เป็นอีกหนึ่งนักสู้ตัวจริงของวงการเพลงเลยก็ว่าได้ สำหรับ "ปีเตอร์ โฟดิฟาย" ที่ได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ เปิดเรื่องราวชีวิตที่กว่าจะดังก็ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นโดนยึดบ้าน ถูกฟ้องล้มลาย แต่เขาไม่เคยยอมแพ้ต่อสิ่งที่เกิดขึ้น คิดเสมอว่า "ชีวิตนี้ดังแน่ แต่ต้องสู้ชีวิต"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "ติ๊ก กลิ่นสี" มูเตลูจัด!! กำหนดเวลาคลอดลูกเอง ต้องเป็นเวลานี้เท่านั้น!
- "แมงปอ ชลธิชา" เปิดใจ เจอมรสุมชีวิตหนัก ป่วยเส้นเสียงอักเสบ-โดนโกงเงินหมดตัว!
- "ระเบียบวาทะศิลป์" ปรับตัวสู้โควิด! เปิดการแสดงออนไลน์ "หมอลำเดอะซีรีส์"
- "คัฑลียา มารศรี" เปิดใจครั้งแรก! ไม่รับงาน 2 ปี เพราะปัญหาส่วนตัว พร้อมคืนวงการบันเทิงเต็มตัว!
- ดูบังเกิดเกล้าย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี ที่นี่
ถาม เป็นเจ้าของเพลงดังมากมาย ล่าสุดคือเพลง "เมาคลีล่าสัตว์" ดังขั้นสุดเลย
ปีเตอร์ โฟดิฟาย : เป็นกิจกรรมของลูกเสือทั่วไปที่นำมาทำ รู้สึกว่ามีความน่าสนใจดี มีแค่ท่อน HOOK ท่อนสร้อย น่าจะมีอะไรจบเพลง บางคนก็ถามเราว่าคำว่า เมาคลีล่าสัตว์ มันคืออะไร เด็กบางคนก็ถาม มันเป็นนิยายเรื่องหนึ่งของประเทศอินเดีย มีเด็กคนหนึ่งที่มีหมาป่าเอาไปเลี้ยงแล้วก็มาเป็นหนัง เราก็เลยแต่งให้ 3 นาทีให้เป็นเรื่องจบได้เลย
ถาม แต่กว่าที่ ปีเตอร์ โฟดิฟาย จะมีเพลงดังมากมาย ในอดีตลำบากมาก เข้ามาหางานทำที่พัทยามาเป็นนักมวยที่ต่อยโชว์กับฝรั่ง
ปีเตอร์ โฟดิฟาย : ก่อนที่จะต่อยมวยที่พัทยา ใจจริงคือตั้งใจจะมาเป็น bellboy เพราะว่าเพื่อนชวนว่าไปไหม ได้ทั้งเงินเดือน ได้ทั้งทิป รับกระเป๋าไปส่งแขก เราก็ได้ทิปแล้ว อยากได้แบบนั้น เราก็ไป เขาก็ให้เรากรอกใบสมัครไว้แล้ว อีกหนึ่งอาทิตย์มาตรวจดูรายชื่อ มีชื่อก็ได้ทำงาน เราก็มีความหวัง แต่ภายในหนึ่งอาทิตย์นั้นที่เรารอ เราไม่มีเงิน ก็ต้องไปแถววอล์คกิ้ง สตรีท พอเราเข้าไป เราก็ไปเห็นรับสมัครชกมวย ซึ่งเราก็มีพื้นฐานการชกมวยมาอยู่แล้ว ได้เงิน 300 บาท ชกกับฝรั่ง ซึ่งส่วนมากฝรั่งที่มาชกกับเรา เขาจะเป็นคนเมา แต่สิ่งที่นักชกขึ้นชกที่วอล์คกิ้ง สตรีท ไม่ใช่ว่าชกเสร็จแล้วได้เงินเลยนะครับ แต่เขาจะกำหนดให้เรามาแบบนี้ว่าถ้าเราสามารถเตะให้ฝรั่งล้มได้ ก็จะให้เท่านี้ ซึ่งเวลาที่เราต่อยทุกครั้ง เราก็เต็มที่ แต่ตอนนั้นเราชกได้อยู่ประมาณ 10 กว่าวัน ชกเสร็จก็ไม่มีห้องนอน ก็ไปนอนข้างเวที เราก็ได้คุยกับเพื่อนว่าถ้าต่อยมวยอยู่แบบนี้ เราคงไม่ไหว ก็เลยไปสมัครงานแถวบาร์เบียร์ ซึ่งเขาก็เขียนว่ารับสมัครเด็กเสิร์ฟ 12 อัตรา มีห้องพัก มีอาหารสามมื้อ เข้าทางเราเลย เพราะเราต้องการห้องพัก แล้วก็มีอาหารให้ด้วย เงินเดือน 800 บาท ตอนนั้นถือว่าเยอะนะครับ ยุคนั้น พอไปสมัครในร้านอาหาร เขาจะมีอิเล็กโทน มีนักร้องหญิงสามคน นักร้องชายหนึ่งคน