“ตั้ม วราวุธ” ควง “หมวย” เปิดใจอุปสรรครัก คบแฟนคลับเป็นแฟน รัก 8 ปีสุดทรหด แม่กีดกัน แฟนคลับคว่ำบาตร
“ตั้ม วราวุธ” ศิลปินและพิธีกรสายฮา วันนี้ควง “หมวย ธันยาธร” แฟนสาวนอกวงการ มาเปิดใจครั้งแรก หลังคบหากันมายาวนาน 8 ปี กับเส้นทางสุดทรหด แม่กีดกัน แฟนคลับคว่ำบาตร รวมทั้งเคยทะเลาะกันจนหนีออกจากบ้าน เกิดอะไรขึ้น ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow
จุดเริ่มต้นความรัก เหมือนในละครซีรีส์ คนนึงเป็นซุปตาร์ อีกคนเป็นแฟนคลับ?
ตั้ม : กลัวลอยมาก (หัวเราะ)
ทำไมมาเป็นคนนี้?
หมวย : เริ่มต้นเลยแม่หมวยชอบเขา แม่เชียร์ตั้งแต่ตอนประกวด แม่ดูรายการนึงที่ออนทั้งวีค แม่ก็เปิดรายการนั้นแหละให้เราดู
ตั้ม : รายการ4 โพธิ์ดำ ตอนนั้นแม่เขาเป็นเอฟซี แต่จริงๆ มีเดอะสตาร์เดลี่ด้วย เขาต้องดูทุกวัน วันนี้เรียนร้องเพลง เขาดูทุกวัน
หมวย : แม่บอกว่าแม่ชอบไอ้นี่ดูกวนดี ก็ดูทุกวัน เสพทุกวัน จนวันนึงไปเที่ยวสยามกับเพื่อน เจอนางทำงานเป็นพิธีกรอยู่ ก็เฮ้ย คนนี้ไงที่แม่ชอบ ก็เข้าไปขอถ่ายรูปส่งให้แม่ เจอพี่แฟนคลับเขาก็ชวนเราว่ามาดูถ่าย 4 โพธิ์ดำสิ เราก็ไปกับเขาเลย อยู่ดีๆ ก็ไปเลย
ชอบเขามั้ย?
หมวย : หนูชอบคนกวนอยู่แล้ว เขาก็กวนๆ นิดนึง เจอวันแรกเขาจะมีมาด ถ้าเป็นแฟนคลับใหม่มาจะแอ็กนิดนึง
ตั้ม : พอหน้าเป๊ะก็ติดหล่อเลย (หัวเราะ) เราเป็นคนอารมณ์ดี
เป็นแฟนคลับคลั่งรักมั้ย?
หมวย : ไม่ขนาดนั้นค่ะ
แต่ว่าตามเขาไปต่างจังหวัดเลยนะ?
หมวย : ไปเที่ยวบ้านแม่เพราะแม่เขาชวน แก๊งหนูมี 3 คนเป็นผู้หญิงหมด จะสนิทแม่ตั้ม แม่ก็กวนๆ ฮาๆ ก็ไปคุยกัน เราชอบกวนเขา เขาชอบกวนเรากลับ แม่เลยจัดให้มากินข้าวที่บ้าน
ไม่ใช่แผนเข้าทางแม่?
ตั้ม : เอาจริงๆ นะ นางเป็นคนทะลึ่ง แม่ผมก็เป็นคนทะลึ่งตึงตัง อารมณ์ดี สายลูกทุ่งๆ ยัยนี่ก็ฟีลเดียวกัน สมัยก่อนต่างจังหวัดเขาจะอยู่กับพ่อสองคนจะเหงา เขาบอกว่าใครจะมาที่บ้านก็มาได้เลย เปิดรับตลอด จะมากินข้าวก็มาเลย ใครก็ได้
เขาเลยพาแฟนคลับไปเอ็นเตอร์เทนตัวเองด้วย แล้วยังไง ตั้มกลับต่างจังหวัดพอดีเหรอ?
