เป็นอีกหนึ่งตำนานของวงการภาพยนตร์ สำหรับนักแสดงคุณภาพ หน่อย ณัฐนี สิทธิสมาน ที่ได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ เปิดตำนานที่ยาวนานถึงปัจจุบันกับภาพยนตร์เรื่องบ้านผีปอบ ในบท ทองหยิบ พร้อมเผยที่มาของท่าหยิบพร้อมทั้งการลงโอ่งที่กลายเป็นเอกลักษณ์ที่ต้องอยู่ในทุกๆ ภาคของบ้านผีปอบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "อรชร เชิญยิ้ม" เคยกินยาหวังลาโลก หลังโดนนางเอกลิเกทิ้งไปแต่งงาน
- "แมว จิรศักดิ์" ขอเคลียร์!! หลังมีกระแสทิ้งบัลลังก์ร็อก ขึ้นแท่นผู้บริหารค่ายเพลง
- เห่อลูกขั้นสุด! "โอ๊ต วรวุฒิ" เปิดใจเกือบขายธุรกิจทิ้ง เพื่ออยู่บ้านกับลูก
- "ดอกอ้อ ทุ่งทอง & ก้านตอง ทุ่งเงิน" ยอมรับ! เป็นคู่พี่น้องที่ไม่ค่อยถูกกัน
- ดูบังเกิดเกล้าย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี
ถาม พอเห็นป้าหน่อยนึกถึงท่าเอกลักษณ์เหมือนกันนะ คนจะจดจำป้าหน่อยในท่าปอบหยิบตลอดเวลา
หน่อย ณัฐนี : ก็น่าจะใช่นะคะ มีคนที่เขาเห็นหน้าเราแล้วสะดุ้งก็มี ไม่สะดุ้งบ้างก็มี เพราะว่าบางคนก็ไม่ได้กลัวนะ
ถาม ป้าหน่อยเป็นคนที่อยู่ในวงการมายาวนาน เป็นนักแสดงมืออาชีพ หลากหลายบทบาท แต่หนึ่งในผลงานเป็นที่พูดถึงจดจำเป็นโลโก้ที่สุดเลยคือหนังเรื่องบ้านผีปอบ เล่นมากี่ภาค
หน่อย ณัฐนี : ใช่ค่ะ เล่นมา 14-15 ประมาณนี้ค่ะ ค่อนข้างเยอะ
ถาม พอเวลาที่ไปฉายที่ต่างจังหวัด ทุกคนกลัวนะ แต่มาดูเพราะว่าเป็นหนังที่โด่งดังมากในต่างจังหวัด ไม่เคยมีหนังไทยที่ทำได้หลายภาคขนาดนี้มาก่อน ป้าหน่อยภูมิใจไหม
หน่อย ณัฐนี : ภูมิใจมากเลย แต่เสียใจอย่างเดียว สวยขนาดนี้ให้เล่นเป็นผี (หัวเราะ)
ถาม แล้วทางทีมงานบอกป้าหน่อยไหมว่ามันจะยาวไปถึง 14-15 ภาค
หน่อย ณัฐนี : น่าจะไม่มีใครคิดหรอกค่ะว่าจะยาวมาก อย่างภาค 1 เราไม่ได้เล่นนะคะ เพราะว่าคิวละครไม่ได้ แต่เรามาเล่นตั้งแต่ภาค 2 โอกาสหรือว่าจังหวะอะไรมันคงดี หนังก็เลยทำต่อมาได้เรื่อยๆ
ถาม เขามีการประชุมสร้างคาแรคเตอร์ไหมว่าเราจะต้องทำหน้า ท่าทางแบบไหน
หน่อย ณัฐนี : จริงๆ แล้ว ผีปอบก็เป็นคนแหละค่ะ แต่แค่มีพฤติกรรมไม่เหมือนกัน อย่างท่าผีปอบ คุณสายยนต์ ผู้กำกับ ก็บอกว่าถ้าจะกินไส้ใคร จะทำยังไงให้คนดูรู้ ตัวที่เราเล่นเขาชื่อ ทองหยิบ เราก็ลองทำท่าหยิบให้เขาดู ทางผู้กำกับเขาก็โอเคกับท่านี้
ถาม แต่ก่อนที่จะมาเป็นปอบหยิบ เป็นเบื้องหน้าที่โด่งดังมานาน 50 ปี ป้าหน่อยทำงานเบื้องหลังมาก่อน ทำอะไรตอนนั้น
หน่อย ณัฐนี : ดูแลเสื้อผ้า หน้าผม ได้เข้ามาทำงานกับเสด็จพระองค์ชายใหญ่ หม่อมปริม เข้ามาคือเราไม่มีความรู้อะไรเลย ท่านให้โอกาสและสอนเราทุกอย่าง เราก็ทำทุกอย่างเลยค่ะ เรื่องแรกน่าจะเป็นน้ำผึ้งขม เรื่องนี้น่าจะประมาณปี 17 แล้วเรื่องสุดท้ายคือเงาะป่า เพราะเจ้านายสิ้นบริษัทก็เลยเลิก เราก็เลยมาเล่นละคร
ถาม จากเบื้องหลังแล้วก้าวเข้ามาอยู่เบื้องหน้า เพราะเราใกล้ชิด
