อดีตนางแบบสาวขายาวหุ่นสวย "โย ยศวดี หัสดีวิจิตร" ได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ เปิดใจถึงเรื่องราวความรักกับแฟนหนุ่มลูกครึ่งในเดือนแห่งความรักนี้ว่า หลังปรับตัวจูนเข้าหากันจนกระทั่งมั่นใจและได้เปิดตัวกันไปเรียบร้อยแล้ว เจ้าตัวก็เผยว่าคนนี้แหละคือ คนที่คิดจะแต่งงานด้วย พร้อมเผยเหตุผลที่เลิกเดินแบบและชี้แจงข่าวสวยออร่าจับเพราะศัลยกรรมหน้ามาใหม่มาให้หายคาใจ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "หมอช้าง" เผยเคล็ดลับรับความเฮง ห้าทุ่มคืนนี้ ไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภ "ไฉ่ซิงเอี๊ย"
- "เอิ้นขวัญ วรัญญา" เผยสถานะหัวใจสีชมพู แต่ไม่ลงรูป เพราะชอบโดนทักว่าน้องชายเหรอ?
- เส้นทางตลกรุ่นเก๋า "น้าพวง เชิญยิ้ม" จากลิเกสู่ตลก จากตลกสู่เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์!!
- ประสบการณ์แน่น! เปิดเส้นทางอาชีพนักแสดงคุณภาพกว่า 30 ปี ของ "ต้น จักรกฤษณ์"
- ดูบังเกิดเกล้าย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี ที่นี่
ถาม เดินแบบมากี่เวทีแล้ว
โย ยศวดี : เป็นพันเวทีค่ะ เพราะว่าทำงานมา 23 ปี ตั้งแต่อายุ 13-14 ปีเลย วันที่เลิกก็ 30 ปลายๆ แล้วค่ะ
ถาม เดินแบบมาเป็นพันๆ เวที ทั้งไทยและอินเตอร์ แต่อยู่มาวันหนึ่งเลิกเพราะอะไร
โย ยศวดี : เราทำงานมาจนมีรุ่นน้อง โยทำงานมา 4 รุ่น ตอนหลังๆ เดินกับน้องๆ ที่อายุสิบกว่าไม่ถึงยี่สิบ แล้วเพื่อนๆ ทุกคนก็ผันตัวไปทำอย่างอื่น เหลือกลุ่มเราไม่กี่คน เราก็คิดว่าถ้าอนาคตในวงการแฟชั่นจะเป็นยังไง รู้ตัวอยู่แล้วว่าวันหนึ่งเราต้องถูกลดงานลงจากการที่คลื่นลูกใหม่มาใช่ไหมคะ เราก็คิดว่าเมื่อถึงเวลานั้น เราอาจจะเสียใจที่แบบนั่งอยู่เฉยๆ แล้วเป็นคนไม่มีงาน เราจะทำยังไงดี เลยหาสิ่งอื่นทำเพื่อเติมไฟให้ตัวเอง เพราะว่าตอนที่เราเป็นนางแบบช่วงปลายๆ ความรู้สึกเราแบบเหมือนจะเป็นซึมเศร้า งานน้อยลงไม่ว่า แต่ว่าร่างกายเราไม่ได้เป็นสาว แล้วไม่ได้รู้สึกว่าเราสดเหมือนตอนทำงานแรกๆ
ถาม ผันตัวมาเป็นนักกีฬาไตรกีฬาได้ยังไง
โย ยศวดี : เริ่มจากวิ่งก่อน โยสนใจในเรื่องวิ่ง มีคนมาชวนไปวิ่งก่อนประมาณ 4 กิโล ตอนนั้นยังไม่ได้ตัดสินใจเลิกเดินแบบจริงจัง จนไปเจอโค้ชที่สอนวิ่ง โค้ชก็บอกว่าต้องเลือกนะ เพราะถ้ายังใส่ส้นสูงสลับกับผ้าใบ เราก็จะมีการบาดเจ็บแบบนี้บ่อยๆ เพราะเริ่มวิ่งเยอะขึ้น ใช้กล้ามเนื้อมากขึ้น ตอนนั้นก็ทำให้เราตัดสินใจเลิกเดินแบบเลย ก็ไปทำอะไรในแบบที่เราชอบ ที่เราเลือกไปวิ่งเพราะหลังๆเราก็ไม่ได้เอ็นจอยกับงานที่เราทำ แล้วเราก็ไม่อยากไปทำงานแล้วเราไม่มีความรับผิดชอบ เพราะเวลาเป็นคนที่ทำอะไรก็จะทำแบบเต็มที่ เราเริ่มเบื่อการเดินแบบพอเบื่อปุ๊บ เราจะเป็นคนแบบนี้คือไม่อยากฝืน