เยอรมนีแนะไม่ควรฉีด "วัคซีนแอสตราเซเนกา" ให้ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป ชี้ข้อมูลการทดสอบประสิทธิภาพของวัคซีนในคนกลุ่มนี้ยังมีไม่มากพอ
วันนี้ (29 ม.ค.64) สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน คณะกรรมการจัดการวัคซีนของเยอรมนี (STIKO) ระบุว่า วัคซีนโควิด-19 ของแอสตราเซเนกา ที่พัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ควรฉีดให้คนที่มีอายุ 18-64 ปีเท่านั้น เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลมากเพียงพอที่จะใช้ประเมินประสิทธิภาพของวัคซีนในคนที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ต่างจากวัคซีนชนิด mRNA
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- อย.ขึ้นทะเบียนวัคซีน "แอสตราเซเนกา" ลอตแรก 5 หมื่นโดส ถึงไทย ก.พ.นี้
- "สาธิต" ยันวัคซีนซิโนแวคปลอดภัยสูง ขอประชาชนเชื่อมั่น ฉีดกลุ่มเสี่ยง 5 จว.ก่อน
- นายกฯ ย้ำไทยไม่ใช่ประเทศ "หนูทดลอง" วัคซีนโควิดต้องปลอดภัยก่อนฉีดให้ ปชช.
ขณะที่บริษัทแอสตราเซเนกา ออกมายืนยันว่าผลการทดสอบทางคลินิกล่าสุด พบว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพดีและสามารถป้องกันการติดเชื้อในคนอายุเกิน 65 ปี ด้านนายบอริส จอห์นสัน นายกฯ สหราชอาณาจักร ก็ออกมายืนยันเช่นกันว่า ทางการสหราชอาณาจักรมีความมั่นใจว่าวัคซีนของแอสตราเซเนกานั้นมีประสิทธิภาพดี
ก่อนหน้านี้สื่อของเยอรมนีรายงานว่า ประสิทธิภาพวัคซีนของแอสตราเซเนกาในกลุ่มผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป มีประสิทธิภาพเพียง 8% เท่านั้น ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขของเยอรมนี ได้ออกมาชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่าแอสตราเซเนกามีการทดสอบในกลุ่มผู้สูงอายุน้อยเกินไป
จากข้อมูลของทางการเยอรมัน ระบุว่า ในการทดสอบวัคซีนของแอสตราเซเนกามีคนที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป เข้าร่วมเพียง 6% เท่านั้นขณะที่หนังสือพิมพ์รีพับบลิก้า ของอิตาลี รายงานบทสัมภาษณ์ของผู้บริหารของแอสตราเซเนกา ชี้แจงถึงกรณีมีผู้สูงอายุมากกว่า 65 ปี ร่วมการทดสอบน้อย เนื่องจากต้องการผลยืนยันในการทดสอบในกลุ่มคนอายุ 18-55 ปี ให้แน่ใจก่อนว่าวัคซีนมีความปลอดภัย