จากกรณี MRS.NICOLE SAUVAIN WEISSKOPF หรือ นางนิโคล ซาเวน ไวครอปฟ์ อายุ 57 ปี สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ นักท่องเที่ยว Phuket Sandbox หัวหน้าพิธีการทูตสหพันธรัฐสาธารณรัฐเยอรมนี
เดินทางเข้ามาประเทศไทยเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 64 ก่อนถูกฆ่าเปลือยหมกศพในน้ำตกโตนอ่าวยน ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต มีชาวบ้านในพื้นที่พบศพเมื่อวันที่ 5 ส.ค. 64 และถูกอำพรางด้าสนผ้าใบ พบหลักฐานเสื้อผ้าและสร้อย โทรศัพท์ติดตัวอยู่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดวงจรปิด แหม่มสวิตผ่านแคมป์พม่าก่อนถูกฆ่าเปลือย บิ๊กปั๊ดส่งหนุมานเด็ดหัว
ล่าสุด วันที่ 7 ส.ค. 64 เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. มีรายงานว่าสามารจับคุมตัวต้องสงสัยได้ที่อ่าวขาม ห่างที่เกิดเหตุคือน้ำตกโตนอ่าวยน 3 กม. ทราบชื่อ นายธีรวัฒน์ ท่อทิพย์ หรือ บังหลี อายุ 27 ปี ชาว ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต อาศัยอยู่ในหมู่บ้านกรอบโกย ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต โดยภาพจากกล้องวงจรปิดผู้ต้องหาสอดคล้องกับช่วงเวลาจากกล้องวงจรปิดที่ผู้ตายเดินออกจากโรงแรม
ทีมข่าวเดินทางมาที่บ้าน นายธีรวัฒน์ หรือ บังหลี ทราบว่าเป็นบ้านที่อยู่อาศัยขายน้ำแข็งใส่อยู่กับภรรยา นางมาณี (นามสมมติ)
อายุ 65 ปี ป้าผู้ต้องหา เปิดเผยว่า หลังตำรวจมาคุมตัวบังหลีไป ตอนนี้ทั้งแม่แม้และแม่ยายพากันเป็นลมล้มทั้งยืนอยู่ในบ้าน ไม่มีใครพร้อมให้ข่าว ส่วนตัวได้เห็นหน้าบังหลี ตามข่าวก็ตกใจเหมือนกัน
สำหรับบังหลี แต่งงานมาอยู่กับเมียเป็นคนนิสัยดีขยันทำงานทุกอย่าง ทั้งขายของ รับจ้างตัดต้นไม้ ถางหญ้าที่ไหนไปหมด ในช่วงที่ผ่านหลังมีนักท่องเที่ยวตาย บังหลีก็อยู่บ้าน ไม่มีอะไรผิดปกติ และไม่เคยเห็นแผลแม้แต่นิดเดียว บังหลีก็ไม่เคยมาเล่าอะไรให้ฟัง ทั้งนี้ส่วนตัวยังเชื่อมั่นในตัวบังหลีว่าไม่ใช่คนร้ายแน่นอน
ด้านนายวีรยุทธ อุตสาหะ อายุ 24 ปี น้องเมียผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ตำรวจเข้ามาที่บ้านบังหลีตอน 07.00 น. มาแบบปกติ ไม่ได้ข่มขู่ และตำรวจมาถามหาพี่เขย ก่อนเข้าไปตรวจสอบรถจักรยานยนต์ และคุมตัวพี่เขยขึ้นรถไป โดยไม่ได้มีใส่กุญแจมือ ส่วนพี่เขยก็ยินยอม ไม่ได้ขัดขืน ทั้งนี้ตนไม่ได้พูดคุยหรือสอบถามอะไรพี่เขย ปล่อยให้ตำรวจทำหน้าที่ อีกอย่างปกติก็ไม่ค่อยได้พูดคุยอะไรกับพี่เขยอยู่แล้ว ต่างคนต่างอยู่
ส่วนตอนนี้แม่ของตน เป็นแม่ยายพี่เขยก็เป็นลม ญาติต้องช่วยกันดูอยู่ ไม่น่าจะมีอะไรน่าเป็นห่วง และญาติก็มาร่วมกันที่บ้านรอติดตามข่าว
ขณะที่เมื่อช่วงเช้า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. และ พ.ต.อ.ประเทือง ผลมานะ ผู้กำกับการ สภ.วิชิต ลงพื้นที่สำรวจพื้นที่ใกล้เคียงกับน้ำตก เดินสำรวจไปยังข้างบนน้ำตก จุดที่นักท่องเที่ยวถูกฆาตกรรมเสียชีวิต
พล.ต.อ.สุวัฒน์ เปิดเผยว่า การเก็บรวบรวมพยานหลักฐานปูพรมตรวจสอบตั้งแต่จุดเกิดเหตุ ได้เข้าพื้นที่แล้วสรุปได้ว่าคนประเภทไหนที่จะเข้าพื้นที่แบบนี้ นำมาประกอบการสืบสวนด้วย แต่คาดหวังคือวัตถุพยานทางนิติวิทยาศาสตร์และผลชันสูตร การเก็บตัวอย่างจากศพ เบื้องต้นพบร่องรอยการถูกทำร้ายที่บริเวณกระดูกกล่องเสียง ลำคอ แต่ไม่ได้สามารถเปิดเผยได้ว่าร่องรอยดังกล่าวถูกทำร้ายด้วยวิธีการใด และไม่ใช่แค่จุดนั้นที่มีร่องรอยการถูกท้าร้าย ยังมีจุดอื่นตามร่างกายที่ถูกทำร้ายด้วย
