หลังจากโชว์ฝีไม้ลายมือในการเต้นและร้องเพลง จนทุกคนให้การยอมรับในฐานะศิลปินแล้ว ล่าสุด "น้องมิย่า พิชชา ทองเจือ" ลูกสาวคนกลางของ "พีท ทองเจือ" ก็ขอหันมาชิมลางการเป็นนักแสดงดูบ้าง กับการรับบทเป็นางเอกเต็มตัวครั้งแรกในภาพยนตร์เรื่อง 16 ห้าว 19 เดือด
โดยวันนี้ (7 กุมภาพันธ์ 2564) "น้องมิย่า" ที่จูงมือครอบครัวมาพร้อมหน้าพร้อมตา ทั้งพ่อพีท แม่เจ็ง และพี่สาวเซย่า มาบวงสรวงภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตของเธอ หลังจากนั้นก็เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ตนดีใจมากๆ ที่ได้มาเล่นหนัง เพราะอยากเล่นตั้งแต่เด็กๆ แล้ว ตนอยากอยู่ในวงการเหมือนคุณพ่อ
ด้านพี่พีท ก็เผยว่า หากลูกชอบอะไรตนก็พร้อมดันเต็มที่ อย่างการมาแสดงครั้งแรกในชีวิตของเขา ตนก็ช่วยอย่างเต็มที่ ทั้งคอยบอกทริคเล็กๆน้อยๆ รวมถึงมาดูลูกสาวเข้าฉากทุกครั้ง เพื่อคอยบอก คอยแนะนำ ให้ทุกอย่างออกมาดีที่สุด
นอกจากนี้ น้องมิย่า ยังเผยต่อว่า ตนมีแพลนกำลังจะออกเพลงซิงเกิ้ลที่ 2 แต่กลัวออกมาแล้วยังไปเดินสายได้ไม่ค่อยสะดวก จึงเบรกไว้ก่อน ส่วนเพลงนี้บอกได้เลยว่าตสตั้งใจกว่าเดิม เนื่องจากหลายคนคาดหวังมาก เพราะเพลงแรกก็ทำไว้ดี
มิย่ากับหนังเรื่องเป็นแรกเป็นอย่างไรบ้าง
มิย่า : “ทีแรกก็ไม่ได้หวังอะไรค่ะ เหมือนวันแรกคุณพ่อคุณแม่ก็บอกหลังจากที่หนูเพิ่งกลับจากโรงเรียนจำได้เลยพี่บอมบอกมาว่าอยากให้เล่นหนัง ตอนแรกหนูก็ไม่ได้หวัง แต่พอพี่เขาคอนเฟิร์มมาก็ดีใจมากๆ เลยค่ะ หนังคืออะไรที่หนูอยากเล่นตั้งแต่เด็กๆ อยู่แล้วค่ะ หนูอยากอยู่ในวงการเหมือนคุณพ่อ ก็เลยดีใจมากๆเรื่องแรกพี่บอมก็ให้บทเป็นปรินซ์เลยค่ะ เป็นนางเอก”
มันดูไปในฟีลอันธพาล เราเล่นได้ไหม
มิย่า : “ได้อยู่ค่ะ (หัวเราะ) พอได้อยู่ค่ะ หนังเรื่องนี้ผู้หญิง 2 คน ใยไหมกับหนู ที่เหลือก็ผู้ชายหมดเลยค่ะ จริงๆ ก็โชคดีพี่ๆ กองนี้นิสัยดีค่ะ แล้วก็น่ารักมากๆ”
คาแร็กเตอร์เป็นยังไงบ้าง
มิย่า : “คาแร็กเตอร์ปรินซ์ค่อนข้างตรงข้ามกับหนู เป็นหัวหน้าห้อง และเป็นลูกตำรวจด้วย เป็นคนที่ดูหยิ่งๆ เพราะว่าเป็นหัวหน้าห้อง ต้องควบคุมเพื่อนๆ หนูก็ต้องเล่นให้ดูเย็นชานิดหน่อยค่ะ แต่ว่าจริงๆ แล้ว ชอบความเร็ว แล้วก็ชอบความถูกต้องค่ะ ด้วยความที่คุณพ่อเป็นตำรวจด้วยค่ะ ก็เลยชอบความถูกต้อง”
