เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.64 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า วานนี้ (7 มิ.ย.64) ตนได้เปิดวาระแห่งชาติในการคิกออฟฉีดวัคซีนพร้อมกันทั่วประเทศ โดยมียอดรวมวันแรกมากว่า 4 แสนโดสทั่วประเทศ และยอดสะสมกว่า 4 ล้านโดสทั่วประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ในฐานะ ผอ.ศบค. ตนได้มอบหมายหลักการกระจายวัคซีนให้มีความเท่าเทียมให้มากที่สุด และทุกจังหวัดต้องได้รับวัคซีนเพื่อให้เริ่มต้นได้พร้อมกัน ไม่มีจังหวัดใดถูกทอดทิ้ง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ข้อจำกัดที่สำคัญที่จำเป็นต้องปรับแก้ คือ เรื่องการจัดส่งวัคซีน ซึ่งทุกคนน่าจะทราบดีว่าไม่ได้มาครั้งเดียวทั้งหมดตามสัญญา แต่จะมีการทยอยจัดส่งเข้ามาเป็นรอบ ๆ ซึ่งถือหลักการที่จะจัดส่งให้เร็วที่สุดโดยพิจารณาเป็นรายเดือนตามจำนวนวัคซีนในมือถือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งอาจเกิดข้อจำกัดในการบริหารจัดการอยู่บ้างในระยะแรก
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้จะมีการเซ็นสัญญารับทราบเงื่อนไขกับทางผู้ผลิตวัคซีนของไฟเซอร์ และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน เพื่อยืนยันเรื่องจำนวนการจัดซื้อ และการยอมรับว่าเป็นการใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยการจัดซื้อจะแบ่งเป็นของไฟเซอร์ 20 ล้านโดส และของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน 5 ล้านโดส หากตกลงกันได้ ทางผู้ผลิตยืนยันว่า สามารถส่งวัคซีนได้ในช่วงไตรมาส 3 เป็นต้นไป แต่ยังไม่กำหนดเวลาที่แน่นอน
กรณีการเลื่อนฉีดวัคซีนโควิด-19 ตนขอยืนยันไม่มีเลื่อน ทุกโรงพยาบาลได้รับการจัดสรรวัคซีนทั้ง 2 ยี่ห้อ ตามจำนวนที่ตกลงกันไว้ ทางศบค.ก็เห็นชอบ กระทรวงสาธารณสุขก็เห็นชอบ จุดที่จะรับวัคซีนก็เห็นชอบ เมื่อเป็นแบบนี้ไม่มีการเลื่อน ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขไม่มีการเลื่อนแน่นอน เนื่องจากเรื่องวัคซีนโควิด ท่านนายกฯ ให้เป็นวาระแห่งชาติ ดังนั้นเมื่อมีปัญหาต้องแจ้ง จะได้แก้ปัญหา ไม่ใช่หยุด เพราะถ้าหยุดคนเดือดร้อนคือ ประชาชน