"บอย ธิติพร" หรือ "บอยวันบันเทิง" พิธีกรข่าวบันเทิงชื่อดัง เผยข่าวลือรักสะบั้นของ "ปราง กัญญ์ณรัณ" และ "โต้ง ทูพี" ที่ทั้งคู่เลิกกันแล้วเป็นความจริง โดยเลิกเมื่อเดือน มิ.ย.2565 ที่ผ่านมา
โดยวันนี้ 17 ส.ค. "บอยวันบันเทิง" เผยในรายการ เรื่องนี้ต้องถึงบอย ว่า "จากแหล่งข่าวทั้งจากฝั่งโต้งและปราง ทั้งคู่จบความรักที่ผูกพันกันตลอด 10 ปีเรียบร้อย ถามว่า จบเมื่อไหร่ น่าจะเริ่มต้นตั้งแต่มิถุนายนที่ผ่านมา ฝ่ายชายทำเซอร์ไพรส์ไปที่นิวยอร์กและคุกเข่าขอแต่งงานหลังจากนั้น 6 เดือน ความสัมพันธ์เริ่มสั่นคลอน"
"กรณีโต้งและปรางค์คู่นี้ใช้คำว่า ทบทวนความสัมพันธ์ หยุดยืนตกลงและหันหลังให้กัน แบบยังรักยังผูกพัน ทั้งคู่จบกันด้วยดี แม้ว่าฝ่ายชายจะมีความรู้สึกที่อยากจะยื้อความรักกับฝ่ายหญิงอยู่บ้าง แต่ว่าหลายๆ สาเหตุและหลายๆ เหตุผลก็ทำให้ทั้งคู่ยอมจบสัมพันธ์"
"ทำไมพี่บอยถึงพูดว่ายอมจบสัมพันธ์ เพราะล่าสุดฝ่ายชายมาโพสต์ข้อความผ่านโซเชียลเป็นภาษาอังกฤษ ทำไมต้องเป็นภาษาอังกฤษเพราะโต้งกับปรางเป็นคนที่สื่อสารกันตั้งแต่พบรักครั้งแรกด้วยภาษาอังกฤษทั้งหมด และใครที่อ่านข้อความภาษาอังกฤษที่คุณโต้ง ทูพี โพสต์ก็ต้องบอกว่านี่คือการเดินทางมาถึงบทอวสานในหน้าสุดท้าย และเป็นบรรทัดสุดท้ายของความรักของทั้งคู่แล้ว"
"ฉะนั้นถ้าถามพี่บอยตรงนี้ พี่บอยฟันธงและพูดชัดๆ ว่าหลังจากเช็กข่าวทั้งจากคุณโต้งและเช็กข่าวจากฝั่งเลดี้ปรางก็ต้องยอมรับว่า นี่คือการจบความรักที่เจ็บปวดของทั้งคู่ ไม่ได้มีใครบอกเลิกใคร และไม่ได้มีใครทำร้ายใคร แต่ต่างฝ่ายต่างจับมือตกลงในการที่จะหันหลังและเริ่มต้นชีวิตใหม่ของแต่ละคน โดยที่ไม่มีอะไรค้างคาและบาดหมางหัวใจกัน ถ้าจะให้พูดภาษาชาวบ้านก็คือจบด้วยดี"
"เช็คจากคนที่แฝงตัวอยู่ใกล้ๆ ฝ่ายหญิง ความเจ็บปวดของปรางแสดงออกทางการใช้ชีวิตและอะไรหลายๆ อย่าง เธอเองก็อดทนอดกลั้น และไม่ง่ายที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะเดินไปบอกกับผู้ชายที่ตนรักว่า ชีวิตของเรามันเดินทางมาสู่จุดที่ต้องเปลี่ยนแปลง"
"เรื่องที่หลายคนไม่รู้คือ ปรางเกิดจากครอบครัวอบอุ่นตั้งแต่เกิด ถึงจุดหนึ่งคุณพ่อคุณแม่แยกทางกัน เธอใช้ชีวิตกับคุณพ่อ เธอจึงเข้าใจความเจ็บปวดของครอบครัวที่เติบโตมาอย่างสมบูรณ์แล้วกลายเป็นไม่สมบูรณ์ นั่นคือแผลในชีวิตของปราง ที่ทำให้เธอคิดเยอะในการจะสร้างชีวิตกับผู้ชายสักคนหนึ่ง"
"เพราะจากนี้ไปไม่ใช่แค่คู่รัก แต่คือการเปลี่ยนสถานะชีวิตในการสร้างครอบครัว หลังจากเลดี้ปรางถูกขอแต่งงาน เธอไม่ได้มองแค่คนที่รัก แต่มองว่านี่คือชีวิตผู้หญิงคนหนึ่งกำลังมองหัวหน้าครอบครัว มองชีวิตในการสร้างครอบครัว เพราะเธอรู้ดีว่าลูกที่พ่อแม่แยกทาง มันเจ็บปวด และรู้สึกอย่างไร ดังนั้นถ้าปรางจะมีชีวิตครอบครัว ปรางต้องสร้างให้สมบูรณ์ ไม่เป็นแบบตัวเอง"
"ถามว่าดูรักกันแล้วทำไมไปกันไม่ได้ ชีวิตของโต้ง ทำงาน 2 ทุ่ม งานเสร็จหลังเที่ยงคืน ชีวิตเป็นแบบนักร้อง ไม่ได้พูดว่าเป็นเพลย์บอย หรือเป็นนักดื่ม แต่พูดเรื่องไลฟ์สไตล์การทำงานของนักร้องที่ทำงานหลังพระอาทิตย์ตกดิน ส่วนปรางตื่นตี 5 - 6 โมง รีบไปกองถ่ายในตอนกลางวัน ดังนั้น เส้นทางชีวิตสวนทางกัน ต้องมีใครสักคนเสียสละ แต่ความเสียสละคงไม่ได้ตลอด ถ้าต่างฝ่ายต่างมีงานรัดตัว และอยู่ในช่วงจุดสูงสุดของชีวิต นั้นคือ งานคิวแน่น โอกาสเจอกันจะน้อยลง แล้วสุดท้ายคำถามคือ การเป็นครอบครัวจะลงตัวได้อย่างไร"
"แหล่งข่าวพูดว่าฝ่ายหญิงเดินทางมาถึงจุดที่หมดความอดทนกับบางเรื่อง ประโยคบางประโยคของฝ่ายชายอาจทำร้ายหัวใจของฝ่ายหญิง พี่บอยไม่ขอลงรายละเอียด แต่เชื่อว่าตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา นี่เป็นช่วงเวลาที่เจ็บปวดของโต้งและปราง เป็นแผลสดจริงๆ พี่บอยเช็กข้อมูลละเอียด และชัวร์แล้วว่าการออกมาพูดครั้งนี้ของบอยจะไม่เป็นหมา เพราะเช็กแล้วว่าไม่ใช่แค่ถอยคนละก้าว แต่เป็นการยุติบทบาทในฐานะคนรักกันเรียบร้อยแล้ว"
Advertisement