ทำไมถึงให้ลูกสาวได้เล่นเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก
พีท : “จริงๆ ตั้งแต่เริ่มทำเพลง อยากให้น้องเริ่มหลายๆ อย่างในวงการบันเทิง ถ้าถามจริงๆ ไม่ได้อยากให้น้องทำงานในด้านนี้ แต่ว่าถ้าน้องสองคนชอบก็ดัน แต่เราอยากให้น้องลองอะไรหลายๆ อย่างว่าชอบอะไรมากที่สุด แต่บอกเขาแล้วว่าถ้าติดใจการแสดง พาร์ทของการศิลปินก็ไม่ควรจะทิ้งด้วย เพราะว่ามีแฟนๆ รออยู่ ก็อยากให้เขาลองหลายๆ อย่าง ตอนนี้กลายเป็นว่าพอแสดง เราก็ลุ้นว่าลูกจะติดขัดอะไรหรือเปล่า เช่นบางทีแสดง เราก็คอยดูผู้กำกับว่าเขามีฟีดแบ็กยังไง แต่ปรากฎว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี อย่างวันนี้จะมาถ่ายเป็นฉากที่ยาก เป็นเหมือนฉากดรามา ก็พยายามถามน้องว่าจะให้ช่วยอะไรไหม น้องก็บอกว่าเรียบร้อยแล้ว บทได้หมดแล้ว แอคติ้งได้หมดแล้ว เราก็เลยได้แต่คอยลุ้น”
แสดงว่าคุณพ่อไม่ได้เข้าไปเทรนเรื่องแอคติ้งให้เลย
พีท : “ผมจะอ่านบททั้งหมด แล้วก็บทประจำวันที่จะถ่าย แล้วเราก็จะรู้ว่าฉากนี้ อะไรเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เช่นพูดไดอะล็อก ทุกคนก็ต้องทำอยู่ละ แต่ว่าอะไรที่เป็นการสื่อสารกับคนดู จะเข้าไปอยู่ในใจคนดูให้ได้มากที่สุด เพราะหนังมันแค่ชั่วโมงกว่า ทุกๆ วินาทีมีความหมายมาก เราก็จะรู้คีย์ว่าอะไรคือความสำคัญ เราก็จะแอบกระซิบบอกเขา ว่าซีนนี้ๆ หัวใจมันมีอยู่ตรงนี้ ทริคมันมีอยู่นิดเดียว หนูต้องเอาให้อยู่ให้ได้”
มิย่ารับรู้ได้ไหมที่คุณพ่อสอน
มิย่า : “ได้ค่ะ เวลาหน้าเซ็ต เวลาซ้อมก่อนถ่ายจริง คุณพ่อก็จะมายืนข้างๆ แล้วแบบ(ยืนมอง) แล้วบางครั้งคุณพ่อก็ไม่ได้อยากจะพูดอะไรเยอะ เพราะเกรงใจพี่บอมด้วย ก็เอากล้องมาถ่ายให้หนูกลับบ้านไปดูว่ามันเป็นยังไง เพราะว่าตอนนี้หนังก็ยังไม่ได้เปิดตัวพ่อเลยไม่อยากให้พี่บอมเห็นว่าถ่ายให้หนูดู เลยต้องแอบถ่ายให้ดู”
คุณพ่อช่วยเยอะไหม
มิย่า : “ช่วย คุณพ่อก็ช่วยเรื่องสายตาด้วยค่ะ”
กลับไปซ้อมด้วยกันเองไหม ให้คุณแม่ต่อบท
