"มาริโอ้" รับเป็นดารา ม. ถูกตำรวจเรียก หลังถูกโยงแก๊งสวมทะเบียนรถ
มาริโอ้ เมาเร่อ รับเป็นดาราอักษรย่อ ม. หลังถูกโยงแก๊งสวมทะเบียนรถ พร้อมเข้าให้ปากคำตำรวจ
คอนเทนต์แนะนำ
จากกรณีที่ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงข่าวผลการปฏิบัติการพลิกถนนล่ารหัสโจรกรรม จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมของกลางรถยนต์โบราณหรูหลายรายการ เครื่องปั๊มเพลท, แผ่นเพลทและเล่มทะเบียนรถจำนวนมาก มูลค่า 77 ล้าน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น และจ่อเรียกดารา "ม" ชอบสะสมรถโบราณสอบปากคำ หลังขยายผลพบเชื่อมโยงแก๊งสวมทะเบียนรถ
ล่าสุดวันที่ (5 ส.ค.2566) พระเอกหนุ่ม มาริโอ้ เมาเร่อ ได้ออกมาชี้แจงในประเด็นดังกล่าวว่า ยอมรับเป็นดาราอักษรย่อ ม.หลังถูกโยงแก๊งสวมทะเบียนรถ พร้อมเข้าให้ปากคำตำรวจ
มีโอกาสได้เห็นข่าวแล้วครับดาราตัวอักษรย่อ “ม” ก็คือผมเองครับ ผมมีโอกาสได้คุยและได้ติดต่อกับทางตำรวจไปแล้วครับ เรื่องราวของผมจริงๆแล้วก็คือเริ่มจากที่ผมไปซื้อรถจากคนไว้เนื้อเชื่อใจกันรุ่นพี่ ผมก็ไม่มีโอกาสได้ของแล้วเค้าก็คืนเงินผมมา แต่ว่าทะเบียนนั้นมันได้เป็นชื่อผมไปแล้ว ก็เลยทำให้มีทางตำรวจติดต่อมาบอกว่ารถคันนี้มีปัญหานะก็เลยอยากให้เราเข้าไปให้ปากคำ แล้วก็พูดถึงว่ารถคันนี้เป็นมายังไง เราไม่ได้รถแต่ทะเบียนเป็นชื่อเรา
แต่เราก็คุยกับทางรุ่นพี่เขาก็รับผิดชอบเราครับ ทางตำรวจก็เลยอยากให้เข้าไปให้ปากคำเพื่อเป็นข้อมูล เราคุยกับทางตำรวจแล้วทางตำรวจก็บอกว่าเราเข้าข่ายในทางผู้เสียหายก็อยากให้มาให้ปากคำให้เรียบร้อย
ตอนที่ตำรวจเรียกผมก็งงและตกใจแต่ก็คุยกับทางพี่ตำรวจที่เขาดูแลคดีนี้ เค้าก็บอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงเพราะว่าฟังจากที่เราเล่ามาเราคือผู้เสียหายนะ แล้วก็อยากให้ไปให้ปากคำเพื่อช่วยในรูปคดีหน่อย
เราก็โดนหลอกมาอีกทีเขาก็โดนหลอกด้วย รุ่นพี่ก็โดนหลอกมาด้วย (ตอนซื้อทำสัญญาแล้วแต่ว่าไม่ได้ของ?) ใช่ครับ ขั้นตอนหลังจากนี้ก็ไม่มีอะไรครับ ทางพี่ตำรวจที่เขาดูแลเขาก็อยากให้เข้าไปให้ปากคำเพื่อเป็นประโยชน์กับคดี (ไม่กังวลใจอะไรใช่ไหม?) ไม่ได้กังวลครับเพราะเราก็เป็นคนปกติที่อยากไปซื้อรถนี่แหละครับ แต่เราก็ไม่รู้ว่าต้นขั้วเค้าไปทำอะไรมาเราไม่รู้ เราก็เห็นรถมันมีทะเบียนมีอะไรถูกต้องเราก็ซื้อ
อย่างตัวเราเองก็แสดงความบริสุทธิ์ใจกับทางตำรวจว่าเราเราซื้อแบบนี้นะเป็นแบบนี้นะ ตอนนี้ได้เงินคืนแล้ว ไม่ได้เป็นผู้เสียหายแต่ในรูปคดีเรามีชื่อเป็นผู้เสียหาย ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย ก่อนซื้อเราก็เช็คให้ละเอียดทั้งเรื่องของทะเบียนแล้วก็ไปโอนที่ขนส่งหรือเปล่า เราเช็กเป็นประจำ แต่ว่าเคสนี้มันเกิดปัญหาอยู่แล้ว แต่เราก็ได้รับค่าเสียหายมาแล้วก็เลยไม่ได้เดือดร้อนอะไร เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้ประมาณ 2 เดือนครับ มูลค่าล้านกว่าบาท
เค้าทำให้เราระวังมากขึ้นเราไม่รู้ว่ามันเป็นมายังไงบางทีเราเห็นเอกสารมันถูกต้องแล้ว เขาอาจจะไปมั่วอะไรมาก็ไม่รู้ คือตอนนี้ได้คุยกับทางพี่ตำรวจแล้ว แต่ว่ายังไม่มีคิวว่างเข้าไปให้ปากคำน่าจะ1-2วันนี้ ได้คุยกับพี่ที่เขาดูแลอยู่แล้วได้คุยประสานกันเขาก็ถามว่าเป็นมายังไง
Advertisement
