"เจ้าขุน" เปิดใจหลังครอบครัวเจอดราม่า ลั่น "แม่ผมคือที่สุดในโลก"

"เจ้าขุน จักรภัทร วรรธนะสิน" ลูกชายคนกลางของ "เจ เจตริน" กับ "ปิ่น เก็จมณี" เปิดใจครั้งแรก ในรายการ WOODY FM ถึงดราม่าที่ต้องเจอ และเรื่องราวชีวิตครอบครัว

คอนเทนต์แนะนำ

ดับแล้ว 5 ศพ! นักท่องเที่ยวต่างชาติสังเวยชีวิตให้เหล้าผสมเมทานอลในลาว

ทำถึง! ทีมเชียร์ลีดเดอร์ขอนแก่นวิทยายน จากไวรัลชุดบอดี้มนุษย์และเปรต

รมช.คลัง แนะเข้าเว็บ Welfare.mof.go.th ยืนยันสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

วู้ดดี้ : ตอนนี้คุณเรียนจบแล้ว กลับมาเมืองไทย มีแพลนยังไงต่อ ?
เจ้าขุน : มีแพลนไว้นิดหน่อยว่าจะเริ่มเข้าวงการเป็นศิลปินแบบเต็มตัวแล้ว เริ่มอยากรับงานซีรี่ย์ รับงานหนัง รับงานถี่ขึ้น

วู้ดดี้ : มีคนทาบทามบ้างไหม ?
เจ้าขุน : มีครับ บ่อยครับ แต่ช่วงนั้นผมติดเรียนด้วย

วู้ดดี้ : ทุกวันนี้คิดว่าคนตัดสินคุณว่าอะไร ?
เจ้าขุน : ก็เยอะอยู่ ที่ผมเห็นในอินเตอร์เน็ตที่ผมได้อ่านนะครับ จะว่าเยอะมาก ที่จึกสุดเวลาว่าพ่อแม่ คือถ้าว่าผมโอเคเข้าใจ ผมวัยรุ่นเมื่อก่อนผมก็ทำตัวไม่ดีเท่าไรในวงการ เพราะผมก็เกิดมาก็กล้องถ่ายเลย ไม่รู้ว่าชีวิตจริงกับชีวิตในวงการมันต้องแยกยังไง แต่ก็นี้ผมก็ดูออกมากขึ้น ว่ามีเส้นยังไง

วู้ดดี้ : การเกิดมาในครอบครัวที่พ่อแม่เป็นคนมีชื่อเสียง โดนเปรียบเทียบ โดนจับตามองตลอด คุณสามารถโตขึ้นมาจนถึงวันนี้ อะไรคือสิ่งที่ทำให้เรายังแข็งแกร่งได้ ?

เจ้าขุน : พระเจ้า สำหรับผมมันคือพระเจ้า ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยได้ฟัง ไม่ค่อยได้ศึกษา แต่ก็ไปโบสถ์ แต่มันไม่ได้อินขนาดนั้น แต่เดี๋ยวนี้เวลาอ่านแล้วทำให้ใจเรานิ่งขึ้น ผมนับถือคาทอลิกครับ ตอนแรกเป็นคริสเตียน พ่อเป็นคริสเตียน แม่เปลี่ยนเป็นคาทอลิก ถามว่าได้อะไร ผมรู้สึกสงบใจขึ้น ความไม่ต้องแข่งกับคนนั้นคนนี้ อยู่คนเดียว

วู้ดดี้ : คุณคอมเมนต์กับแฟนคลับบอกว่า "จริงๆ ผมพยายาม ผมอาจจะไม่มีความสุขได้ครับ ตอนนี้ผมพยายามให้แฟนคลับดูผมแล้วแฮปปี้" อันนี้คุณหมายความว่าอะไร ?

