"พิ้งกี้ สาวิกา" เปิดใจครั้งแรกหลังได้ออกจากเรือนจำ และศาลอนุญาตปลดกำไล EM ประเดิมรับงานภาพยนตร์ เผยชีวิตเหมือนละคร อยากให้รอดูตอนจบ
โดยวันนี้ 2 ก.พ. 2566 "พิ้งกี้ สาวิกา" ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในคดีแชร์ Forex-3D ในงานพิธีบวงสรวงภาพยนตร์เรื่อง "กุมาร" ณ ศิวาลัยสถาน สวนลุมไนท์บาร์ซา (แยกรัชดา-ลาดพร้าว) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
สภาพจิตใจเต็ม 100 ไหม ?
"ตอนนี้เหรอคะ มันเป็นวัฏสงสาร เราได้เข้าไปเรียนรู้ชีวิต และได้พบเจอประสบการณ์สุดโต่งบางอย่าง"
เราได้เรียนรู้อะไรตรงนั้น ?
"เดี๋ยวเล่ายาวเลย ไว้มีโอกาสจะเล่าให้ฟังค่ะ"
กังวลใจ หรือกดดันไหม กลับมาทำงานในวงการ ?
"ไม่กดดันค่ะ เราคือคนทำงาน ตราบใดที่เราศรัทธาและเชื่อมั่นในสิ่งที่เราเป็น กี้เชื่อว่าความจริงมันเปลี่ยนแปลงไม่ได้อยู่แล้ว เราก็เป็นแบบนี้ค่ะ ทำงานมาตลอด เราไม่ใช่คนที่ไปเบียดเบียนใคร เพราะฉะนั้นบางทีชะตากรรมมันก็พัดพาสิ่งที่ไม่คาดฝันมาในชีวิตเรา แต่มันอยู่ที่ point of view ในการตั้งรับ และมองมันให้เป็น ซึ่งวันนี้ชีวิตเราก็เหมือนละครเรื่องหนึ่ง"
รู้สึกมันหนักขนาดไหน ?
"กี้ก็รู้สึกว่ามีอีกหลายร้อยคนที่อาจจะมีชีวิตแบบนี้แต่ออกมาพูดหรือเล่าไม่ได้ ก็อยากให้มองว่าชีวิตเราก็คือ นักสู้คนหนึ่ง และอยากให้ดูละครตอนจบว่า จบยังไง"
ให้กำลังใจตัวเองยังไง ?
"ก็ช้าๆ ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป"
กับกระแสโซเชียล ?
"ก็ไปห้ามไม่ได้หรอกค่ะ เป็นธรรมดา เหมือนเราไปห้ามไม่ให้เขาผายลมไม่ได้ เหมือนเราห้ามให้คนเรอไม่ได้ เป็นสิ่งที่คนระบายออกมา เราก็เคารพในมุมมองงของทุกคน ทุกอย่างเป็นธรรมชาติ"
"เวลาเราเจอปัญหาหนักๆ เราต้องศรัทธาตัวเองก่อน และรักตัวเอง ความจริงไม่มีวันเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว เราก็สู้ตามกฎหมาย การถูกกล่าวหา แล้วเราสู้ตามกระบวนการยุติธรรม เราก็ต้องสู้และรอว่า ความจริงและความยุติธรรมจะรอเราอยู่ที่ปลายอุโมงค์ ฉะนั้นทุกคนไม่ต้องตกใจ วันหนึ่งความจริงจะพิสูจน์เอง กี้ก็มั่นใจ และเชื่อในตัวเอง ศรัทธาในตัวเอง"
Advertisement