เพจเฟซบุ๊ก "อยากดังเดี๋ยวจัดให้ Kim Signature" ได้แชร์คลิปวิดีโอความยาวประมาณ 17 วินาที ระบุว่า เป็นเหตุการณ์ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ระบุว่า "นี่หรือที่เรียกว่าครู ทำไมถึงลุแก่อารมณ์ ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้หรือไง โรงเรียนไม่เคยปลอดภัย ทั้งต่อนักเรียน และครูกันเอง และจะไม่ปลอดภัยหากครูแบบนี้ยังคงลอยหน้าลอยตาอยู่ได้ อาชญากรในคราบครูต้องถูกกำจัดออกจากระบบการศึกษาโดยเร่งด่วน"
โดยคลิปดังกล่าวเป็นการโต้เถียงกันระหว่างครูสองคน ซึ่งมีเด็กนักเรียนนั่งทำงานอยู่ และบางช่วงครูในคลิปมีการหยิบวัตถุบางอย่างและเดินพุ่งเข้ามา ทำให้ครูที่ถ่ายคลิปพยายามขอร้องและขอโทษว่าไม่ถ่ายคลิปแล้ว ก่อนที่คลิปจะตัดไป นอกจากนี้คลิปดังกล่าวเป็นวิจารณ์กัน ทวิตเตอร์จนขึ้นเทรนทวิตอันดับ 2 ของเมื่อวันที่ 9 เม.ย.6
วันที่ 10 เม.ย. 64 ดร.วิทยา พัฒนวงศ์ ผู้จัดการ และผู้อำนวยการโรงเรียนอรุณประดิษฐ ชี้แจงว่า คลิปเหตุการณ์เมื่อวันที่ 18 มี.ค. โดยทางโรงเรียนรับไม่ได้ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เชิญคุณครูอ้อยผู้ก่อเหตุออกทันที ส่วนคุณครูแพงที่ถ่ายคลิป ก่อนหน้านี้ทาง โรงเรียนให้ยุติปฏิบัติหน้าที่ก่อน เพื่อไปจัดการเรื่องคดีความ ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาว่ามีความผิดในส่วนใด โดยเฉพาะเรื่องคลิปที่ถูกเผยแพร่ออกในขณะนี้ ส่วนเด็กนักเรียนในที่เกิดเหตุ ตอนนี้สภาพจิตใจปกติไม่มีปัญหา เพราะทางโรงเรียนได้จัดการพูดคุยปรับทัศนคติ และดูแลเด็ก ๆ กำลังใจดีกันทุกคน
นางปุณยาพร ถาวร หรือ ครูอ้อย อายุ 60 ปี อดีตคุณครูผู้สอนวิชาคณิตสาศตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เปิดใจว่า ในความสัมพันธ์ส่วนตัวกับทางครูแพง ในช่วงที่ครูแพงเริ่มเข้ามาสอนช่วงทดลองงานค่อนข้างสนิทกัน ตนเองซึ่งบ้านอยู่ไม่ไกลโรงเรียน ก็มักจะห่อกับข้าวไปฝากครูแพงเสมอ ในฐานะที่ต้องอยู่ห้องพักครูห้องเดียวกัน ตนเองจะคอยให้คำปรึกษาและหาทางออกให้เสมอ ทั้งการแนะนำให้บบรรจุเป็นครูโรงเรียนเอกชนให้ได้ไว ๆ จนกระทั่งครูแพงก็ได้บรรจุ
ต่อมาช่วงประมาณเดือนกันยายน ตนเองเริ่มรู้สึกว่าครูแพงตีตัวออกหาก ไม่ให้เกียรติ โดยเฉพาะการอยู่ในห้องพักครูก็มักจะเสียงดังนำอาหารเข้ามากินในห้องรวม ตนพยายามว่ากล่าวตักเตือนมานานแล้ว ช่วงเดือนนั้นเกิดมีปากเสียงกันเรื่องประตูที่ถูกลมพัดประตูจึงปิดเสียงอย่างดัง และห้องก็ล็อกอัตโนมัติ ครูแพงเข้าใจผิดว่าตนเองเป็นคนปิดประตูเสียงดังและไม่ยอมเปิดประตูให้ ครูแพงด่าตนเองเสียหายว่า "มึงมันอีแก่หัวหงอก" ทำให้เรื่องนี้ถึงคณะกรรมการ แต่วันนั้นเรื่องก็จบไป เพราะไกล่เกลี่ยต่างคนก็แยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเอง
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคลิปยอมรับว่าคุมอารมณ์ไม่อยู่แล้ว เพราะความยั่งยุของครูแพง เพียงแค่เข้าไปตักเตือนเรื่องให้เด็กนักเรียนสวมหน้ากากอนามัยป้องกันโควิด-19 เพราะตัวครูเองก็ป่วย หลังจากนั้นต่างคนได้ต่างขอโทษกัน ครูแพงยืนยันแล้วว่าได้ลบคลิปออกไปหมดแล้ว แต่ในส่วนของคดี ตนเองไม่ได้ขัดข้อง เพราะยอมรับว่าทำผิดจริง กระทั่งเมื่อวานศาลจังหวัดเพชรบุรี ตัดสินตนมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายและข่มขู่ผู้อื่น มีการเสียค่าปรับให้ศาล 2,500 บาท แต่ทางครูแพงไม่ยอม ให้ญาติเดินมาบอกว่าขอเรียกค่าเสียหายจำนวน 20,000 บาท วันนี้ยังยืนยันว่าไม่สามารถให้ได้ ซึ่งหากครูแพงจะดำเนินการฟ้องแพ่ง ตนเองก็ไม่ได้ติดขัด
แต่หลังจากศาลตัดสินเสียค่าปรับ ตนเองได้เดินทางกลับบ้านผ่านไปเพียง 2 ชม. คลิปก็หลุดว่อนโซเซียล ตนเองยังสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้ก็รู้สึกเสียหาย เสียชื่อเสียง จึงมีการปรึกษาทนายความเตรียมเอาผิดครูแพง และบุคคลที่เผยแพร่คลิปออกไปในข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
Advertisement