ปุยฝ้าย ภัทณชา หรือ ปุยฝ้าย AF เปิดใจหมดไฟ ประกาศพักงานในวงการบันเทิง ปฏิเสธงานละครเกือบ 10 เรื่อง
นักแสดง นักร้อง มากความสามารถ ปุยฝ้าย ภัทณชา หรือ ปุยฝ้าย AF ที่วันนี้จะมาเปิดใจหมด Passion หมดไฟ ประกาศพักงานในวงการบันเทิง ปฏิเสธงานละครเกือบ 10 เรื่อง ไม่รู้ว่าแบบนี้เจ้าตัวคิดจะออกจากวงการเลยหรือเปล่า แล้วหันไปเป็นศรีภรรยาเต็มตัว แถมล่าสุดเธอยังยอมใจอ่อนมีลูกให้สามีแล้วด้วย
ฝ้ายอยู่วงการ 10 กว่าปีแล้ว ทีมงานบอกว่า ณ ตอนนี้เลย เรารู้สึกว่าเราหมด Passion กับวงการบันเทิงแล้ว ทำไม?
ปุยฝ้าย : อยู่ดีๆ ก็เป็น คือก่อนหน้านี้ตอนที่เรามีโอกาสในการทำงาน เราทำมันอย่างเต็มที่ เขาเรียกว่ามันทะลักเกินไป คือมันใช้แรงล่วงหน้าเราไปเยอะ แล้วละครมันไม่ใช่สิ่งที่เราชอบที่สุด
แต่เราทำเพราะว่าเราได้โอกาสในการทำงานแล้วเราก็เลยทำๆ แบบไม่ลืมหู ลืมตา ทำมาตลอด แต่พอเจอโควิดปุ๊บ มันเป็นไฟท์บังคับที่ถูกให้หยุด คราวนี้มันหลายเป็นว่า พอเราหยุดแล้วเราดันไปเจอความรู้สึกว่ามันมีความสุขมาก คือสงบ ไม่ต้องเจอคน
ตอนหยุดฝ้ายทำอะไรบ้าง?
ปุยฝ้าย : หนูอยู่บ้าน ทำน้ำพริกอยู่ในครัวคสเดียว แล้วกลายเป็นว่าสิ่งที่เราทำไปมีคนชื่นชอบ แล้วมันอยู่ที่เราเองว่าอยากจะทำเมื่อไหร่ เราเลือกได้ว่าวันนี้ฉันอยากจะพัก วันนี้ฉันจะไปทำอะไร แล้วสงบ อยู่บ้านไม่ต้องเจอใคร มันกลายเป็นความสุขที่เหมือนเจอแสงสว่าง
ทำอย่างนั้นมากี่ปี?
ปุยฝ้าย : 3 ปีค่ะ
แล้วเริ่มออกกำลังกายตอนไหน?
ปุยฝ้าย : ฝ้ายเพิ่งเริ่มออกกำลังกายได้ 4 เดือนเอง หนูก็ไม่คิดว่ากล้ามท้องมันจะมาไวขนาดนี้ แต่ก่อนหน้านั้นงานที่ทำเราต้องรู้สึกว่าใจเราอยากจะทำ เราถึงไป ถ้าอันนี้เรารู้สึกฝืน เราเลือกไม่ไปดีกว่า แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อนฝืนแต่ก็เกรงใจไปก็ได้
อารมณ์แบบไม่อยากเจอกล้อง ไม่อยากเจอคน ไม่อยากแต่งหน้า แต่งตัว?
ปุยฝ้าย : ใช่ ไม่ชอบแต่งหน้า ไม่ชอบทำผม ไม่ชอบแต่งตัว จริงๆ เป็นมานานแล้ว แต่ว่าคาแรคเตอร์ในละครจะเป็นผู้หญิงเปรี้ยว ตัวร้าย ฉันจะต้องแต่งตัวสวย แต่ในชีวิตจริงไม่แต่งตัวเลย ขอโทษนะคะ รองเท้าที่ฝ้ายใส่ในวันนี้เป็นรองเท้าที่ฝ้ายไปขุดมา
แล้วสายมันเปื่อย ฝ้ายเป็นคนไม่ใส่ส้นสูง ปกติใส่ผ้าใบ รองเท้าแตะ กางเกงวอร์ม ยีนส์ สามีเขาชอบมาก อะไรก็ได้ที่เป็นธรรมชาติ แล้วชุดก็แบบซื้อออนไลน์มาใส่ ไม่รู้ว่าหนูจะไปหาของแพงมาใส่ทำไม มาออกรายการ หนูนั่งทาเล็บด้วยตัวเองนะ
ปฏิเสธละครไป 10 กว่าเรื่อง?