ส่วนคนร้ายอาจมีแค่ 1 คนหรือมากกว่านั้นยังไม่ขอสรุป และไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งประเด็นมุ่งหมายชิงทรัพย์หรือข่มขื่น ต้องเปิดกว้างเพื่อสืบเสาะหาคนร้าย ในชั้นนี้ก็ยังไม่ล็อกเป้าหมายว่าเป็นใครหรือสัญชาติใด เพราะพยานบุคคลที่เรียกมาเป็นการพูดคุย ไม่ได้ฟันธงว่าเป็นผู้ต้องสงสัย คาดว่าจะใช้เวลาหลายวัน ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่สรุปว่าใครเป็นฆาตกร แต่ 2 วันที่ผ่าน แนวทางการสืบสวนเป็นที่น่าพอใจ
อย่างไรก็ตาม มีการหารือกับทุกภาคส่วนในภาคของสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่เป็นที่นิยม หรือยากต่อการดูและเป็นจุดอับ เช่น น้ำตกที่เกิดเหตุอาจจะต้องปิดตัวลงในอนาคต การยกระดับความเข้มการเข้า-ออกเกาะภูเก็ต เช่น ถ้าเป็นคนไทยหรือต่างชาติที่มาในพื้นที่จะต้องถูกตรวจสอบ บุคคลที่มีหมายจับก็จะเข้าพื้นที่ภูเก็ตไม่ได้เด็ดขาด
นายยัน แคธเนอร์ ผู้ช่วยฝ่ายตำรวจสวิตเซอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย ลงพื้นที่ติดตามคดี พร้อมเปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่เลวร้ายของทั้ง 2 ประเทศ มีความมั่นใจว่าตำรวจไทยจะสามารถจับคนร้ายได้ ทั้งนี้ อยากบอกกับตำรวจไทยว่าตำรวจไทยที่ฝีมือดีต่างมาทำคดีนี้ ยิ่งทำงานหนักมากขนาดนี้ ก็เชื่อว่าจะหาตัวคนร้ายได้แน่นอน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของแคมป์คนงานทั้ง 2 แคมป์ ได้แก่ แคมป์คนงานอัลลายด์แอนซ์ คอร์ป แคมป์ 1 และแคมป์ไทยอิงเกอร์ แคมป์ 2 วันนี้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เข้าตรวจอัตลักษณ์บุคคลในแคมป์แล้ว
นางอริสรา อิสลาม อายุ 64 ปี ชาวบ้านใกล้โรงแรม เล่าว่า มักเห็นผู้ตายเดินออกจากโรงแรมช่วงสาย และจะกลับเข้ามาช่วงเย็นของทุกวัน โดยเฉพาะวันที่ 3 ส.ค. 64 ตนก็เห็นผู้ตายเดินออกไปตามปกติ สวมแมสก์เหมือนทุกวัน แต่ไม่ได้ทักทายกัน ข้อมูลที่ได้จากแม่บ้านคือผู้ตายชอบออกกำลังกายทุกวัน แต่เมื่อวันที่ 3 ส.ค. รู้จากแม่บ้านว่าไปสำนักสงฆ์บนเขา และผู้ตายออกไปก่อนเที่ยง แต่ไม่กลับมา คนในโรงแรมก็สงสัย แต่ไม่ได้เอะใจคิดว่าผู้ตายคงจะไปหาเพื่อน จนมาวันที่ 5 ส.ค. ก็รู้ข่าวว่าเสียชีวิตแล้ว ตนจึงคิดว่าผู้ตายอาจหลงทาง เพราะจริง ๆ แล้วหากไปสำนักสงฆ์บนเขา จะไม่มีใครใช้เส้นทางน้ำตก เพราะค่อยข้างลำบาก หากจะไปสำนักสงฆ์ต้องไปอีกทางซึ่งรถสามารถขึ้นไป
ส่วนที่น้ำตกแห่งนี้ในสถานการณ์ปกติมีคนมาเที่ยวพักผ่อนเยอะ แต่มาแบบเช้าเย็นกลับ ไม่มีใครพักค้างกางเต็นท์ เพราะสถานที่มีแต่หิน ไม่เอื้อต่อการกางเต็นท์ สำหรับตนเองชอบไปนั่งเล่นชายหาดช่วงเย็นทุกวัน และไม่มีใครมีพฤติกรรมผิดปกติ มีชายวัยรุ่นคนหนึ่งสติไม่ค่อยดี เมายา รูปร่างผอมสูง ผิวสองสี ขี่รถจักรยานยนต์ชอบตะโกนโวยวาย แต่ตนไม่เห็นสักพักแล้ว คิดว่าครอบครัวน่าจะพาไปรักษา แต่อีกมุมสถานที่ใกล้น้ำตกมีแคมป์คนงาน นเชื่อว่าช่วงที่ผู้ตายมาอยู่อาจจะเดินผ่านจุดนั้นทุกวัน มีคนร้ายสังเกตติดตาม เพราะตนเองก็ยังกลัวไม่กล้าเข้าไปในโซนนั้น