จากกรณี ด.ญ.วิภารัตน์ วัดจะโปะ หรือ น้องแป้ง อายุ 8 ปี ถูกนายอนุวัฒน์ ผลจะโปะ หรือ แหบ ก่อเหตุข่มขืนกระทำชำเราแลัวฆ่าทิ้งร่างไว้ที่ป่าหลังบ้านในพื้นที่ หมู่ 7 ต.ธงชัยเหนือ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา จนกระทั่งมีคนมาพบเห็น ซึ่งนายอนุวัฒน์เคยก่อเหตุกระทำชำเราเด็กมาแล้ว และพ้นโทษมาไม่กี่เดือนก่อนมาก่อเหตุซ้ำอีก ก่อนบุกรวบตัวนำตัวมาสอบสวน
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาณุ บูรณะศิริ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบูรณาการ ตำรวจภูธรภาค 3 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา และ สภ.ปักธงชัย ระดมกำลังวางแผนในการปิดล้อมจับไอ้แหบ ผู้ต้องหาฆ่าข่มขืนน้องแป้งเด็กหญิง 8 ขวบ
โดยใช้พื้นที่ฐานที่ตั้งวางแผน 2 ทาง ทั้งทางภาคพื้นอากาศและพื้นดิน นำเฮลิคอปเตอร์ โดรนอินฟาเรด จับความร้อน และร่มบินจำนวน 3 ลำบิน เพื่อกดดันคนร้ายให้ออกมามอบตัว ส่วนภาคพื้นดินก็มีการกระจายกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอาวุธครบมือ พร้อมด้วยสุนัขดมกลิ่น
จนกระทั่งพบรองเท้าของผู้ต้องหาตกอยู่ในป่าละเมาะ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีการกระจายกำลังปิดล้อมในพื้นที่ และมีการไล่กล้องวงจรปิดที่คิดว่าคนร้ายจะใช้เส้นทางในการหลบหนี
โดยคาดว่าคนร้ายน่าจะยังหลบซ่อนอยู่ในพื้นที่ และพยายามสอดส่องดูจุดต้องสงสัยไม่ว่าจะเป็นบ้านร้าง วัดวาอาราม หรือแม้แต่บ้านคนที่อยู่ในพื้นที่
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ย้อนกลับไปตรวจสอบที่บริเวณจุดเกิดเหตุ และบริเวณบ้านพักของผู้ต้องหา พบว่าบริเวณยุ้งข้าวด้านนอกมีการล็อกประตู แต่พบว่ามีช่องประตูเปิดออกอยู่ พบนายอนุวัฒน์ซุกตัวอยู่ในยุ้งข้าว จึงควบคุมตัวมาที่ สภ.ปักธงชัย
โดยคนร้ายฆ่าข่มขืนเด็กหญิงวัย 8 ขวบ ที่ข้างสระน้ำหมู่บ้าน อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยฮุก 31 ร่างเด็กหญิงสวมกางเกงขาสั้น สีเทาดำ เสื้อยืดแขนสั้นสีส้ม มีร่องรอยถูกทำร้ายตามร่างกาย บริเวณลำคอ แผ่นหลัง และมีร่องรอยถูกข่มขืน มีคราบอสุจิที่บริเวณอวัยวะเพศ
อีกจุดที่บริเวณจุดเจอรองเท้า ตำรวจยืนยันว่าเป็นรองเท้าของคนร้าย เนื่องจากญาติเป็นคนยืนยัน เจ้าหน้าที่มีการนำโดรนขึ้นบินที่จุดนี้รัศมีรอบจุดที่พบรองเท้า ใช้สุนัขทหารจากโรงเรียนสุนัขทหาร 2 ตัว
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยว่า จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าทำจริง และยอมรับว่าดื่มสุราและดมกาว จึงทำให้มีอารมณ์ ก่อนที่จะล่อลวงเด็กไปข่มขืนที่บ้านพักของตนเอง 1 ครั้ง