ปุยฝ้าย : คือถ้า 3 ปี 10 กว่าเรื่องค่ะ เฉพาะปีนี้ 6 เรื่อง
คนที่อยู่ใกล้ๆ ตัวฝ้ายเขาก็แอบเป็นห่วงว่าอาการแบบนี้มันอาจจะเป็นสาเหตุเบื้องต้นของคนเป็นโรคซึมเศร้า?
ปุยฝ้าย : โดนบ่อยมาก คือขออนุญาตนะคะ จะมีทางกองละครของพี่ฉอด จริงๆ พยายามจะก้าวข้ามตัวเองเพื่อไปเล่นละคร แต่ข้างในมันยังไม่ไป ก็ยื้อไป ยื้อมา คุยกับน้องทีมงาน จนในที่สุดแล้วพี่ฉอดก็อธิบายว่าฝ้าย นี่บทมันน่าสนใจอย่างนี้ หนูบอกว่าหนูเข้าใจ บทน่าเล่นมากๆ
แต่ขอพูดตรงๆ ดีกว่า ไม่มี Passion แล้ว คุยไป 2 ชั่วโมง ทุกคนจะเป็นห่วงว่าไปหาหมอไหม เป็นซึมเศร้าหรือเปล่า เจอพี่หนึ่ง จักรวาล ถามว่าทำไมหนูไม่ร้องเพลงแล้วลูก ร้องพี่ แต่บางทีรู้สึกว่าเห็นไมค์แล้วกลัวๆ
นอกจากละครแล้วมันมาถึงร้องเพลงเลยเหรอ?
ปุยฝ้าย : เป็น คือหนูเป็นนักร้องมาก่อน ซึ่งคนจะเข้าใจว่าเราเป็นนักแสดง แต่จริงๆ เราเป็นนักร้อง พอไปร้องเพลงมันกลายเป็นประหม่า คือเราเป็นนักร้อง เป็นสายประกวดมา ชอบร้องเพลงเพราะๆ แต่ช่วงหลังๆ อาจจะเป็นเพราะคาแรคเตอร์ในละครทำให้เวลาเราไปเล่นคอนเสิร์ต คนจะคาดหวังความตลกจากเรา บางครั้งเราต้องโชว์ในแบบที่เขาอยากเห็น
แต่เราไม่ได้โชว์ในแบบที่เราอยากทำ แล้วบางครั้งเวลาที่เราร้องเพลง เราอยากพัฒนาตัวเองให้ร้องได้ดีตามยุค ตามสมัย แต่ในที่สุดเรารู้สึกว่าเราไม่พอจริงๆ เลยสำหรับยุคนี้ มีความนอยๆ อยู่บ้าง เกิดความไม่มั่นใจในตัวเองเวลาจะร้องเพลง แต่ตอนนี้ก็เริ่มปรับตัวนะ มันเกิดจากช่วงหลังๆ เรามีงานตามผับบ่อย
แล้วปกติเป็นคนไม่ดื่มเลย แล้วเวลาไปเล่นคนดูเขาจะสนุกมาก แล้วเรารู้สึกว่าความสนุกของเราที่เราทำอยู่มันยังไม่พอเท่าที่พวกพี่เขาสนุกกันเลย เรารู้สึกว่าฉันมาขนาดนี้แล้ว ยังไม่โดน ยังไม่ทัชใจกันอีกเหรอ เรารู้สึกว่าเราต้องมีความกล้ามากขึ้นในการโชว์ด้วยการดื่มสักแก้ว
เพราะหนูเป็นคนเมาง่าย พอดื่มสักแก้ว มันจะเริ่มมึนๆ จะกล้าพูด กล้าเล่นในสิ่งที่ชีวิตปกติไม่ค่อยพูด ทำอย่างนั้นมาเป็นปีๆ จนรู้สึกว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ ทำไมเราต้องพยายามดื่มให้กล้า กล้าเพื่อเล่น วนอยู่อย่างนี้มันก็เลยเหนื่อย
แบบนี้ถึงขั้นจะพักงานในวงการเลยไหม?
