ปุ้ย TPN แจงดราม่าเงินบริจาค ยันไม่เคยเกลียดชัง "ฟ้าใส ปวีณสุดา"

จากกรณีดราม่าหลัง "ฟ้าใส ปวีณสุดา ดรูอิ้น" มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2019 ท็อป 5 จักรวาล ให้สัมภาษณ์สื่อว่ามีเงินบริจาคเหลือในโครงการ​ we are one​ จำนวน 4 แสนบาท อยากนำเงินไปช่วยมูลนิธิที่ต้องการความช่วยเหลือ ให้ทนายทำจดหมายไปในต้นสังกัดเดิม แต่ไม่ได้รับการติดต่อกลับนานเป็นปี

คอนเทนต์แนะนำ

ดับแล้ว 5 ศพ! นักท่องเที่ยวต่างชาติสังเวยชีวิตให้เหล้าผสมเมทานอลในลาว

ทำถึง! ทีมเชียร์ลีดเดอร์ขอนแก่นวิทยายน จากไวรัลชุดบอดี้มนุษย์และเปรต

รมช.คลัง แนะเข้าเว็บ Welfare.mof.go.th ยืนยันสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ล่าสุด "ปุ้ย ปิยาภรณ์ แสนโกศิก" ผู้บริหารบริษัทพีทีเอ็น โกลบอล ผู้อำนวยการกองประกวด มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ออกมาไลฟ์ชี้แจงดังนี้

"ตอนแรกก็งงว่าคนส่งมาถามเรื่องมูลนิธิ เราไม่เคยทำมูลนิธินะคะ แม่ปุ้ยพูดด้วยความสัตย์จริง แม่ปุ้ยลืมไปแล้วจึงกลับเข้ามาในออฟฟิศ ถามแผนกที่ดูแล ว่ามีดราม่าเรื่องนี้เกิดขึ้น ต้องออกตัวก่อนนะ สิ่งที่จะพูดต่อไปนี้ ไม่ได้เบลมหรือว่าฟ้าใส ฟังแล้วจับประเด็นให้ดี"

"ก็เปิดคลิปดูมีคนไปยื่นไมค์สัมภาษณ์ฟ้าใสแล้วก็จี้ประเด็นเงินทำบุญ we are one ซึ่งโครงการ we are one เกิดขึ้นจาก TPN แล้วไปคุยกับนางงามว่าอยากจะทำโครงกปารอะไรไหม คำว่า we are one แม่ปุ้ยกับทีมก็เป็นคนคิด เป็นคนนำเสนอ เนื่องจากแฟนคลับรักในมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ รักTPN และรักนางงาม เราก็ตั้งไปเลย we are one รวมกันเราเป็นหนึ่ง"

"พอคิดโครงการมาแม่ปุ้ยก็โทรมาพี่ๆ ในวงการว่าเราอยากจะช่วยเด็กที่ด้อยโอกาส เพราะฟ้าใสเคยไปทำโครงการเกี่ยวกับเด็กๆ อยู่แล้ว เราก็อยากให้โอกาสไปถึงเด็กๆ ซึ่งเป็นเด็กผู้พิการ แม่ปุ้ยก็โทรหาเพื่อนๆ นักธุรกิจให้มาช่วยทำโครงการนี้ให้ฟ้าใส"

"ในปี 2562 เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมหนัก เราก็บอกแฟนๆ ฟ้าใสว่า ใครอยากบริจาคก็บริจาคเข้ามา ก็มีคนบริจาคมาก โชคดีที่เราทำเอกสารไว้หมดค่ะ ว่าใครบริจาคเท่าไร ไม่ว่าจะเป็นเงิน 100 บาท ก็ถือว่าเป็นเงินที่มีค่า เป็นพลังศรัทธา เป็นพลังบุญ"

"แล้วก็ทำบัญชีสรุปชัดเจน แล้วก็มีว่าโอนไปที่ไหนยังไง และยอดใหญ่ๆ ที่พี่ณะ และเพื่อนๆ โอนมาขอปิดชื่อไว้เพราะเป็นนักธุรกิจใหญ่ไม่อยากออกสื่อ และมีกลุ่มเพื่อนแม่ปุ้ย ซึ่งก็ได้ถามเมย์ ว่าบัญชีนี้ยังมีเงินเหลืออยู่เท่าไร ที่บอกว่ายังมีเหลือ4-5 แสนแม่ปุ้ยไม่รู้เรื่องหรอก เพราะไม่ได้ยุ่งเลย เพราะมีหลายเรื่องที่ต้องทำ"