ตั้ม : ใช่ แล้วไม่ได้บอกแม่ เพราะเป็นคนชอบเซอร์ไพรส์ ไปถึงบ้านก็เจอแก๊งนี้ ก็มีการสังสรรค์ นั่งดื่มปาร์ตี้ จิบกันไปจิบกันมา เราก็เป็นสายเวลาเข้าเส้นเลือดมากๆ ก็ต้องสนุกสนาน ยัยนี่เขาทันมุก ตบโบ๊ะบ๊ะมีความกวน มีความอำเรา เราโดนผู้หญิงอำก็เสียทรงไงครั้งแรก ก็เฮ้ย นี่ไม่เหมือนคนอื่นแล้ว ก็รู้สึกอยากคุยด้วยต่อ ก็แยกย้ายกันกลับ ก็ขอไลน์เขาจากแม่ เรามีทรงไง จะเดินไปขอตรงๆ มันดูจีบ น่าเกลียด ดูอยากคุยด้วยเกินไป ดูไม่ดี ตอนนั้นไม่ได้คิดจะจีบขนาดนั้น แค่อยากรู้จักเพิ่ม
นอกจากนิสัยที่โดนจริต ความขาวก็เตะตา?
ตั้ม : ตอนนั้นนางขาว นางออร่า แต่ไม่ถึงขนาดจะจีบเลย แต่ชอบอย่างนี้ อยากคุย ตอนแรกแม่ไม่ให้ แม่บอกไปขอไลน์แฟนคลับได้ไง มันจะดูไม่ดีหรือเปล่า เพราะแม่กลัวมุ่งไปจีบไง ผมก็เดินไปเอาโทรศัพท์แม่ไปรื้อไลน์ เจอปุ๊บก็คุย
ตอนคุยกัน เขาไม่เห็นเหรอว่าเป็นหน้าตั้ม?
หมวย : เขาเขียนชื่อว่า TUM พอหนูตอบเขา เขาก็เปลี่ยนรูปเปลี่ยนชื่อ
ตั้ม : โป๊ะ เราก็เลยบอกว่าเราตั้งแบบนี้เราก็เป็นเอฟซีตั้มเหมือกัน เราเคยเจอเธอ เอาไลน์ในไอแพดทักไป ไม่ใช่ไลน์ส่วนตัว
หมวย : เขาก็ใช้รูปเด็กพม่า ทาหน้าขาวๆ (หัวเราะ)
ตั้ม : ปลอมไลน์ แล้วคุยในนามเป็นเอฟซีตั้ม วราวุธเหมือนกัน
คุยนานมั้ย?
ตั้ม : เกือบสองเดือน
พีคๆ คุยไรกัน?
ตั้ม : คุยกันเรื่องของผม
หมวย : เขาจะบอกว่าตั้มมีเรียนกี่โมง หนูก็คุยกับเพื่อนในแก๊งหนูว่าใช่ ลองดูว่าไปกันถึงไหน เพราะอันแรกที่ไม่ได้เปลี่ยนชื่อ แล้วดูรู้ชีวิตประจำวัน การเดินทางมาก ก็เลยลองดู ว่าจะไปถึงไหน
จับโป๊ะได้ยังไง?
หมวย : ตอนนั้นแก๊ง 4 โพธิ์ดำเขาจะใช้เคสโทรศัพท์เหมือนกันหมด เขาเฟสไทม์มาหาหนู แต่ไม่ฉายหน้าตัวเองนะ ฉายกำแพง นางหยิบโทรศัพท์มาเล่น
แต่เสียงตั้มก็น่าจะจำได้?