มิย่า : “คนนี้ค่ะ (ชี้ไปที่เซย่า) ในหนังก็จะเกิดที่เชียงใหม่ แต่เซย่าก็อ่านบทแล้วพูดเป็นภาษาใต้(หัวเราะ)”
เซย่า : “ก็เสียงสลับเป็นผู้ชาย ผู้หญิงไปเรื่อยๆ”
มิย่า : “ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนมากๆ ที่วันนี้มาหาหนูนะคะ อยากให้ทุกคนติดตามผลงานนี้ เพราะว่าเรื่องนี้ทุกคนตั้งใจเล่นมากเพราะส่วนมากก็เป็นเด็กใหม่กันหมดเลยค่ะ เรื่องนี้สนุกแน่นอน หนูอ่านแล้วรู้สึกได้ ขนาดหนูเองยังอยากไปดูเลย ก็อยากให้ทุกคนติดตามค่ะ และหนูกำลังจะมีผลงานเพลงเพลงที่ 2 แต่ว่าในช่วงนี้ไม่ได้ออกเพราะเนื่องจากโควิด แต่อยากให้ติดตามไว้ก่อนค่ะ”
เพลงทำเสร็จนานแล้วหรือยัง
มิย่า : “ตอนนี้เพลงเสร็จแล้วค่ะ แต่ว่ายังไม่ได้อัด กำลังดำเนินอยู่ จริงๆ ก็รีบแต่ไม่ได้รีบขนาดนั้น เพราะว่าออกมาก็ยังไปเดินสายไม่ค่อยสะดวก”
หลายคนคาดหวังกับผลงานเพลงที่ 2
มิย่า : “ใช่ค่ะ จริงๆ หนูก็มีดราฟมา 2 เพลงแล้ว แต่หนูยังรู้สึกว่ามันยังไม่โดน เพราะว่าเพลงแรกหนูตั้งใจมากๆ เพลงที่ 2 ต้องเข้าไปอีกเพราะทุกคนคาดหวังจากเพลงแรก เพลงนี้ก็เลยตั้งใจแล้วก็ทำให้มันดีกว่าเดิม”
สุขภาพของน้องเซย่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
เซย่า : “ตอนนี้ยังรักษาอยู่ค่ะ ยังไม่ได้หายดี ไปผลตรวจล่าสุดก็ยังต่ำอยู่ดี ตอนแรกขึ้นมาแล้วนิดหน่อยแต่มันก็ลงมาอีกนิดหนึ่ง คุณหมอก็เลยบอกว่ามันอาจจะขึ้นลงๆ ต้องพยายามไม่เครียดค่ะ”
ตอนนี้มีเรื่องอะไรให้เครียดไหม
เซย่า : “ไม่ค่ะ คือบางครั้งก็เรื่องเรียนด้วย ตอนนี้ก็เรื่องสอบนู้นนี้นั้น ก็เลยมีเครียดนิดหน่อย”
พีท : “ตอนนี้น้องกลับมาเรียน หลังจากที่ลาออกไป ก็พึ่งสอบ GED ตอนนี้อายุ 16 ได้วุฒิม.6 เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้กำลังเลือกมหาวิทยาลัยที่จะเข้าอยู่ กำลังไล่สอบพวก SAT แล้วก็การสอบต่างๆ ที่เขาเอาไปสอบ ก็เลยกลายเป็นว่ากำลังเลือกจุฬา ธรรมศาสตร์ แล้วก็เลือกสาขาที่ตัวเองอยากเรียนอยู่ ก็เลยเป็นช่วงหัวเลี้ยงหัวต่อ”
ก่อนหน้านี้น้องไม่ค่อยกล้าออกสื่อตอนนี้กล้าแล้ว
เซย่า : “ค่ะ ได้แล้ว(ยิ้ม) ดีขึ้นแล้ว”
สิ่งที่เซย่ายังกังวลอยู่คืออะไร
