วันที่ 18 มิ.ย. 64 กรณีนายจักรพงศ์ งามขำ สมาชิกชมรมร่มบิน จังหวัดกระบี่ เป็นผู้ที่เห็นวัตถุลึกลับลอยบนอากาศ เล่าว่า วัตถุลึกลับดังกล่าวมีลักษณะมองเห็นได้ชัดในระยะไกล เป็นแท่งสี่เหลี่ยม คล้ายรถบัสเคลื่อนที่ จากด้านซ้ายมือผ่านไปอย่างช้า ๆ คิดว่าเป็นอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน หรือเครื่องบินบังคับของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือทหาร
แต่เมื่อสังเกตพบว่าไม่ใช่ เพราะมีขนาดใหญ่มาก เมื่อเปรียบเทียบกับร่มบินที่บินอยู่ด้วยในขณะนั้น โดยวัตถุลึกลับดังกล่าวปรากฏให้เห็นบินผ่านอยู่ประมาณ 30-40 นาที ก่อนหายไป ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 8-9 ปี ได้พบเห็นวัตถุลักลับบินอยู่บนท้องฟ้า บริเวณสถานฟุตบอล อบจ.กระบี่ แต่มีลักษณะเป็นจานแบนบินผ่านมาแล้ว ด้วยเชื่อว่าน่าจะเป็นจานบิน หรือ UFO
นายพีท ทองเจือ ผู้ที่มีความเชื่อเรื่อง UFP เชื่อว่าต่างดาวมีจริงนั้น เปิดเผยว่า จากภาพดังกล่าวที่กลุ่มบินพารามอเตอร์ถ่ายภาพติดวัตถุประหลาดในท้องฟ้า ส่วนตัวมีความเชื่อมั่นว่าไม่ใช่เครื่องบิน ไม่ใช่เฮลิคอปเตอร์ ไม่ใช่นก ไม่ใช่โดรน แต่เชื่อว่าเป็นวัตถุคล้ายยานของมนุษย์ต่างดาว เพราะจากสถิติที่มีการเก็บรวบรวมในพื้นที่ จ.กระบี่ หรือ จ.ภูเก็ต พบว่าท้องฟ้าจุดดังกล่าวมีการถ่ายติดและบันทึกข้อมูลยานของมนุษย์ต่างดาวได้บ่อยครั้ง
ฉะนั้นจึงเชื่อมั่นว่ามีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นยานของมนุษย์ต่างดาว ลักษณะทรงกลม ขนาดเล็กประมาณ 6-10 เมตร แต่ยังไม่มีชื่อปรากฏและยังไม่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการในกลุ่มของคนที่เชื่อในเรื่องนี้ แต่ยานมนุษย์ต่างดาวที่พบเห็นได้มากที่สุดในพื้นที่ประเทศไทยคือยานชนิดทรงยาว หรือเรียกว่า "ซิกา"
ทั้งนี้ การที่กลุ่มของนักบินพารามอเตอร์ถ่ายภาพดังกล่าวติดได้ ตนเองมองว่าเป็นเรื่องของคลื่นความถี่ในการป้องกันตัวของยานต่างดาว ซึ่งจะมีการปล่อยคลื่นความถี่ในการป้องกันตัวเองไม่ให้มองเห็น เช่น มีการปล่อยคลื่นความถี่อยู่ที่ 4G ทำให้ในระยะการมองเห็นทั่วไปจะมองไม่ได้ ยกเว้นว่าจะอยู่ห่างออกมาจากตัวยาน แล้วขึ้นความถี่ลดลง อาจจะเหลือเพียงอยู่ที่ 2G ทำให้มองเห็นรูปร่างของยานต่างดาวได้บางส่วน จนกระทั่งอกหักมาในระยะที่คลื่นความถี่ป้องกันยานต่างดาวปิดตัวลง ก็สามารถมองเห็นได้ชัดเจน และยังสามารถที่จะถ่ายติดได้อย่างง่ายดาย
โดยตนเองไม่สามารถวิเคราะห์หรือใช้ข้อมูลได้ ว่าการที่จานบินดังกล่า ลงมาบริเวณเหนือท้องฟ้ากระบี่มีวัตถุประสงค์หรือภารกิจเพื่ออะไร เพราะการที่ญาติเหล่านี้ลงมาสำรวจ เป็นเพราะภารกิจบางอย่าง แต่เป็นยานลำเล็กที่ถูกส่งมาจากยานแม่ ที่ซ่อนตัวอยู่บนเหนือเมฆก้อนใหญ่ ดังนั้นจึงต้องมีการส่งยานลำเล็กเพื่อลงมาสำรวจในภารกิจอื่น ๆ
ด้าน รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวถึงกรณี UFO หมายถึงวัตถุทุกอย่างที่ลอยอยู่บนอากาศแล้วยังไม่มีการพิสูจน์ทราบว่าคืออะไร จะเรียกว่า UFO
จากวัตถุที่ปรากฏในคลิป องค์ประกอบในลักษณะสีดำเคลือนที่บนท้องฟ้า ก็ถูกแล้วที่ต้องเรียกว่า UFO เพราะยังพิสูจน์ไม่ได้ ซึ่งสามารถเป็นไปได้ 2 อย่าง คือสิ่งมีชีวิตจำพวกนก ก็บินในลักษณะนี้ได้เช่นกัน หรืออาจจะเป็นเครื่องอากาศยานวัตถุที่มนุษย์สร้างขึ้น เพราะทิศทางคือบินสวนกับทิศทางลม
ซึ่งถ้าซูมเข้าไปให้เห็นชัดกว่านี้ แล้วทราบชัดคืออะไร Identify Flying Object คำว่า UFO จะคลายหายไป แต่ในคลิปนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าคืออะไร เบื้องต้น สันนิษฐานว่าเป็น 2 อย่าง ถ้าไม่ใช่สิ่งมีชีวิตก็คืออากาศยานที่มีคนบังคับนั้น
Advertisement