หมวย : จำได้ หนูก็ดูว่าเขาจะไปถึงไหน
ตั้ม : เราก็ทำให้ลุ้นๆ มีกลิ่นๆ อยู่แล้วว่านางอาจจะสงสัย
ตอนนั้นที่เขาทักมาใจเราหวิวมั้ย คนที่เราเป็นแฟนคลับมาคุยด้วย?
หมวย : ไม่ คิดว่าเขาเล่น ไม่ได้จริงจังอะไรหรอก หนูก็ได้
ไม่โกรธเหรอ?
หมวย : เขาไม่ได้มาสไตล์จีบ เหมือนเป็นเพื่อน
ตั้ม : คุยๆ ไปก็ถามว่าคิดว่าตั้มเป็นยังไง ชอบอะไรเขา (หัวเราะ)
เหมือนโยนหินถามทาง แล้วเขาตอบว่าไง?
ตั้ม : จำไม่ได้นานมาก แต่เขาตอบดี ตอนนั้นสนุก
หมวยคิดมั้ยว่าเขาอาจไม่ได้ทำกับเราคนเดียว?
หมวย : คิด เวลาไปงาน มีงานนึงหนูไปดูพี่กันมั้ง เขาไม่คุยกับหนูเลย เขางอน เพราะหนูไปดูพี่กัน ไม่ไปดูเขา หนูก็คิดว่าต้องใช่แน่ๆ
ตรงไหนที่โป๊ะแตกแบบชัดเจน จับได้คาหนังคาเขา?
หมวย : ก็เฟซไทม์ ที่เป็นเคสมือถือ บอกว่าอ้าว เหมือนตั้มเลย นางก็ขำ แล้วโผล่หน้าออกมา
ตั้ม : ก็เฉลย แล้วขอเป็นแฟนเลย วันนั้นผมตั้งใจเฟซไทม์แล้วพลาดเพราะเป็นวันเกิดเขา พอเขาจับโป๊ะได้เฉลยปุ๊บ ด้วยความหัวไว เราก็ขอเป็นแฟนเลยในวันเกิดเขาด้วย ตอนนั้นพอคุยเรื่อยๆ เราก็อยากเปิดตัวแล้วว่าเราเป็นใคร
ทำไมเลือกเป็นวันเกิด?
ตั้ม : เราจะได้จำทุกอย่างอยู่ในวันเดียว วันครบรอบขอเป็นแฟน วันเกิด เราจะเสียเงินครั้งเดียวต่อปี (หัวเราะ) ใครจะมาซื้อของขวัญให้แฟนหลายๆ รอบ ก็ซื้อทีเดียวเลย ผมรักแฟน ผมก็ซื้อประกันเงินออมให้แฟนครับ ผมไม่เหมือนคนอื่น ใส่ชื่อผู้รับประกันเป็นผม (หัวเราะ)
หมวย : แต่ปีแรกก็ลืมจ่ายเงินเลยนะคะ เลยไปเดือนสองเดือน แล้วเขาก็มาทวงหนู หนูก็ไม่กล้าบอกนาง ก็จ่ายไปเองก่อน เขาก็คืนแล้ว ปีถัดมาก็บอกเลย
หมวยตอบกลับยังไงตอนเขาขอเป็นแฟน?
หมวย : ก็งงๆ นิดนึง นางก็ให้กลับไปคิดก่อน ก็ไม่ได้ตอบกลับ แต่เริ่มอยู่ด้วยกันมากขึ้น ไปกินข้าว
ตั้ม : ก็เริ่มนัดเจอกันบ้าง คุยกันมากขึ้น
ณ ตอนนั้นสังคมไม่ได้เปิดมาก ตอนนั้นตั้มดังมาก คนแรกที่ไม่เห็นด้วยคือคุณแม่?