เขาร้องเพลงกันเพราะมากครับในยุคนั้น พอนักร้องหญิง นักร้องชายร้อง เราก็จำ แล้วมีอยู่วันหนึ่ง นักร้องชายไม่มาร้องเพลง และวันนั้นก็เป็นจุดเปลี่ยนของเราเลย แขกก็เริ่มเรียกร้องว่าทำไมไม่มีนักร้องชาย อยากฟังน้ำตาจ่าโท ตอนแรกก่อนที่ผมจะชื่อปีเตอร์ ชื่อจ่อยนะกัปตันเขาก็เรียกเราให้ขึ้นไปร้อง เพราะเขาได้ยินเราร้องเพลงในห้องน้ำบ่อยๆ ซึ่งเพลงแรกในชีวิตที่ผมร้องคือไก่จ๋า วันนั้นจำได้เลยทิปที่ผมได้คือ 400 บาท ประมาณเมื่อ 30 ปีที่แล้ว เราก็เลยกลายเป็นนักร้องประจำที่นั่น และตั้งแต่วันนั้นผมไม่เคยทำอาชีพอื่นเลยร้องเพลงมาตลอด
ถาม จากวันนั้น ปีเตอร์ ก็กลายเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงในพัทยา แล้วมีบ้านหลักล้านเลย
ปีเตอร์ โฟดิฟาย : ใช่ครับ ในนั้นก็มีหลายๆ คาเฟ่เข้ามาติดต่อให้เราไปร้องที่ร้านของเขา ตอนนั้นเรารู้สึกว่าเราเนื้อหอมมากจนเรามาอยู่ที่อัลคาซ่าร์ แล้วตอนนั้นเราร้องเพลงคาเฟ่สองที่ ได้เงินเดือนสามหมื่น จัดรายการวิทยุอีก เงินเดือนเกือบแสนต่อเดือน เราก็อยากมีบ้าน อยากมีภรรยา อยากมีครอบครัว ก็เลยซื้อบ้านหลังละ 3 ล้าน มีรถขับไปทำงาน จำได้เลยปี 39 เป็นช่วงที่เรากำลังสร้างเนื้อสร้างตัว ซึ่งเราซื้อบ้านปี 39 กลางๆ ปีแล้ว และพอปี 40 คาเฟ่เหลือที่เดียว ขอลดเงินเดือนพนักงาน รายการวิทยุก็เลิก เขาไม่จ้าง บ้านก็เลยโดนยึดไปโดยปริยาย กลายเป็นคนที่มีหนี้สินติดพัน พอปี 44 เข้ากรุงเทพฯ ปี 45 เจออาจารย์จรัส ก็มาทำเพลง โฟดิฟาย ซึ่งเป็นเพลงที่เราแต่งไว้ แต่เราไม่กล้าเสนอ เพราะไม่รู้ว่าเพลงที่จะดังต้องผ่านการวิจัยไหม ผ่านการประกวดไหม อาจารย์จรัส เขาก็บอกให้เราร้องให้อาจารย์ฟัง เราก็เคาะโต๊ะเลย เพราะว่าชอบแสดงอยู่แล้ว อาจารย์ก็ให้เราอัดเสียงใส่เทปไว้ พรุ่งนี้จะให้นักดนตรีทำ เขาก็เอาไปดนตรีทำ 3 วัน
ถาม แต่เมื่อช่วงเพลง โฟดิฟาย ออก ก็โดนฟ้องล้มละลาย
ปีเตอร์ โฟดิฟาย : โดนฟ้องหลังเพลงโฟดีฟายออกมาได้หลายปีอยู่ครับ ผมมาโดนฟ้องปี 54-55 ที่เขาฟ้องมันเป็นหนี้เสียที่เราติดไว้ เขาก็บอกว่าเราต้องติดเครดิตบูโร 3 ปีนะ แต่ใน 3 ปีนั้น เราก็ยังทำงานอยู่ พอผ่านพ้นสามปีนั้นไป มันเหมือนปลดล็อค เหมือนเกิดใหม่เลย
ถาม พอพ้นสามปีนั้นไปแล้ว ก็กลับมามีผลงานต่อ เมาคลีล่าสัตว์ ต่างๆ ออกมามากมาย แต่เจอโควิดอีก
ปีเตอร์ โฟดิฟาย : ผมว่าโควิดกับต้มยำกุ้งพอๆ กันนะ คล้ายกันมากเลย มันเหมือนครบรอบของมัน เพราะเจอโควิดรอบแรก งานยกเลิกหมดเลย ต้องกลับไปอยู่ต่างจังหวัด พอกลับมาโควิดเบา เราก็แต่งเพลง เมาคลีล่าสัตว์ ออกมา ยอดวิวอาจจะน้อย แต่งานเยอะ พอเห็นเดือนธันวาคม ผมเห็นงานละ เพราะผมรับเป็นวง 5 ถึง 6 หมื่น รับไว้ทั้งหมดเลย 14 งาน เกือบล้าน แต่เจ้าภาพก็ขอเลื่อน บางงานก็ยกเลิกเลย
ถาม แต่ก็ยังโชคดีที่มีละครเข้ามาช่วย
ปีเตอร์ โฟดิฟาย : ได้เล่นพอประคองชีวิตไปหน่อย ส่วนใครที่อยากติดต่องานก็สามารถโทรศัพท์มาได้ที่เบอร์ 064-765-2245 นะครับ