เจ้าขุน : คืออันนี้มันไม่เกี่ยวเลยกับดราม่า ที่ทุกคนเชื่อมโยงกันไปเอง มันแค่ดันตรงจังหวะ แต่ว่าที่ผมพูดแบบนี้คือ ผมเป็นเอนเตอร์เทนเนอร์อยู่แล้ว ผมก็เลยอยากจะมอบความสุขให้กับแฟนคลับผม คืออย่างน้อยสมมุติคุณทำงานมาคุณเครียด คุณผิดหวังมา ผมอยากเป็นคนที่ทำให้มีรอยยิ้มแค่นี้ ทำให้วันของใครสักคนดีขึ้นสักหน่อย แต่จริงๆ แล้ว ผมที่ยิ้ม ผมที่บ้าอย่างงี้ อาจจะไม่ได้มีความสุขไง แต่ผมแค่ทำเพราะว่ามันเป็นงาน นั่นแหล่ะที่ผมหมายถึง

วู้ดดี้ : พูดถึงดราม่าในชีวิต ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา บ้านคุณเจอหนักที่สุด พี่เจ พี่ปิ่น เรารู้จักกันมานาน แต่การที่ต้องเห็นครอบครัวคุณผ่านเรื่องแบบนี้โดยที่มีสังคมคอยติดตาม คอยดู คอยตัดสิน ตลอดเวลามีเอฟเฟกต์อะไรเกี่ยวกับตัวคุณบ้าง ?

เจ้าขุน : เยอะมากเลยพี่ บางทีมันไม่รู้ตัวด้วย ว่าจิตเรามันไม่ ตอนนี้คุณไม่ปกติ แต่เราไม่รู้ตัว เพราะคนที่เป็นอยู่มันไม่มีทางรู้ พี่น้องก็เหมือนกัน จริงๆ ส่วนมากก็เรื่องดราม่าด้วย แต่บางทีก็อาจไม่ใช่เรื่องดราม่า บางทีเราก็งงว่านี่อะไร บางทีเรางงจริงๆ

วู้ดดี้ : ได้มีโอกาสคุยกับพ่อแม่ไหม ว่าฉันมีปัญหาตรงนี้ ?
เจ้าขุน : ตั้งแต่เด็กแล้วครับ โห! พี่ผมโดนตอนเด็กๆ หาว่าเป็นเกย์ ไปซื้อกินเกย์ อะไรก็ไม่รู้ แล้วผมก็เลยบอกว่าไม่ใช่ครับ ผมไม่ได้เป็น เหนื่อยเหมือนกันครับ

วู้ดดี้ : แม่ของคุณเข้มแข็งมากนะ ?
เจ้าขุน : ใช่ครับ แม่ผมคือที่สุดในโลกแล้วสำหรับผมนะ

วู้ดดี้ : คุณรู้ไหม ว่าแม่ของคุณรักใครมากที่สุด ?
เจ้าขุน : ไม่รู้ พ่อมั้ง
วู้ดดี้ : พวกคุณสามคนไง
เจ้าขุน : yeah yeah yeah
วู้ดดี้ : แล้วคุณได้บอกรักแม่บ้างไหมช่วงนี้
เจ้าขุน : Yes!
วู้ดดี้ : พี่ว่านั้นเป็นสิ่งที่เขาต้องการได้ยินจากคุณทั้งสามคน
เจ้าขุน : Yes! she does need it.

วู้ดดี้ : จะแต่งงานเมื่อไหร่ ได้คิดไหม ?
เจ้าขุน : ครับ (ยิ้ม) ผมคิด เพราะเมื่อวานผมเพิ่งไปบ้านของพี่ทีมงานมา แล้วผมเห็นลูกเขาแล้วผมไปเล่นด้วย แต่เร็วไปไม่ได้ๆ ถ้าผมมีลูก ผมคงซอฟต์มาก ผมจะเปลี่ยนไปเลยผมรู้ตัว ไม่รู้ตัวเลข แต่ก็เมื่อเราพร้อม งานมั่นคง ชีวิตมั่นคงแล้ว เจอความสงบแล้ว

วู้ดดี้ : อยากมีลูกมากกว่าแต่งงานใช่ไหมตอนนี้ ?
เจ้าขุน : ใช่ เหมือนอยากมีครอบครัวมากกว่า