ตั้ม : แม่ก็อ้าว คบกันเหรอ นางก็มีกลิ่นเหมือนรู้ๆ เพราะสนิทแฟนคลับ แล้วเริ่มสงสัย มากรุงเทพฯ แบบไม่บอก เรื่องนานแล้ว ผมไปดูคอนเสิร์ตมารูนไฟฟ์แล้วเขาก็มารอที่คอนโด หลังคุยกันมาระยะนึงแล้ว เขาก็โทรมาบอกว่าแม่มารออยู่ในห้องแล้วเนี่ย หมวยก็อยู่ในห้อง
หมวย : แม่เขาเข้าประตูมา ตะโกนเรียกตั้มๆ หนูก็อยู่ในห้องนอน แม่ไม่เข้าห้องนอน คิดว่าตั้มอยู่ เพราะแอร์มันเย็น นางก็บอกหนูว่าทำนิ่งๆ หลับเลย ใครจะหลับลง (หัวเราะ) นาทีนั้นหนูตัดสินใจออกไปเจอเลย
ตั้ม : ผมกะว่าเดี๋ยวกลับมาจะเคลียร์เอง ก็บอกว่าอยู่นี่นะ คุยกัน ก็เปิดไปเลย แต่เขาดันไปประสานงากันก่อน
พอแม่เห็นเรา?
หมวย : แม่ก็ถามดีว่าน้องล่ะ แล้วเริ่มคุยว่ามันจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นถ้าเป็นแบบนี้ หนูก็โอเค ถ้าแม่ไม่โอเค หมวยถอย หมวยบอกแม่แบบนี้
ตั้ม : รู้เรื่องแล้วว่าเขาเจอกัน แม่ก็ไม่อยากให้คบกัน เขารักเรามาก เขาห่วงเรา ด้วยความเรามีวิธีคิดอีกแบบว่า ไม่มีใครกำหนดนี่ ว่าเราห้ามมีแฟนเป็นแฟนคลับ เราเข้าใจคนอื่นอาจมองว่าแล้วแฟนคลับคนอื่นๆ ล่ะ ผมไม่รู้นะว่าใครอยากได้ผมเป็นแฟน ผมไม่รู้ แต่คู่ชีวิตผม ความรักผม จะมารูปแบบไหน หมอห้ามมีแฟนเป็นพยาบาลเหรอ นี่คือความคิดผม แล้วเด็กมาก นี่ก็ดื้อ แม่ก็จะไม่ยอม ก็บอกว่าถ้านี่กลับ ก็จะไม่กลับขึ้นห้อง จะไม่เจอกับแม่ด้วย นอนในรถ
จุดสรุปวันนั้นเป็นยังไง?
หมวย : ก็กลับบ้านและค่อยๆ ให้เวลา โชคดีเวลามีเรื่องอะไร นางคอยบอกเหตุและผล คอยจับมือกันว่าเดี๋ยวมันจะดีขึ้น แต่เราต้องปรับตัวยังไงให้เข้ากับแม่ ต้องใช้เวลา
ตั้ม : ตอนนั้นเรามีบทเรียนแล้วว่าไม่ว่าเราคบใคร ก็จะมีปัญหา ก่อนหน้านั้นที่เลิกไปก็ไม่ใช่แฟนคลับ มีแฟนคลับบางคนเขารับไม่ได้อยู่แล้วที่เรามีแฟน เรามีแฟนคนไหนก็มีปัญหาเหมือนกัน เราไม่ใช่ไม่รักแฟนคลับ เราไม่ใช่ไม่รักชีวิตเราด้วย ช่วงแรกก็บาลานซ์ ไม่ได้ไปเดินห้าง ไปเปิดอะไรแบบนั้น เลือกเจอกันในสถานที่ส่วนตัว สั่งข้าวมากิน ไม่มีไปเดินห้าง กินข้าวข้างนอก ไม่มีระยะนึง การไปเที่ยวคือไปต่างประเทศ ไปโรงหนักแยกกันเข้าและออกคนละรอบ ตอนอยู่เมืองไทยไม่เดินใกล้กันเลย เดินคนละที่ ไปด้วยกันแต่เดินห่างๆ
เห็นว่าไปเกาหลีเกิดโป๊ะแตก แฟนคลับจับได้เพราะอะไร?