ไม่อยากฝืนตัวเองไปทำงานแล้วเขารู้สึกว่าเราไม่เต็มที่กับงาน เราไปทำอะไรที่เรามีไฟกับมันดีกว่า ก็เลยเริ่มจากการวิ่ง พอเริ่มวิ่งไปได้สักพักก็มีคนมาชวนว่าลองเล่นไตรกีฬาไหม ตอนนั้นเราก็งงว่าไตรกีฬาคืออะไร แต่เราเคยได้ยินนะคะ แต่เราไม่รู้ว่ามันประกอบด้วยกีฬาอะไรบ้าง ก็คือว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน แล้วก็วิ่ง เราก็คิดว่าปั่นจักรยานคงไม่ยากเท่าไหร่ ส่วนวิ่งเราก็วิ่งอยู่แล้ว แต่ว่าว่ายน้ำคือเราว่ายน้ำไม่เป็น มันก็เลยต้องไปเริ่มกระบวนการพวกนี้ใหม่ทั้งหมด ถือว่าผ่านความยากของการฝึกซ้อม
ถาม ตอนนี้เรียกได้ไหมว่าโยกลายเป็นนักกีฬาอาชีพ
โย ยศวดี : ถามว่าอาชีพไหม ก็เป็นสิ่งเดียวที่ทำอยู่เวลานี้ มันจะเป็นอาชีพก็ต่อเมื่อเราไม่ได้เล่นกีฬาเพื่อความสนุกอย่างเดียวแล้ว ต้องมีความรับผิดชอบในเรื่องงาน เพราะว่าเรามีสปอนเซอร์ เมื่อสปอนเซอร์สนับสนุนเรา เขามั่นใจแล้วว่าโย ยศวดีสามารถแข่งขันได้ไม่ใช่แค่แบบเป็นลุคนางแบบอย่างเดียว เธอว่ายได้ เธอปั่นได้ เธอวิ่งได้ ฉันก็สนับสนุนเธอ เพราะฉะนั้นคือความรับผิดชอบ แล้วหน้าที่ของโยคือทุกครั้งเวลาที่เราแข่ง เราจะลืมความเป็นนางแบบของเราไปเลย แต่จะคิดว่าวันนี้ฉันคือนักกีฬาและจะทำตรงนี้ให้ดีที่สุด
ถาม ซึ่งก็ทำได้ดีจริงๆ เพราะว่ามีฮาฟมาราธอน มีมาราธอน แต่ที่โยทำคือฟูลไอรอนแมน
โย ยศวดี : ฟูลไอรอนแมน 2 ครั้งแล้วค่ะ ว่ายน้ำ 3.8 กิโล แล้วก็ลงมาปั่นจักรยาน 180 กิโล แล้วก็วิ่งต่ออีก 42 กิโลค่ะ ต่อกันหมดด้วยเวลา 15 ชั่วโมง
ถาม เวลาที่เราแข่งอยู่ เราอยากเข้าห้องน้ำทำยังไง
โย ยศวดี : วิ่งอยู่ก็ปัสสาวะเลย แต่ถ้าไม่สะดวกแบบนั้น เขาก็จะมีห้องน้ำตามทาง แต่อาจจะไม่เยอะ แต่การแข่งขันไอรอนแมน เราจะตัวเปียกอยู่แล้ว ว่ายน้ำขึ้นมา บางคนปั่นจักรยานก็ฉี่ พอเสร็จการแข่งขันก็มาอาบน้ำค่ะ จบด้วยเวลา 15 ชั่วโมงค่ะ มีคนบอกว่าครั้งแรกสนามแรกถือว่าโอเค สำหรับเราที่ไม่ใช่เป็นนักกีฬาแล้วก็เพิ่งมาฝึกซ้อม แต่เอาจริงๆ ความตั้งใจของเราอยากจะได้ 13 ชั่วโมงเราต้องใช้เวลาฝึกฝนอีก การแข่งขันไอรอนแมน เป็นการแข่งขันทั่วโลก จะจัด ranking อายุเป็นกลุ่มอายุค่ะ ซึ่งของโยก็จะจัดอยู่ในช่วงอายุ 40-44 ปี ก็จะจัด ranking ไปว่าลำดับของเรา เวลาของเราอยู่ที่เท่าไหร่ แต่ที่เวลาของเรายังไม่ได้ตามที่เราคิดเพราะว่า ว่ายน้ำกับปั่นจักรยาน ยังไม่เร็วพอ แต่ที่เราแข่งตอนนั้นคือผ่านมา 2 ปีแล้ว แต่หลังจากการแข่งครั้งนั้นเราก็ฝึกซ้อมอย่างหนักมากนะ แต่เพราะมาเจอโควิดเลยไม่สามารถเดินทางไปแข่งที่ไหนได้
ถาม แต่ถึงจะออกกำลังกายหนักขนาดไหน หน้าก็จะสวยเป๊ะ จนมีคนเมาท์ว่าไปศัลยกรรมมาหรือเปล่า