หลังจากนั้นก็อุ้มเด็กไปข่มขืนต่อที่บริเวณป่าละเมาะหลังบ้านอีก 1 ครั้ง ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุเพียง 30 เมตร ส่วนสาเหตุที่ฆ่าเป็นเพราะเด็กขัดขืนและส่งเสียงร้อง จึงกลัวคนข้างเคียงจะได้ยิน
นายบุญทรง ท่อจะโปะ อาของผู้เสียชีวิต ซึ่งบ้านอยู่ติดกับคนตาย เปิดเผยว่าช่วง 16.30 น. ของวานนี้ ตนเองยังได้คุยกับน้องแป้งอยู่ที่หน้าบ้าน ตอนนั้นตนเองจะไปเยี่ยมญาติที่ป่วยอยู่โรงพยาบาล น้องแป้งจึงทักถามตนว่าจะไปไหน น้องแป้งยังฝากคำอวยพรกับตนไปว่าขอให้ปู่ที่ตนจะไปเยี่ยม หายป่วยไว ๆ จากนั้นตนก็ออกไปโรงพยาบาล
เมื่อตนกลับมาที่บ้าน ช่วง 18.00 น. ตนก็ทำกับข้าวอยู่หลังบ้าน ช่วงนั้นตนเองยังได้ยินเสียงน้องแป้งพูดคุยกับนายแหบ และนายบุญช่วย น้าของน้องแป้ง ซึ่งตอนนั้นบังไม่เห็นมีเหตุอะไร ทุกอย่างดูปกติ
จากนั้น มีญาติที่ตนรู้จักต้องไปโรงพยาบาล ตนเองจึงไปชวนนายบุญช่วยให้ขับรถจักรยานยนต์พาไปโรงพยาบาล จึงออกจากบ้านไปอีกครั้ง เมื่อกลับมาบ้านช่วง 20.00 น. ปรากฎพบว่าเกิดเหตุแล้ว ทราบว่าแม่ของน้องแป้งกลับมาบ้าน หาน้องไม่เจอ จึงเรียกชาวบ้านให้ช่วยค้นหา ก่อนจะไปพบร่างน้องเสียชีวิตที่ทุ่งนาหลังบ้าน
ทั้งนี้ นายแหบ ปกติจะมาที่บ้านตนเองและบ้านน้องแป้งบ่อย มักเดินกลับไปกลับมาประจำ แต่ไม่เคยมีเหตุแบบนี้กับน้องแป้ง ปกตินายแหบดูเป็นคนนิสัยซาดิสม์แบบบอกไม่ถูก ดูเป็นคนบ้า ๆ บอ ๆ ไม่เต็ม ส่วนน้องแป้งเป็นคนดี ตั้งใจเรียน ไปลามาไหว้ตลอด
นางพุทธา วัดจะโปะ ย่าทวดผู้ตาย ซึ่งเป็นคนเดียวที่อยู่บ้านขณะที่น้องแป้งอยู่บ้าน เปิดเผยว่า ตนเองอยู่บ้านตนที่น้องแป้งมานั่งทำการบ้าน ส่วนแป้งได้กลับเข้าไปที่บ้าน ซึ่งตนไม่รู้เกิดอะไรขึ้น เพราะหูไม่ค่อยได้ยินแล้ว ตนเองไม่รู้ว่ามีเหตุ แต่มีช่วงหัวค่ำตนเองเห็นนายแหบหอบผ้าห่มมาที่บ้านตน นายแหบบอกตนว่า จะเอาผ้ามานอนกับลุง ซึ่งตอนนั้นตนเองก็ไม่ได้แปลกใจ แต่ขณะนั้นนายบุญช่วยไม่อยู่บ้าน ตนเองก็ไม่ทราบว่าน้องแป้งออกไปตอนไหน ส่วนตัวก็ไม่คิดว่าจะมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น ตนต้องการให้นายแหบถูกจับและมาขอโทษ
ขณะที่พ่อของน้องแป้งได้มีการนำศพมาจากโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เพื่อมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน มีชาวบ้านมาร่วมแสดงความเสียใจเป็นจำนวนมาก