ตั้ม : ถ้วยข้าวในเกาหลี ถ้วยที่เป็นถ้วยสแตนเลสเงาๆ เราก็สลับกันถ่าย แล้วถ้วยดันสะท้อนหน้าเขา มันซูมเห็นว่าเป็นเขา แฟนคลับก็ขยายดูแล้วเห็นว่าเป็นเขา
โดนถล่มเละเลย?
หมวย : เขาตั้งทวิตเตอร์ขึ้นมาว่าหมวยตามติดตลอดเลย นี่ไงไปสวีตกันไกลถึงต่างประเทศ เป็นครั้งแรกที่เราได้ไปเกาหลี ก็นอยด์ไปทั้งทริปเลย 5-6 วัน
ตั้ม : ผมก็ไม่อยากแสดงอาการที่ไม่มีความสุขในทริปนั้น แต่ก็ไม่สามารถต้านทานได้จริงๆ ในใจพยายามพูดว่าช่างเขาเถอะ ต้องใช้เวลาพิสูจน์ เพราะบางคนพูดว่าตั้มคบแฟนคลับ ฟันแฟนคลับเฉยๆ หรือเปล่า ผมก็บอกว่าคู่เราต้องใช้เวลาพิสูจน์ว่าเราจริงจัง และต้องพากันไปในทางที่ดี
ตอนหมวยไปอ่านคอมเมนต์ มีคอมเมนต์ไหนหนัก?
หมวย : หาว่าหนูไปอ่อยเขา ไปหาเขาถึงคอนโด ไปเคาะประตูห้องเขา เขาจะไม่เอาได้ยังไง เครียดมาก วันที่กลับมาก็บอกว่าเราต้องหยุดแล้วแหละ เพราะเราก็รับไม่ได้เหมือนกัน ไม่รู้จะจัดการความรู้สึกตัวเองยังไง
ที่บ้านหมวยรู้มั้ย?
หมวย : รู้ค่ะ เขาให้กำลังใจ เขาเรียกพี่น้องมากินหมูกระทะเยียวยา ตอนคบกันที่บ้านก็รู้
ตั้ม : ผมรักครอบครัวเขาด้วย ผมรักครอบครัวเขามาก เป็นความอบอุ่นที่ผมอยู่ในกรุงเทพฯ เพราะพ่อแม่ผมอยู่ต่างจังหวัด พอวันหยุดก็ไปนั่งกินข้าว เขาก็รู้ว่าเราชอบกินอะไร เหมือนแม่อีกคน เป็นความอบอุ่นใจที่เราเหมือนมีบ้านอีกหลัง ไม่ได้รักแค่เขาแล้ว เราก็รักครอบครัวเขา แล้วครอบครัวเขาก็รักเรามากๆ เราก็ไม่ได้เล่าให้คนเห็นหรอกว่าจริงๆ แล้วรักเรามันสวยงามมาก ถ้ามองข้ามจุดที่ตั้งกันว่ามีแฟนเป็นแฟนคลับ น่าเกลียดว่ะ เอาแฟนคลับไปทั่ว เราต้องข้ามตรงนั้น แต่ต้องใช้เวลา
ตอนบอกจะหยุด จัดการความรู้สึกและเหตุการณ์ยังไง?