ปุยฝ้าย : พักบางอย่าง ทำบางอย่าง ตอนนี้ฝ้ายพักละคร แล้วมาทำพิธีกร ร้องเพลงปะปราย ร้องเพลงรับอยู่ ถ้าอีเว้นท์หรือรายการนั้นๆ ไม่ทำให้เรารู้สึกเครียด ล่าสุดฝ้ายไปอีเว้นท์มาต้องร้องคนเดียวหนึ่งชั่วโมง ยืนมือสั่น แต่ขึ้นไปคนไม่รู้นะคะ สักประมาณเพลงที่3 เข้าที่
แล้ววันนี้เขาไปขุดฝ้ายมาออกรายการ คุยแซ่บshow ได้ยังไง?
ปุยฝ้าย : คุยแซ่บติดต่อไปหลายครั้งเลย แต่หนูก็บอกว่าไม่เอา ไม่มาดีกว่า จนในที่สุดเรารู้สึกว่าวันนี้เป็นสิ่งที่เราได้พูดถึงความรู้สึกตัวเอง ณ ปัจจุบันด้วยหนูก็เลยอยากมา
จริงไหมจะบวชตลอดชีวิตเลย?
ปุยฝ้าย : พอเราแต่งงานมันคงไม่ได้ทำ แต่จริงๆ การปฏิบัติธรรม เราสามารถทำได้ทุกวัน อย่างก่อนมารายการฝ้ายก็สวดมนต์มาในรถนะ คือเรื่องบวชตั้งใจเอาไว้ว่าจะต้องบวชทุกปีเป็นการเข้าไปปฏิบัติกรรมฐาน ซึ่งไม่ต้องตลอดชีวิตแล้ว อยู่ที่บ้านก็ทำได้
เรื่องมูที่บอย พิษณุ พี่แท่ง เลือกเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนเบอร์ มันมาได้ยังไง?
ปุยฝ้าย : คือมันเกิดจากที่เราพอมีความรู้บ้าง จริงๆ ฝ้ายไม่ใช่หมอดู ไม่ใช่คนเก่งอะไร มีพระอาจารย์สอนมาอีกที แล้วด้วยความสนิทกับพี่บอย เราก็เลยไปดูชื่อ สกุล เขา
แต่เขาไม่เชื่อเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว เราก็แกล้งโทรไปว่าเราไปเช็กชื่อ สกุล มา เลขของพี่เป็นประมาณนี้ พอเราพูดไปเขาแบบ เห้ย...มันตรงมากเลย เขาก็เลยอยากเปลี่ยนชื่อ ในที่สุดฝ้ายไม่ได้มีความสามารถในการเปลี่ยนชื่อให้ใคร ก็ต้องพาไปหาครูบาอาจารย์เหมือนกัน
แล้วเรื่องดูตัวเลขละ ที่เขาบอกว่าดูตัวเลขให้กับคนเกือบทั้งวงการ?
ปุยฝ้าย : ก็ตั้งแต่รายการออกไป มีคนรู้ว่าเราดูตัวเลขได้ เวลาเจอกันก็จะให้ดู ซึ่งอย่างพี่นุ้ย พอดูปุ๊บก็ไแทักแกตรงมากๆ เลยแกบอก
แล้วไปเอาความรู้ตรงนี้มาจากไหน?
ปุยฝ้าย : มีพระอาจารย์ที่ฝ้ายนับถือตั้งแต่เด็ก ด้วยความสงสัยว่าทำไมตัวเลขมันถึงมาบอกเรื่องราวในชีวิตเราได้เยอะขนาดนี้ ท่านก็จะสอนว่าตัวเลขมันมีกำลังของมันนะ มันมีความหมายของมัน มันก็คล้ายๆ สถิตินั่นแหละ ท่านก็เลยบอกเราว่า 1-100 มีความหมายยังไง เราก็มานั่งอ่านดู คือฝ้ายไม่เก่ง แต่ตัวเลขเขามีความหมายของเขาอยู่แล้ว เราแค่จำได้แค่นั่นเอง
Advertisement