โย ยศวดี : อันนี้มีคนถามเข้ามาเยอะ มีเพจเอาไปลง มีคนเอาไปลง แล้วก็มีคนถาม เราไม่ได้เป็นคนที่ต้องมานั่งปิด แล้วก็ไม่อยากที่จะพูดเยอะ เพราะว่าไม่อยากแนะนำสถานที่ อย่างแรกเลยนะคะ โยมองว่าถ้าใครถามเรา แล้วเราแนะนำไปแล้ว เวลาไปทำคือไม่ได้ทำแล้วออกมาดีทุกคน ไม่อยากให้เราเป็นตัวอย่าง ว่าฉันรู้มาจากโยว่าไปทำที่นี่มา แล้วทำไมฉันไปทำมาแล้วหน้าฉันออกมาเป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้นพยายามจะพูดกลางๆ ว่าอะไรที่เราทำได้บ้าง แต่บางคนก็จะเขียนเยอะมากที่เกี่ยวกับเรา บางครั้งเขียนจนเรารู้สึกว่ารู้ดีกว่าเราอีก เช่น ไปทุบกรามมา ไปเกาหลีทุบกะโหลก เอาจริงๆ เราทำงานในวงการมา 20 กว่าปี ถ้าโยเป็นคนที่น่าเกลียด เป็นนางแบบไม่ได้หรอก เหมือนทุกคนพยายามที่จะแบบฉันจะเอารูปสมัยเป็นนักร้อง 15-16 มาเปรียบเทียบกับปัจจุบัน เราก็รู้สึกเหมือนเราโดนบูลลี่เบาๆ หรือเปล่า เราก็เลยพยายามที่จะไม่อยากจะคุยเรื่องนี้ เพราะบางคนถามทำให้เรารู้สึกแย่ แต่ก็บอกตรงๆ นะคะว่าทำศัลยกรรมที่เป็นการผ่าตัดคือทำแค่จุดเดียวบนใบหน้า อันนี้ไปเดาเองว่าทำอะไร ส่วนเรื่องทุบกราม ทำจมูกไม่เคยทำค่ะ
ถาม แต่ก็มีอีกเรื่องหนี่งที่ไม่ถามก็ไม่ได้หลังๆ เริ่มลงรูปหวานน่ารักมาก เขาคนนั้นเป็นใครเอ่ย
โย ยศวดี : จริงๆ คบกันมาปีกว่าแล้วค่ะ ช่วงแรกๆ ที่ไม่ได้พูดอะไรเยอะ เพราะเราใช้เวลาปรับตัวเยอะ มันเหมือนจะไปไม่รอด จะโอเคไหม เพราะเรารู้จักกันตอนอายุมากแล้วทั้งคู่ รู้ความต้องการของทั้งคู่ชัดเจน ไม่อยากให้เสียเวลา แต่พอใช้เวลาผ่านไปหนึ่งปี โอเค พอปรับตัวได้ เราก็รู้สึกว่าเวลาหนึ่งปี เราก็เปิดตัวเพื่อให้รู้ว่าฉันไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวสักเท่าไหร่นะ เขาเป็นลูกครึ่งค่ะ แต่เขาเป็นมีเชื้อสายไทยนะคะ ซึ่งเขาอยู่เมืองไทยมานาน มีนามสกุลไทยค่ะ เขาทำธุรกิจในเมืองไทย
ถาม มีความคิดที่จะลงหลักปักฐานสร้างความครอบครัวจริงจังเลยไหม มีลูก
โย ยศวดี : มีลูกอาจจะช้าไปแล้วนะคะ เพราะตอนนี้สี่สิบสองแล้ว คิดเรื่องแต่งงาน เพราะช่วงหลังๆ เราก็คุยเรื่องนี้พอสมควร แต่ไม่ได้คุยเรื่องมีลูกหรือไม่มีลูก เพราะโยไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้จริงๆ ถ้าคนสองคนมีความสุขที่อยู่ด้วยกันดูแลกันแบบนี้เรื่อยๆ ไป เลยไม่ได้คิดเรื่องลูก แต่คิดเรื่องแต่งงานกับคนนี้
ถาม ซึ่งตอนนี้อีกอย่างที่โยทำคือทำรายการของตัวเองเกี่ยวกับอะไร
โย ยศวดี : ตอนแรกที่อยากทำคืออยากเผยแพร่เรื่องกีฬา เพราะผู้หญิงที่มาตามเราส่วนใหญ่คือเรื่องของกีฬา เรื่องความสวย เรื่องอาหารต่างๆ เราก็คิดว่าทำไมเราไม่ทำช่องยูทูบไปเลย เมื่อคนอื่นทำกันไปเยอะแล้ว เราเลยทำช่องเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงกีฬา เพราะเรารักที่จะท่องเที่ยวด้วย ฝากติดตามทางยูทูป yotuber โย ยศวดี yossavadee เลยค่ะ