“ไผ่ พงศธร” ลั่นทำบุญบ่อย เพราะกลัวตกนรก คนเรารู้วันเกิดแต่ไม่รู้วันตาย เวลาคนเรามันสั้นลงเรื่อยๆ พร้อมแนะให้แฟนคลับหันมาทำความดีเพิ่มบุญ
11 กันยายน 2566 “ไผ่ พงศธร” เปิดใจกับทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ถึงประเด็นกระแสคู่จิ้นกับนักร้องสาว “ต่าย อรทัย” ที่กระแสไม่มีลดลง โดยเจ้าตัวบอกว่า ต้องขอบคุณทุกคนที่มีความสุข และให้เป็นคู่จิ้นกัน
โดยเปิดเผยถึงจุดการเป็นคู่จิ้นเริ่มต้นมาจากแฟนคลับที่เห็นตนเล่นละคร ทำเพลงคู่กัน ถ่ายรูปร่วมกัน เลยจับให้จิ้นกัน แต่จริงๆ แล้วเป็นพี่สาว-น้องชายที่อยู่ในค่ายเดียวกัน ตนก็นับถือ “ต่าย อรทัย” เป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิต เพราะตัว “พี่ต่าย” ดูแลตัวเองดีมาก ไม่เคยมีข่าวเสียหายเลย ตนก็เอามาเป็นแบบอย่าง ส่วนแฟนคลับที่จับจิ้นตนกับ “พี่ต่าย” ก็ยินดีที่แฟนคลับมีความสุข
งานคู่เป็นอย่างไรบ้าง?
ไผ่ พงศธร : เจ้าตัวเผยว่ากำลังมีละครคู่กัน ในละครจะมีฉากกุ๊กกิ๊กกันด้วย แต่ยังไม่ได้เห็นบททั้งหมด มีกังวลแค่มีนักแสดงแนวหน้าทั้งหมด เพราะตนก็ไม่ได้เก่งเรื่องการแสดงเลย ต้องถามคนที่มีประสบการณ์ตลอดๆ ซึ่งแตกต่างจากการที่ต้องร้องเพลงมาก เพราะร้องเพลงต้องออกจากข้างในซึ่งได้ทำบ่อยและชื่นชอบ เพราะมันเป็นตัวเอง แต่การแสดงไม่เหมือนกันกับการร้องเพลง
หลายคนชมว่า การวางตัวและคาแรคเตอร์ไม่เคยเปลี่ยน
ไผ่ พงศธร : มันคือเรา ไม่รู้จะวางอะไร คาแรคเตอร์มันคือตัวตน ตนก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลย ถ้าตนใส่กางเกงขาสั้นที่ต่างจังหวัด ก็ต้องมาเปลี่ยนเป็นกางเกงยีนส์ แต่มันคือตัวตน ตนเป็นแบบนี้ ไม่รู้จะเปลี่ยนยังไง ไปข้างนอกก็ใส่รองเท้าแตะ ไม่ได้เป็น “ไผ่ พงศธร” ตนเป็นเด็กบ้านนอกคนหนึ่ง วันนั้นเป็นชาวนาอย่างไร วันนี้ก็เป็นแบบนั้น ตนแค่ทำหน้าที่ที่แตกต่างกันเฉยๆ เราโกหกคนอื่นได้ แต่โกหกตัวเองไม่ได้
การเป็นตัวเอง ถือว่าเป็นอีกสิ่งที่ทำให้แฟนคลับติดตามเรามายาวนานด้วยไหม?
ไผ่ พงศธร : ถ้าเรายิ้มให้เขาเขาก็จะยิ้มให้เรา เป็นทักษะง่ายๆ พอเราจริงใจกับเขา เขาก็ชื่นชอบเรา ไม่มีใครจะปฏิเสธความรู้สึกดีๆ ต่อกันได้ คนที่ชื่นชอบศิลปินไม่ใช่เขาจะชื่นชอบแค่เรา เขาชอบผลงานเพลง เวลามีคนเข้ามาก็ยินดีต้อนรับ มีถามไถ่กัน ไม่มีอะไรพิเศษกว่านี้ เขาจริงใจเราก็จริงใจ
เมื่อถามถึงเรื่องการทำบุญ
ไผ่ พงศธร : เป็นอีกคนที่ทำบุญบ่อยมาก ตนบอกว่าทำบุญบ่อยเพราะกลัว คนเรารู้เวลาเกิด เวลาตายนั้นไม่มีใครรู้ และมันเป็นเรื่องจริง คนเราเกิดมาเหมือนเทียน พอเกิดแล้วมันสั้นลงเรื่อยๆ ตนกลัวอย่างเดียวว่ามันไม่พอที่จะนำพาชีวิตของเรา พอเราตาย และถ้านรกสวรรค์มีจริง เราจะเลือกไปยังไง เพราะมันใช้เงินไม่ได้ ตายไปเงิน บ้าน รถ เอาไปไม่ได้ แต่สิ่งที่เอาไปได้คือความดี ตนเลยเลือกที่จะทำบุญ พร้อมกับได้ฝากบอกแฟนๆ ว่า การทำบุญไม่ใช่การให้เงิน แต่คือการอภัยให้กัน ให้ทานกัน ความสุขเกิดเมื่อไหร่ บุญเกิดเมื่อนั้น อภัยเมื่อไหร่ ทานก็เกิดเมื่อนั้น ไม่จำเป็นถึงกับการไปนั่งสมาธิหนัก
พอทำให้ตัวเองมีความสุขแบบนี้ เลยทำให้อายุฆ่าไม่ตายด้วยไหม?
ไผ่ พงศธร : มันประกอบกัน เพราะถ้าไม่เครียดทำอะไรก็จะมีความสุข ถ้ามีความสุขจะทำให้สบายใจ พอสบายใจ ฮอร์โมนก็จะหลั่ง ตนมองว่าคือเรื่องจริง ถ้าคิดดี ทำดี พูดดี สิ่งเหล่านี้จะดึงดูดแต่ความดี
Advertisement