ตั้ม : หลักๆ ผมจัดการเองเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องหน้าที่การงานผม ผมจะประคับประคองความรักของเรายังไงที่จะต้องมีความสุข และความรักของแฟนคลับจะทำยังไง ผมก็ใช้ชีวิตแอบๆ แบบนี้มาพอสมควร 5-6 ปี ผมไม่เคยลงรูป ไม่เคยมีรูปด้วยกัน ไปกับเพื่อนก็ไม่มีเขาในเฟรม บางทีมองตาเขาก็เข้าใจ เขาเป็นคนถ่ายรูปให้เรา เราก็คิดว่าเราควรมีความสุขกับคนละครึ่งบ้างแล้ว 2 ปีผ่านไปที่คบกัน ก็เริ่มไปเดินห้าง กินข้าว ใครจะเห็นก็เห็น แต่ไม่ถ่ายรูปกัน ออกจากการทำงานก็ต้องมีความสุขในพื้นที่ส่วนตัวของเราบ้าง ผมก็ค่อยๆ ทำแบบนั้นมา เริ่มเที่ยวในไทย ใครจะเห็นก็เห็น ชีวิตเราต้องมีความสุขบ้างนะเราเป็นศิลปินดารา เราเอ็นเตอร์เทน แต่ชีวิตส่วนตัวเรา จะไม่มีความสุขได้บ้างเลยเหรอ
ตอนนั้นมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย?
หมวย : ก็ยังมี แต่หมวยก็ให้เกียรติเขา
เคยทะเลาะกัน แล้วมีคนหนีออกจากบ้าน ใครหนี?
ตั้ม : ผมเป็นคนหนี ไม่ใช่แผน ผมไม่อยากปะทะ ผมโมโหแรง เรื่องทะเลาะก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เป็นเรื่องเล็กๆ ที่สะสม ผมทำงานทุกวันก็จะไม่ค่อยพูด ผมรู้สึกว่าเก็บไว้ก่อน เช่นบางทีมีความเข้าใจอะไรบางอย่างที่ไม่ตรงกัน ผมทำงานแล้วจะหงุดหงิด บางทีผมก็ผิด ผมก็ทิ้งเขาเลย เหมือนเราออกไปนอกบ้านเราเอ็นเตอร์เทนด้วยงาน พอกลับบ้านก็อยู่กับมือถือ กับสิ่งที่เราต้องการเสพมัน ก็จะลืมเขาไป เป็นการไม่พูดกัน บางทีก็อยากให้เขาเข้าใจเรา เรื่องพวกนี้มันสะสมมา พอระเบิดก็ระเบิดแรงมาก จริงๆ อยากแนะนำว่ามีอะไรคุยและเคลียร์เลย แต่ผมไม่อยากเคลียร์ตอนนี้ เหนื่อยงานมามากแล้ว ก็ทบไว้ แล้วพอวันรุ่งขึ้นก็จะหายเอง จนสะสมมาแล้วมีวันระเบิด ผมไม่ชอบเห็นผู้หญิงร้องไห้ บางเรื่องผมถามว่าร้องไห้ทำไม อย่างผมทำธุรกิจด้วยกัน ก็จะบ่นเขาว่าทำอย่างนี้สิ 1 2 3 4 แล้วเขาก็ร้องไห้แล้ว ซึ่งสิ่งที่พูดไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาร้องไห้
ดุนะ?
หมวย : ใช่ เวลาเขาพูด เขาใส่ท่าทางน้ำเสียงขึ้นมา เลยทำให้เรารู้สึกว่าขนาดนั้นเลยเหรอ
ตั้ม : เล่นใหญ่
แล้วทะเลาะอะไรกันจนหนีออกจากบ้าน?
หมวย : มีรุ่นน้องของเขาที่สนิทกับหมวย และเขาคิดว่าไปจีบกัน เขาหึง
ตั้ม : เวลาทะเลาะเขาอยากเคลียร์เลย แต่ความรู้สึกผมมันไม่ได้ อยู่ดีๆ จะให้พลิกอารมณ์มากอดเลย ผมทำไม่ได้ ผมถ้ายังเคลียร์ความรู้สึกไม่ได้ ผมไม่สามารถฝืนว่ามา หอมแก้มเธอนะ จับมือกันเราดีกัน ผมทำไม่ได้ ผมต้องให้เวลากับตัวเองก่อน พอหายก็จะกลับมาเอง
แล้วดูหนังใส่ซับไม่ใส่ซับนี่ยังไง?