หน่อย ณัฐนี : ใช่ค่ะ โอกาสของเราเยอะมากกว่าคนอื่นเลย จริงๆ แบบนี้ค่ะ ตัวแสดงมีน้อย คนก็ยังไม่อยากเป็นนักแสดงมาก ก็คิดว่าทำไมเราไม่เปิดโรงเรียนเพื่อจะให้คนทุกวัยได้มาเรียน ก็ได้มีโรงเรียนเปิดขึ้นโดยมีคุณจิ๊ อัจฉราพรรณ เป็นครูใหญ่ สอนทุกอย่างเลย สอนละครวิทยุ สอนการแสดง สอนแต่งหน้า สอนรำไทย สอนหมดทุกอย่างที่เกี่ยวกับการแสดง ส่วนเราก็มีหน้าที่ในการเก็บเงิน ช่วงที่เรารอหรือช่วงที่นักเรียนไม่ไปเรียน เราก็ขอว่าขอเรียนด้วยคนได้ไหม สุดท้ายเราก็ได้เรียนรู้วิชาการแสดงมา ตอนนี้แสดงมาทั้งละครทั้งหนัง น่าจะประมาณ 200 เรื่องได้คะ
ถาม เราเล่นสะสมวิชาการแสดง คนรู้จักเริ่มขึ้นมาเรื่อยๆ บทบาทของการเป็นปอบหยิบ
หน่อย ณัฐนี : ผู้กำกับคุณสายยนต์ สนิทกัน เขาก็บอกว่าอยากให้เรามาเล่น เพราะว่าภาคหนึ่งไม่ได้เล่น เพราะคิวละครมันเต็ม แต่เราก็คุยกับผู้กำกับว่าถ้าพี่ละครเยอะหรือเหนื่อยมา ก็ต้องช่วยพี่ด้วยแล้วกัน เขาก็เลยจัดให้เราไปเล่นภาคสอง คุณสายยนต์บอกว่าผีของผมอยากให้ตลก เราก็รู้สึกภูมิใจที่เรื่องนี้กลายเป็นหนึ่งในตำนานของภาพยนตร์ไทย และคนก็จดจำเราจากเรื่องนี้ได้เยอะมาก
ถาม ในหนังแต่ละภาคก็จะมีฉากจำ เช่น คนวิ่งลงโอ่ง ลงตุ่มกัน ซึ่งคนลงไปในนั้น 3-4 คน แต่คนที่ลงสุดท้ายก็คือ ป้าหน่อย
หน่อย ณัฐนี : จริงๆ แล้วเพราะเมื่อก่อนก็ไม่ได้มีทุนมาทำเทคนิคอะไรมาก (หัวเราะ) อยู่ต่างจังหวัดก็จะไม่มีอะไร ขึ้นต้นไม้ ดำน้ำ ลงโอ่ง คุณสายยนต์ เขาจะเขียนมาเลย แล้วอีกอย่างเขาเป็นคนที่วางแผนได้ดี แต่สำหรับเรื่องนี้ไม่ได้ฉายในโรงใหญ่นะคะ คนในเมืองก็เลยอาจจะงงว่าทำไมมีถึงเกือบยี่สิบภาคเลยเหรอ เพราะเรื่องนี้เป็นหนังที่ไปฉายต่างจังหวัดส่วนใหญ่ หนังสายก็คือเขาจะหิ้วกระเป๋าหนังที่ในนั้นจะมีม้วนฟิล์มเอาไปฉายตามโรงภาพยนตร์ตามต่างจังหวัด ซึ่งหนังเรื่อง บ้านผีปอบ เป็นหนังนอกสายตามาก แต่ว่าสุดท้ายความดังที่มันเป็นคลื่นกระทบมาจากต่างจังหวัด สุดท้ายความดังของหนังเรื่องนี้ก็ได้มาฉายในโรงภาพยนตร์ที่กรุงเทพฯ ด้วย
ถาม ภาคสุดท้ายที่ป้าหน่อยได้เล่นเป็นส่วนหนึ่งของบ้านผีปอบคืออะไร
หน่อย ณัฐนี : บ้านผีปอบ reformation แต่สำหรับภาคนี้โอ่งก็ยังคงมีนะคะ
ถาม ซึ่ง ณ วันนี้สิ่งที่ป้าหน่อยทำอยู่คือการเป็นนักแสดงอาชีพเหมือนเดิม แต่อย่างหนึ่งป้าหน่อยคือใช้เงินอย่างรู้คุณค่ามากๆ เลย แล้วก็ไม่ใช้ของแบรนด์เนม
หน่อย ณัฐนี : ก็อยากใช้อยู่นะ แต่ว่าเราเป็นคนของเยอะ ถ้ากระเป๋าหนังมันก็จะใส่ได้น้อยใช่ไหมคะ หนักด้วย กลัวไหล่ทรุด ก็เลยต้องใช้กระเป๋าผ้า อยากจะบอกว่าทุกอาชีพก็ต้องมีการวางแผนการเงิน ถ้ามีแต่ใช้ เงินก็จะไม่มีเก็บ แต่อะไรที่มันต้องใช้เราก็ต้องใช้ ก็ประหยัดอย่างพอดีแล้วกัน
ถาม ต้องบอกว่าป้าหน่อยเป็นอีกคนหนึ่งที่อยู่มาตั้งแต่ยุคแรกๆ ของวงการบันเทิงของไทย เห็นการเปลี่ยนแปลงมาหลายรูปแบบมาก จนถึงยุคนี้ก็ต้องบอกว่ามันเปลี่ยนแปลงไปมากเลยทีเดียว มีมุมไหนที่ป้าหน่อยอยากจะฝากบ้าง
หน่อย ณัฐนี : ถ้าเราได้โอกาส ขอให้ใช้โอกาสให้ดีที่สุด ทุกอย่างจะดี ตั้งใจให้เต็มที่
Advertisement