เซย่า : “น้ำหนักค่ะ เพราะน้ำหนักยังค้างอยู่ เหมือนกับว่าพยายามออกกำลังกาย คุมอาหาร มันก็ไม่ค่อยลง เพราะค่าไทรอยด์ต่ำ”
คุณหมอรักษาอย่างไรบ้าง
เซย่า : “ตอนนี้เริ่มทานยาแล้วค่ะ เพราะว่าคุณหมอบอกว่าจะได้หลับได้จริงๆ แต่ว่าเริ่มโดสน้อยๆ อยู่”
น้ำหนักที่ค้างอยู่อีกเท่าไหร่
เซย่า : “ตอนนี้ลงมาได้ 1-2 โลแล้วค่ะ แต่ว่ายังเหลืออีกประมาณ 12 โล (หัวเราะ) ก็ต้องพยายามลดไปเรื่อยๆ ”
แอบนอยด์ไหมน้ำหนักขึ้นมาเยอะ
เซย่า : “ก็นอยด์ค่ะ”
มิย่า : “ประมาณอาทิตย์หนึ่ง สัก 2 วัน เขาจะเลื่อนดูรูปในโทรศัพท์ ดูรูปเก่าๆ เพราะเมื่อก่อนหนูคิดว่าพี่เขาสวยมาก ตอนนี้ก็สวยแต่เมื่อก่อนคือแบบหุ่นดี แล้วพี่เขาสูงด้วย ขายาว เขาก็ชอบเปิดให้ดู ชอบมาขิงว่าดูสิตอนนั้นเจ่สูงกว่านี้ (หัวเราะ) เมื่อวานพึ่งโดน ดูสิ...เมื่อก่อนเจ่ว่าเจ่สวยกว่ามีย่าอีกนะ (หัวเราะ)”
อนาคตกลับมาสวยกว่าแน่นอน
เซย่า : “ใช่ แน่นอนค่ะ (หัวเราะ)”
งานในวงการ จะมาทำเหมือนน้องไหม
เซย่า : “ตอนนี้คุณพ่ออยากให้ค่าไทรอยด์มันปกติก่อน เพราะว่าถ้าสมมุติเราทำงานแล้วเครียด หรือว่าพักผ่อนน้อย มันอาจจะมีผลกระทบได้”
เสียดายโอกาสก่อนหน้านี้ไหม
เซย่า : “ช่วงแรกก็ต้องเสียดายค่ะ แต่ว่าพอนานๆ ไปมันก็แบบ ที่มันเกิดขึ้นเพราะว่ามันพยายามจะสอนเรา”
ถ้าหายเป็นปกติจะสู้ใหม่อีกทีไหม
เซย่า : “สู้อยู่แล้วค่ะ (ในเส้นทางเดิม?) ใช่ค่ะ”
ในความฝันเราอยากเป็นศิลปิน k-pop เน็ตไอดอลใช่ไหม
เซย่า : “จริงๆ แล้วตั้งแต่แรกเลยที่หนูได้เข้า ตอนนั้นได้เรียนเต้นบ่อย แต่ว่าพอมานั่งคิดแล้ว หนูก็แบบไม่ได้จำเป็นต้องทาง k-pop ก็ได้ แค่ได้ร้องเพลงที่ชอบก็พอ ตอนนี้กำลังใจเยี่ยมค่ะ (ยิ้ม)”
ลองออกผลงานเพลงฟีเจอริ่งกับน้องสักเพลงก่อนไหม
มิย่า : “ตอนนี้พี่เขาก็ทยอยลงโคฟเวอร์เพลงอยู่ค่ะ ยังไม่ได้อยากออกเพลงเต็มๆ ตัว เพราะว่าอยากรอให้หายก่อน แล้วก็อยากให้ทุกอย่างมันดีขึ้น เรื่องโควิดด้วย เหมือนหนูก็อยากให้ทุกอย่างดีก่อน”
ตอนนี้คุณหมอบอกไหมว่าโอกาสที่จะหายกี่เปอร์เซ็นต์
เซย่า : “คุณหมอยังไม่การันตีค่ะ เขาก็บอกว่ามี 2 ทาง อาจจะต้องกินยาทั้งชีวิตหรือสามารถหายได้ แต่ใจหนูเชื่อว่าหายได้ค่ะ เพราะว่ายังเด็กอยู่ ยังสามารถรักษาได้ (ยิ้ม)”