“รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น” ลั่นแต่งงานแล้ว แต่ยังโอเพ่น ยอมรับคลั่งไคล้คนอื่นถึงขั้นอยากจะหย่าสามี !? งานนี้เมื่อ “แพท ณปภา” ถามในรายการ โดนเทเซมาที่แพท เรื่องแต่งงานกับ "โจนาส ปาล์มเบิร์ก" แฟนคนแรกที่คบกันมานาน 17 ปี เจ้าตัวลั่น โดนหลอกแต่งงานจ้า !!
งานนี้ “รัศมีแข” เผยว่า "หลอกกูแต่ง ตอนกูอยากแต่งเมื่อ 7-8 ปีที่แล้วไม่แต่ง พอวันหนึ่งมีชื่อเสียงมาปุ๊บ มีตังค์ปุ๊บ กูก็ไม่กล้าปฎิเสธ ผัวก็บอก อยากแต่งงาน กูเครียดเลยทำไงดี แต่ส่งหนึ่งที่คิดคือ ไม่อยากทำให้ผู้ชายคนนี้เสียใจ ก็เลย แต่งก็แต่ง"
“รัศมีแข” เมาท์ต่ออีกว่า "แต่งยังไงไม่รู้ กูก็รอ celebrate ตัวเองนั่งคุยกับพ่อแม่ยันเช้า อยากอาละวาด จะไม่ celebrate หน่อยเหรอ นอนตื่นมา 7-8 โมงเช้า ตื่นมาผัวหาย ออกไปนั่งคุยกันต่อ รู้งี้ไม่น่าแต่ง ไปฉลองกันเองเถอะ"
เมื่อถามว่าเจอกันที่ไหน “รัศมีแข” บอกว่า "คนที่แต่งงานคือแฟนคนแรกที่คบกันมา 17 ปี เมื่อก่อนโลกของ LGBTQ+ ไม่ปลอดภัย ที่สวีเดนจะมีเฟซบุ๊กให้เขียนโปรไฟล์ เข้าไปดูของกัน ทักทาย จีบกัน ไปเดท"
"ตอนเจอคนนี้น่าจะอายุ 18- 19 ตอนนั้นว่าง เอ็นข้อเท้าขาด ก็ไปเดททั้งเฝือกเลย แฟนเป็นคนสวีเดน ไปเจอกันที่นู้น คบกันมาจนวันเดทปีแรกเราเอาเค้กไปให้ เขาก็บอกเราเป็นแฟนกันไหม หูยยยย...ย เราจะมีแฟนแล้วเหรอ เดทมา 1 ปี แล้วเขาขอเป็นแฟน ก่อนที่จะรู้ว่านรกมีจริง"
"เอาง่ายๆ คนเราจะเป็นคู่กัน ทนกันได้มากแค่ไหนล่ะ สภาพ ทนในทุกเรื่อง ทุกรูปแบบ ก็มีแค่นี้ ทนได้ก็ทน ทนไม่ได้ก็เลิกแน่นอน ไม่ต้องมานั่งถามว่าทำไม คนเราจะเป็นแฟนกันอ่ะ ปรับนิดหน่อย แล้วเลือกเสียสละที่ยอมปรับกันก็จะคลิกแล้ว ถ้าไม่งั้นก็แยกย้าย"
งานนี้ “แพท ณปภา” ถามต่อทำไมถึงพูดย้ำเหลือเกินว่าโดนหลอก “รัศมีแข” บอก
"จริงๆ มันก็รักแหละด้วยความผูกพันต่างๆ ครอบครัวและรอบข้าง แต่เราคบกันแบบ Open relationship (ความสัมพันธ์แบบเปิด ที่คู่รักให้อิสระกันที่จะเปิดประสบการณ์ทางเพศกับบุคคลอื่น แต่ไม่มีความรักมาเกี่ยวข้อง) อยากไปมีก็ไปมี แต่กลับบ้านแล้วกัน ซึ่งเราก็มีบ้าง มีเป็นคนๆ ไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาตะบันหั่นแหลก กูก็คนนะอีแพท ไม่ได้เงี่ยXทุกวัน ทำงานบ้าง"