"ตั้งแต่ 19 ก.พ.ปี 2020 มียอด 418,165 อันนี้นึกออกแล้วว่าเป็นเงินของกลุ่มเพื่อนๆ ที่โอนเข้ามาให้ TPN ทำกิจกรรมต่างๆ นะคะ จำได้ว่าตอนนั้นบอกว่า พอแล้วๆ พอก่อน ก็เลยกลายเป็นว่าเงินก็คาอยู่ตรงนี้"

"เจ้าของบัญชี มี 3 คน คือ ฟ้าใส แม่ปุ้ย และฝ่ายการเงินของเรา ประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงนี้เพราะแค่เพื่อนแม่ปุ้ยก็บริจาคเข้ามาหลายแสน สิ่งหนึ่งที่อยากจะบอกคือ ที่น้องฟ้าใสบอกว่าให้ทนายส่งหนังสือมา อันนี้ไม่ได้ว่าฟ้าใสไม่ได้ส่งนะคะ แต่ฝั่งเราไม่เคยได้รับ เราก็ไม่รู้อ่ะช่วยเอาอันนั้นมาโพสต์ให้หน่อยสิ อ่ะ อย่าโพสต์ไปโพสต์มาเลย ช่วยบอกมานิดหนึ่ง โทรศัพท์ออฟฟิศก็มี เบอร์แม่ปุ้ยก็มี คือส่งมาอาจไม่มีใครได้รับ เพราะฝ่ายการเงินเขาบอกไม่เห็น"


"อยากจะบอกว่า 1. อยากจะฝากไปถึงฟ้าใสด้วยนะลูก หนูก็สามารถเดินเข้ามาที่ TPN ได้ตลอดเวลา เดินเข้ามาหาเมย์เลย ซึ่งจริงๆแล้ว ทำไมต้องเป็นทนาย ไม่เห็นต้องเอาทนายเลย ก็เงินมันก็เหลืออยู่ตรงนี้ ไม่ได้มีการใช้อะไรเลย เดินเข้ามาเลย จะเอาไปทำบุญอะไรก็เอา เดี๋ยวเราจัดนางงามไปทำการกุศล นี้ค้างอยู่ตั้งแต่ปี 2020 เพราะช่วงโควิดเราไม่ได้ไปยุ่งกับเงินตรงนี้เลย เป็นเงินที่ลืม เป็นเงินเพื่อนๆ ของเราและของแฟนนางงาม"


"ส่วนเรื่องใครเซ็นได้บ้าง ก็เซ็น 2 ใน 3 มันเช็คได้นี่คะ ฟ้าใสก็เช็คได้ถ้ามันมีการเบิกเงินผิดปกติ ก็เช็คได้ โกงยาก และมันเป็นเรื่องของแบงก์ อยากจะบอกว่าแค่ยกหูหา หรือมาถาม"


"ส่วนดราม่างาน UIU คนถามว่าทำไมไม่มีฟ้าใส มีหลายคนที่ถูกคัฟเวอร์ แม่ปุ้ยก็ไม่ได้เชิญ พูดจากใจโดยส่วนตัวไม่ได้มีความเกลียดชังอะไรฟ้าใสเลย ในบริบทของนางงามก็ชมเขาตลอดว่า เขาสวย เขาฉลาด สมองเป็นเลิศ และเขามีตรรกะของการเป็นนางงามของเขา เราไม่เคยว่าเลยนะคะ"

"แต่มันก็มองได้ 2 แง่ ถ้าแม่ปุ้ยโทรไปเชิญเดี๋ยวจะโดนผู้จัดการต่อว่าอีกว่า หิวแสงหรือเปล่า ไปโหนเขาหรือเปล่า อยากไปเกาะกระแสเขาหรือเปล่า เพราะน้องเขาเป็นคนที่มีชื่อเสียง อันนี้ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่แม่ปุ้ยคิด แต่ถ้าถามว่ามีอะไรเกลียดชังฟ้าใสไหม ไม่มีค่ะ เขาก็เจริญรุ่งเรืองเติบโตในหน้าที่การงานของเขา

