป็นพื้นที่เขาทั้งหมดเชื่อมต่อกับดอยผาฮี้ ในตลอดแนวมีการวางกำลังจุดละ 3 นาย ห่างกันประมาณ 200 เมตร และจะมีการวางรั้วลาดหนามหีบเพลงตลอดทั้งแนว
นายอดิเรก ไลไธสง ปลัดอาวุโสอำเภอแม่สาย เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางจังหวัดเชียงราย จะสามารถวางกำลังเข้มงวดตามแนวชายแดน โดยรวมคือสกัดและควบคุมได้ เนื่องจากภายหลังพบการลักลอบครั้งใหญ่ จังหวัดก็ประกาศบังคับบุคคลที่ข้ามไปอย่างผิดกฎหมาย แจ้งความประสงค์ขอกลับตามกฎหมาย ได้ทางด่านพรมแดนแม่สาย สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 (สะพาน 2) ทำให้ขณะยังไม่พบการลักลอบเข้ามารวมกว่า 10 วันแล้ว
จึงเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) และเจ้าหน้าที่ทหาร ที่จะดูแลแนวชายแดนคือลำน้ำสาย, ลำน้ำลวกกั้น และสันเขา โดยเฉพาะแนวชายแดนไทย-เมียนมา อ.เวียงพางคำ เป็นถนนตลอดแนว ซึ่งถนนฝั่งซ้ายเป็นของเมียนมา และฝั่งขวาคือของไทย ถ้ามีการลักลอบแบบเข้ามายังถนนได้ ก็สามารถสื่อสารให้รถโดยสารฝั่งไทยขึ้นไปรับได้เลย วางกำลังเข้มงวด อย่าคาดสายตา
ทีมข่าวยังคงเกาะติดการล็อกแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.เชียงราย และทีมข่าวลงพื้นที่หมู่บ้านเหมืองแดง ม.1 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย พื้นที่ติดลำน้ำรวก ชายแดนเมียนมา ติดโรงแรม 1G1 เป็นอีก 1 จุด ที่พบคนลักลอบข้ามมายังไทย เนื่องจากลำน้ำรวกที่กันขวางกว้างเพียง 6 เมตร เท่านั้น ซึ่งพบว่า โรงแรมแห่งหนึ่งเปิดไฟส่องสว่างเพียงตึกเดียว ส่วนอีกตึกคาดว่าเป็นแหล่งระบาด มีสถานบันเทิง-โรงแรม-ร้านค้า-และถูกทางการเมียนมาสั่งปิด
พล.ต.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง (ผบ.กกล.ผาเมือง) เปิดเผยกับทีมข่าวว่า มั่นใจแนวชายแดนซึ่งขณะนี้วางกำลังเจ้าหน้าที่ไว้อย่างหนาแน่น ซึ่งไม่ใช่ฝั่งไทยเพียงอย่างเดียว แต่ตนได้ประสานกับทางการเมียนมา ซึ่งมีการนำกำลังช่วยเสริมล็อกแนวชายแดนเมียนมาอีก 2 กองร้อย เพราะตอนนี้ตลอดแนวล้วนเป็นจุดล่อแหลมทั้งหมด ขณะเดียวกันยังไม่การใช้เครื่องมือพิเศษ ทั้งโดรน, ไฟส่องสว่าง และสลับกันลาดตระเวนตลอดเวลาในพื้นที่ ซึ่งหลังจากนี้มั่นใจว่า จะไม่มีการลักลอบเข้ามา เพราะการประสานกับเมียนมาส่งคนไทยกลับ มีขั้นตอนที่รวดเร็ว ปลอดภัย
ล่าสุดที่ด่านพรมแดนแม่สาย สะพานมิตรภาพไทย - เมียนมา แห่งที่ 2 อ.แม่สาย จ.เชียงราย (สะพาน 2) เวลาประมาณ 15.30 น. คนไทยชุดแรกถูกส่งตัวเข้าไทย รวม 50 คน แบ่งเป็นผู้เดินทางเข้าสู่เมียนมาอย่างถูกกฎหมาย 7 คน, ผิดกฎหมาย 43 คน ซึ่งใน 43 คนนี้พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 5 คน เพศหญิงทั้งหมด และถูกส่งขึ้นรถพยาบาลเคลื่อนที่ กู้ภัยอลินหย่องข้ามมายังฝั่งไทย ส่วนรอบที่ 2 เป็นคนไทยที่ผิดกฎหมายทั้งหมด ถูกส่งกลับเข้าไทย 57 คน รวมคนไทยกลับบ้านในวันนี้ 107 คน
น.ส.เกวริน (นามสมมติ) หนึ่งในคนไทยที่ลักลอบไปยังเมียนมาอย่างผิดกฎหมาย และกลับเข้าไทยวันนี้ เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ทราบดีว่าทำผิดกฎหมาย จากนี้สัญญาว่าจะไม่ไปเมียนมาแล้ว พร้อมขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความร่วมมือ และช่วยคนไทยให้ได้กลับบ้าน ซึ่งขณะนั้นแม้ไม่ค่อยทราบสถานการณ์เท่าไร เพราะหลังมีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบ 2 ของเมียนมาก็อยู่แต่ในโรงแรม แต่มีคนติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อย แต่พอไทย ให้ความช่วยเหลือตนก็รีบติดต่อของกลับไทยทันที เพราะอย่างไรแล้ว ก็เชื่อมั่นว่าไทยมีกระบวนการรักษาที่ดีกว่า มีมาตรการที่ปลอดภัยดีกว่า
อย่างไรก็ตาม น.ส.เกวริน ปฏิเสธตอบเรื่องของการเดินทางไปยังเมียนมาในช่องทางใด ยืนยันเพียงว่าจะไม่ไปด้วยวิธีการผิดกฎหมายอีกแล้ว