เมื่อถูกถามว่า ชอบเด็ก หรือเปล่า ลั่นตอบทันที "ไม่มีสเปก ตอนแรกเด็กก่อน เด็กคนนี้น่าจะติดมา 7 ปี คลั่งไคล้เขามาก แล้วเลิก ต่อมาเจอคนอายุเยอะ แล้วก็เอาผัว แล้วก็ไม่ใช่"
"แต่ก็เล่าให้ผัวฟัง เวลาใจเทไปก็เล่าให้ผัวฟัง เช่น สถานการณ์เป็นแบบนี้นะ เราเริ่มกันใหม่ ปรับกันใหม่ ใช้ชีวิตยากไหม ก็ยาก แต่เราเป็นคนที่ถ้าเริ่มรู้สึกว่ามีอะไรไม่โอเคก็จะสารภาพปาบเลย ไม่มีความอายเลย พูดหมด บางทีเราไปไหน คนก็จะติดไงว่าเราแต่งงานแล้ว ไม่รู้ว่าเราโอเพ่น บางทีไปแอ๊วเขาก็เจอบอกพี่แต่งงานแล้วนะ มันไม่ดี ไม่อยากยุ่ง มันก็เลย...ก็หากินยากแหละเออ"
ทำไมต้องโอเพ่น ในเมื่อแต่งงานแล้ว ?
"เรื่องนั้นมันไม่เวิร์ค มันจะมีเวิร์คช่วงหนึ่ง แฮปปี้แล้วค่อย ๆ หายไป เราก็มานั่งตกผลึกกันว่าเราจะแยกย้ายกันเพราะเรื่องนี้นะ มันใช่เหรอวะ"
"ระยะทางไม่มีผล เราใช้ชีวิตเราอยู่ด้วยกันบางวันไม่ได้คุยกันเลย บางทีเขาไปทำงานเช้าส่งเมสเสจมาว่า "ไปทำงานแล้วนะ รักนะ จุ๊บ" แล้วก็หายไปทั้งวันเลย"
อะไรคือปัญหาของคู่เรา ?
"ฉันแรด ฉันเพิ่งได้มาแรดไง ก็สนุก ๆ งอแง บางทีไม่อยากลับสวีเดนบ้างไรบ้าง กลับไปต้องดูแล โอ้ย ฉันเหนื่อย"
ให้เขาโอเพ่นด้วยไหม ?
"ให้เขาโอเพ่นด้วย คือมันงี้ แขโตมาแบบเด็กบ้านนอก ชีวิตมันลำบากมาก ถ้าไม่ได้ทำงานในวงการบันเทิง จะไม่ได้เห็นโลก ไม่มีเงิน ไม่ได้ไปญี่ปุ่น เกาหลี พอวันหนึ่งได้มาเห็นโลก ก็แบบกูสนุกกับชีวิตมากเลย แต่บางทีเราสนุกกับชีวิตก็จริง บางทีหันหลังให้พี่ต้นหอม หันหลังให้ลูก และโจนาส แขไปเที่ยวจอยชีวิตออกไปกินเหล้า จนกระทั่งใจมันไป ไถลไปลึกมาก ไปเจอคนนั้นคนนี้ ไปชอบเขา สุดท้ายพอมันไม่ใช่ สุดท้ายโลกมันพัง เราก็มานั่งตั้งสติ คิดได้ว่าคนข้างหลังรักเราเต็มไปหมดเลย ต่อไปเราก็เลยเอาใหม่ ใช้ชีวิตให้ชาญฉลาดขึ้น ให้มันเป็นชีวิตที่มันสบายมากขึ้น"
สรุปที่ช้ำรักไม่ใช่จากสามี ช้ำจากเด็ก ?