ตั้ม : เล็กน้อยมาก ผมโง่อังกฤษ เวลาจะดูหนังอยากฟังภาษาไทยเลย เพราะทำงานเหนื่อยแล้ว ยังต้องมานั่งอ่าน แล้วเกาหลีพูดกันเร็ว บางทีต้องกรอกลับมา ผมรู้สึกเสียอรรถรส แต่เขาชอบอีกแบบนึง
นี่ก็หนีออกจากบ้านเหรอ?
ตั้ม : เราไม่ค่อยมีเวลาใช้ร่วมกัน เรามีเวลาด้วยกันคือการมานั่งดูเน็ตฟริกซ์ดูอะไรด้วยกัน แต่พอมานั่งดูก็มีปัญหา เราจะดูพากย์ไทย เขาจะดูอังกฤษ ก็ถามว่าทำไมเวลาแบบนี้ยังมีปัญหากันอีกวะ
หมวย : ก็ปิดเลยค่ะ ไม่มีใครได้ดู แยก
แล้วออกไปไหน?
ตั้ม : ไปหาเพื่อนบ้าง ดื่มบ้าง ไปนอนโรงแรมบ้าน คืนเดียว นอนพงหญ้าก็มี ปิดเครื่องเรียกร้องความสนใจ ทะเลาะกับเพื่อนก็พาลมาแฟน เขาก็ไม่เข้าใจ เพื่อนไม่เข้าใจแล้ว แฟนก็ไม่เข้าใจอีก ก็เทหมด ไปนอนพงหญ้าหน้าคอนโด เห็นแล้วล่ะว่าทุกคนตามเรา เพราะรถวิ่งผ่าน เราก็คิดว่าเป็นไงล่ะพวกมึง มึงต้องตามกู น้อยใจ
หมวย : ก็ตามไม่เจอ สุดท้ายกลับมาเอง
ตั้ม : งอนเองกลับเอง เพราะไม่ไหวแล้ว แดดเริ่มเผา (หัวเราะ)
มีหนีไปโรงแรม แล้วหมวยตามไป?
หมวย : ซีดีบอกหนูว่าพี่ตั้มอยู่โรงแรมนี้ เพราะเขาเอ็นดูหนูที่ร้องห่มร้องไห้ หนูก็โทรหาเขา ก็ถามว่าอยู่โรงแรมนี้ใช่มั้ยๆ เดี๋ยวไปหานะ เขาบอกว่าไม่เปิดประตูให้นะ ถ้าขึ้นมาหาก็หาทางขึ้นมาเองก็แล้วกัน
ตั้ม : คิดว่าเขาไม่น่าขึ้นมาได้
หมวย : พอไปถึงก็ถามชื่อเขาว่าชื่อนี้อยู่ห้องไหน แล้วหนูก็ร้องห่มร้องไห้ ยื่นบัตรประชาชนให้เขา เขาก็สงสาร แล้วก็ให้ขึ้นมา แล้วก็ได้เคลียร์กัน
โมเมนต์นี้ควรเป็นผู้หญิงทำ ไม่ใช่ผู้ชาย?
ตั้ม : ผมก็มีความเป็นครึ่งๆ ไง ใครๆ ก็รู้อยู่ (หัวเราะฮา)
จะแต่งกันมั้ย?
ตั้ม : ถ้าผมจะจัดงานแต่ง ผมก็คิดว่าจะเสียเงินเท่าไหร่ เราสร้างอนาคตด้วยกัน เราทำบ้านทำอะไร เราเอาเงินไปทำสิ่งที่จำเป็นดีกว่ามั้ย เรื่องหมั้นอีกเรื่อง เรื่องแต่งเป็นเรื่องสิ้นเปลืองสำหรับผม แต่ถ้าหมั้นผมคิดว่าต้องมี
Advertisement