นางแพงศรี อายุ 60 ปี ยายของน้องแป้ง เล่าทั้งน้ำตาว่า หลังจากที่เกิดเหตุตนทราบเรื่องรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าคนในละแวกบ้านจะก่อเหตุฆ่าข่มขืนหลานสาวของตนเองได้ลงคอ และจะขอตั้งบำเพ็ญกุศลศพไว้ที่บริเวณบ้าน จนกว่าจะจับคนร้ายคือไอ้แหบมาลงโทษได้ ตนอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตาย เพราะชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต และจะไม่มีการเผาแต่อย่างใด หากไม่มีการจับคนร้ายได้และขอขมาหลานสาวตน
นางจอย (นามสมมติ) แม่ของผู้ตาย เปิดเผยว่า วานนี้ตนเองกลับมาบ้านช่วง 1 ทุ่มกว่า ๆ จากนั้นก็ไม่เห็นลูกสาว เห็นแต่รองเท้าอยู่หน้าบ้านก็รู้สึกใจไม่ดี และคิดถึงหน้านายแหบทันที จึงตามชาวบ้านในช่วยค้นหา จนมีชาวบ้านไปพบร่างของลูกสาว และอุ้มออกมาให้ตน ตนเองจึงพาลูกไปส่งโรงพยาบาล ตอนนั้นลูกร่างกายอ่อนไปหมดแล้ว ที่ตนเองคิดว่านายแหบเป็นคนก่อเหตุเพราะเขาเคยกระทำแบบนี้มาก่อน ยอมรับว่าส่วนหนึ่งดีใจแทนลูกที่จับคนร้ายได้ ขอให้เป็นไปตามกฎหมาย แต่ใจตนก็อยากให้ประหารชีวิต เพราะหากปล่อยกลับมาอีก เชื่อว่าเด็กในหมู่บ้านก็จะถูกกระทำอีก
บรรยากาศงานศพที่บ้านของน้องแป้ง ผู้เสียชีวิต ครอบครัวอยู๋ในความโศกเศร้า พ่อของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ครอบครัวทราบว่านายแหบเคยมีพฤติกรรมที่ทำกับเด็กผู้ชายมาก่อน ที่ผ่านมาก็คอยบอกลูกสาวให้ระวังตัว ให้อยู่ห่างจากนายแหบ ส่วนห้องน้ำที่บ้านที่คนร้ายอ้างว่ากระทำกับลูกสาวตนมีห้องเดียว และบ้านก็อยู่ใกล้กับบ้านนายแหบ
ตอนนี้เมื่อจับคนร้ายได้แล้ว ก็จะฌาปนกิจวันจันทร์หน้า และอยากให้ดำเนินคดีจนถึงที่สุดขั้นประการชีวิต เพราะหากปล่อยออกมาก็กลัวว่าจะมาก่อเหตุซ้ำอีก อีกทั้งตนต้องการให้นายแหบมาขอขมาศพลูกสาวตนด้วย
สำหรับบ้านนายแหบอยู่ใกล้กัน ทีมข่าวใช้เวลาเดินเท้าจากบ้านผู้เสียชีวิตถึงบ้านผู้ก่อเหตุเพียง 2 นาที พบร่องรอยที่นอนและการรื้อค้นหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวไปสอบสวนแล้ว
ด้านนางสมจิต ผลจะโปะ ย่าของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ตนเองถูกเชิญตัวไปที่กองอำนวยการทั้งคืน โดยที่ตนก็ไม่ทราบว่าหลานกลับมาบ้านตอนไหน ช่วงเย็นตำรวจพาตนกลับมาส่งที่บ้าน ปรากฎว่าตำรวจขอเข้าไปค้นบ้านอีกครั้ง เมื่อไปตรวจที่ห้องเก็บของหลังบ้านก็พบว่าหลานตนนอนอยู่ในห้องดังกล่าว
ทั้งนี้ ตนเองก็ไม่ทราบว่าหลานมาได้อย่างไร ตำรวจกลับมาส่งตนและก็เข้าไปเจอหลานเลย เมื่อคืนชาวบ้านก็เข้าไปค้นหาจนหมดแล้ว แต่ก็ไม่พบ หลังจากนี้คงไม่ได้ไปประกันตัวเพราะตนก็ไม่มีเงิน