สมุยพลัส - เกาะเต่า - พะงัน พร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 15 ก.ค.นี้ มาถึงต้องกักตัวในโรงแรม 7 วัน รอดูผลภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ หากไร้ปัญหาจ่อขอตามรอยไม่กักตัว
นายรัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย เปิดเผยว่า วันที่ 15 ก.ค.นี้ เกาะสมุยมีความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้ว ภายใต้โครงการสมุย พลัส โมเดล ที่มีการเชื่อมโยงไปยังเกาะเต่า และเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งรูปแบบจะไม่เหมือน ภูเก็ตแซนด์บ๊อกซ์ ที่นักท่องเที่ยวที่ตรวจไม่พบเชื้อโควิดจะไม่ถูกกักตัวเลย โดยเกาะสมุยมีข้อปฏิบัติตัวแตกต่างคือใน 7 วันแรก นักท่องเที่ยวที่มาจากต่างประเทศถูกกำหนดให้พักในโรงแรมที่เป็นสถานที่กักตัวทางเลือก (ALQ) ก่อน ปัจจุบันมี 22 แห่งรวม 300-400 ห้อง จากนั้นวันที่ 8-14 ถึงย้ายไปพักโรงแรมที่ได้รับเครื่องหมายมาตรฐานความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวและสุขอนามัย (SHA+)
ครม.ไฟเขียวเปิด ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 1 ก.ค.นี้ เกาะเต่า-สมุย-พะงัน จ่อคิวต่อ
“ในช่วง 7 วันแรกแม้จะต้องพักใน ALQ แต่สามารถออกมานอกห้องพักได้ นั่งในร้านอาหารของโรงแรมได้ ออกมาหน้าหาดได้ เล่นฟิตเนส สระว่ายน้ำ เพียงต้องอยู่ภายในบริเวณโรงแรม อย่างไรก็ตามสามารถท่องเที่ยวเส้นทางที่กำหนดเฉพาะ(Sealed route) โดยตัวแทนนำเที่ยวที่ได้รับการอบรมโดยเฉพาะ สามารถพาไปลงเรือ ดำน้ำ ทานอาหารบนเรือยอร์ช และบางพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ในเส้นทางที่ไม่ปะปนกับบุคคลภายนอก เรียกว่าไม่ใช่เป็นการกักตัว สามารถออกมาเที่ยวได้บ้าง และจะรอดูผลของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ใน 1 เดือนหากไม่มีปัญหา ทางเกาะสมุยจะขอปรับเป็นรูปแบบเดียวกันด้วย” นายรัชชพร กล่าว
สำหรับการเปิดเกาะสมุย ถือเป็นจุดเริ่มต้นทดลองระบบที่วางไว้ ไม่ได้หวังว่านักท่องเที่ยวจะแห่เข้ามา เพราะมีกฏระเบียบที่วางไว้ป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ถ้ามีผู้ติดเชื้อเกิน 20 รายต่อสัปดาห์ก็จะมีการทบทวน ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วง 1 เดือนแรก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) มองไว้ 1,000 คน แต่ภาคเอกชนอยากให้ถึง 2,000 คน รวมๆ แล้วตลอดไตรมาส 3 ตั้งเป้ารายได้ 1,000 ล้านบาท
สิ่งที่คาดหวังคือถ้าไปได้ดี ในไตรมาส 4 ของปีนี้ตั้งแต่เดือนต.ค.-ธ.ค.มีโอกาสสร้างรายได้ 3,000-6,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับรายได้ครึ่งปีแรกที่ได้จากคนไทยมาเที่ยวสมุย 1,000 ล้านบาท ตลอดทั้งปีนี้เกาะสมุยอาจจะมีรายได้ที่ 5,000-8,000 ล้านบาท จากในปี 2562 ก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 เกาะสมุยมีรายได้จากการท่องเที่ยว ปีละ 30,000 ล้านบาท ส่วนปี 2563 มีรายได้ 2,900 ล้านบาท
นายวรพงษ์ วงศ์สุวรรณ อุปนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเกาะเต่า กล่าวว่า เกาะเต่าเตรียมพร้อมแล้วมีการฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันหมู่แล้ว 75% ของประชากร มีโรงแรม SHA+ รับนักท่องเที่ยวได้ 1,000 ห้อง เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงเรื่องการเรียนดำน้ำราคาถูกที่สุดในโลก และสถานที่ใต้น้ำมีความสวยงามอันดับ 7 ของโลก และขณะนี้ลดราคาลงมา 50-60% การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกครั้ง หวังว่าครึ่งหลังของปีนี้จะมีรายได้ 580 ล้านบาท จากในปี 2562 มีนักท่องเที่ยว 200,000 คน มีรายได้ 4,000 ล้านบาท ส่วนปี 2563 เหลือไม่ถึง 5% หรือประมาณ 200 ล้านบาท
น.ส.ฉันทนา ลิ้มสุวรรณ นายกสมาคมโรงแรมและการท่องเที่ยวเกาะพะงัน กล่าวว่าเกาะพะงันมีโรงแรมที่ได้ SHA+ แล้ว 13 แห่งรวม 400-500 ห้องพัก เกาะพะงันเดิมเคยมีกิจกรรมฟูลมูลปาร์ตี้ เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวแต่หลังจากการระบาดของโควิด-19 ยังไม่สามารถจัดกิจกรรมนี้ แต่ยังมีแม่เหล็กอื่นๆ ที่คนอาจไม่พูดถึงคือ เรื่องของกีฬา ศิลปะ ศิลปิน ดนตรี สุขภาพ โยคะ สปาที่จะสามารถดึงดูนักท่องเที่ยวกลุ่มรักสุขภาพนี้ได้ และเดือน ต.ค.จะมีการแข่งขันวิ่งเทรล 1,500 คนมีนักกีฬาชื่อดังมาจากสหรัฐฯ เฉพาะงานนี้จะมีรายได้ 20 ล้านบาท ส่วนรายได้ตลอดปี 2564 ขอดูสถานการณ์ก่อนเพราะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาน้อยมาก คนสู้ไม่ไหวปิดกิจการไปเยอะ จากในปี 2562 เคยมีรายได้รวม 2,000 ล้านบาท ส่วนปี 2563 ลดลงเหลือ 5-10% ของภาวะปกติ
เงื่อนไข สมุยพลัส - เกาะเต่า - พะงัน เปิดพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวต่อจาก จ.ภูเก็ต 15 ก.ค.นี้
เปิดเงื่อนไข ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ต่างชาติฉีดวัคซีนก็ต้องตรวจโควิด-กักตัว 14 วันในจังหวัด