ด้าน "เอส อนุสิทธิ์" ผู้จัดการส่วนตัว "ฟ้าใส ปวีณสุดา" โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงกลับทันทีว่า "จากบทสัมกาษณ์ของน้องฟ้าใส เรื่องกองทุน We are One และขอตอบกลับไลฟ์สดของต้นสังกัดเดิม

1. กองทุน We are One มีชื่อ ฟ้าใส เป็นเจ้าของโครงการ โดยในสมุดบัญชีธนาคาร เขียนว่า กองทุน We are One by ปวีณสุดา ดรูอิ้น ฉะนั้นจึงหมายความว่า น้องจะต้องรับผิดชอบเงินก้อนนั้น ตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค โดยกฎของการถอนเงิน ต้องเซ็นชื่อ 2 คนใน 3 คน โดยไม่ต้องเซ็นทั้ง 3 คนครับ

2. น้องมีการส่งจดหมาย ร่างโดยทนาย ไปยังต้นสังกัดเดิมจริง มีหลักฐานเอกสารยืนยันได้ส่งจริงครับ และมีหลักฐานการ ได้รับจากปลายทางด้วยครับ ต้องขอโทษทางต้นสังกัดด้วย ว่าทำไมถึงต้องร่างจดหมายโดยทนาย ทำไมถึงไม่โทรเข้ามา เพราะเหตุผลแบบนี้ครับ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องเงิน จะได้ไม่เกิดการล้ำสิทธิ์ต่าง ๆ ของต้นสังกัดด้วย เพื่อจะได้ถูกตามขั้นตอน

และจริง ๆ แล้ว หลังจากแถลงข่าวเรื่องมงกุฎเสร็จ ฟ้าใสได้พูดเรื่องนี้ผ่านสื่อไปแล้วว่า เรายังมีเงินในกองทุน We are One ที่จะ ได้รอร่วมงานกับต้นสังกัดเดิม แต่ไม่มีใครติดต่อมา เราจึงต้องขอโทษด้วยที่ต้องทำเป็นจดหมายติดต่อกลับไป การโทรไปอาจจะนำมาซึ่งปัญหาแบบครั้งก่อน โดยขาดลายลักษณ์อักษร

3. มีการสัมภาษณ์ว่า ฟ้าใสมีชื่อในบัญชีสามารถตรวจสอบได้ ทางเราขอยืนยันว่า ไม่สามารถตรวจสอบรายละเอียดการเบิกจ่ายทุกอย่างได้ครับ สามารถเช็คกับธนาคารได้เลย เพราะน้องเป็นแค่ 1 ชื่อใน 3 ชื่อเท่านั้น และตั้งแต่เปิดกองทุนมา ฟ้าใสยังไม่เคยได้เป็นผู้เซ็นเบิกเลยสักรายการครับ


4. ทางต้นสังกัดเดิมอยากจะร่วมงานกับน้อง และ ได้บอกว่า กลัวว่าถ้าติดต่อมาแล้ว ทางผู้จัดการจะบอกว่า หิวแสง หรือโหนน้องดัง ผมไม่เคยคิดแบบนั้นเลยครับ เราสองคน เป็นแค่คนในวงการบันเทิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง ถ้าทางต้นสังกัดติดต่อมา ผมยินดีร่วมงานเสมอครับ


5. สุดท้าย ผมได้เบอร์ติดต่อจากการ ไลฟ์สดมาแล้วครับ ผมจะโทรไป เพื่อนำเงินนั้นมามอบให้กับมูลนิธิที่มีความต้องการ ต้องขอขอบคุณทางต้นสังกัดเดิมด้วย ที่จะได้ร่วมงานทำสิ่งดี ๆ เพื่อสังคมกันครับ น้องและผมก็ปรารถนาที่จะร่วมงานทำสิ่งดี ๆ กับ ทางต้นสังกัดเดิมเสมอครับเรื่องดราม่า เรื่องทุกอย่างจะได้จบลงผ่านการร่วมงานกันในครั้งนี้ครับ