"เอาง่าย ๆ คนเรามีเทสของตัวเอง มีสเปกของตัว ไปบังคับใครไม่ได้ว่าจะให้คน ๆ นั้นมาชอบเรา คนมันจะชอบกันต้องถูกใจก่อน หน้าตา บุคคลิก เราคิดว่าการที่คนเราจะชอบกัน คาแรกเตอร์ บุคลิกไม่ต้องเปลี่ยนเพื่อใคร ให้เราเป็นแบบนี้แหละ ก็คาแรกเตอร์แบบนี้ บุคลิกแบบนี้ที่ทำให้เราเป็นรัศมีแข มีคนเดียวในประเทศได้ ดังนั้นถ้าจะชอบก็ต้องชอบที่เราเป็นยังงี้ จะให้มาตลกหรือมาขรึม มาแมน ๆ เราไม่ทำ ถ้าเราทำแบบนั้นปุ๊บเราก็เหมือนเอาทั้งหมดในวงการบันเทิงเราไปแลก เราจะแลกทำไม สิ่งตรงนี้ไม่ใช่ทุกคนจะมาอยู่ได้"
รัศมีแข : "ที่ผ่านมาไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ เราก็ใช้ชีวิตต่อไป แต่คนที่ใช่มันมี"
แพท ณปภา : ก็คือ โจนาส ?
รัศมีแข : (กรี๊ดดด)
สรุปสถานะ โจนาส เรียกว่าอะไร ?
"เป็นสามี แต่งงาน เป็นคู่ชีวิตกัน"
ที่ก่อนหน้านี้โพสต์ว่า start again คือเรื่องอะไร ?
"ก็ไปซุกซนมา เราหันหลังให้หลายคน พี่หอม จนเราเริ่มใหม่ เราสนุกได้เว้ยชีวิตแต่อย่าลืมคนข้างหลังเรา เขาไม่ใช่ภาระ พี่หอมไม่ใช่ภาระ ลูกไม่ใช่ภาระ เขาคืออีกพาร์ทหนึ่งเป็นครอบครัวในชีวิต เขาถึงบอกว่า คนเราอย่าหันหลังให้ครอบครัว อย่าหันหลังให้คนที่รักเราเด็ดขาด เราไปพยายามไปชอบใครคนหนึ่ง พยายามอยากให้คน ๆ นั้นมารักเรา แต่มันไม่ใช่อ่ะ แล้วคนที่ห้อยมาเป็นพวงมันรักมึงไหม"
"ชีวิตมันไม่ได้มีความหมายแค่ออกไปหาผู้ชาย เสเพล อันนั้นคือที่สุด มันไม่ใช่ เราได้เรียนรู้ โตขึ้น แข็งแรงขึ้น มองไปในอนาคตมากขึ้น ได้เปิดใจคุยกับพี่หอมมากขึ้น"
ไปเจ็บจากไหนมา ?
"มันก็มี 2 คน อีกคนก็ 7 ปี ไปเจออีกคนหนึ่ง เพื่อที่จะลืมอีกคน 7 ปีเนี่ย"
คน 7 ปี ทำไมต้องแยกย้าย ?
"มันไปต่อไม่ได้แล้ว มันลำบาก ปวดหัว วุ่นวาย แยกย้ายดีกว่า เราไม่ต้องการมีอะไร แล้วเราไปหาใครก็ได้มาช่วยให้ลืมอี 7 ปี"
ยังรัก ?
"ใช้คำว่าถูกใจ"
สเปกยังไง ?
"เป็นคนไม่มีสเปก แค่มองปุ๊บ เออน่ารักดี หล่อนักกีฬา นักบอลมากูยังไม่เอาเลยนะบางทีอ่ะ ไปชอบอะไรที่ถูกใจมากกว่า ไปเจออีกคน แล้วถลำลึก จนลืมอี 7 ปีนั้นไปเลย ลืมไปเลย คนนี้ 2 เดือน สุดท้ายกลับมาจุดที่เราไม่ใช่ เราไม่ใช่ไทป์เขา เขาไม่ได้ชอบคนแบบนี้"
นานแค่ไหนที่รู้ตัวว่าเราไม่ใช่ไทป์เขา ?
"รู้สึกว่าไปไม่สุด มันมีอะไรบางอย่างติด ๆ ขาด ๆ ก็เลยถามตรง ๆ ว่ายังไง ว่าเราใช่ไทป์เขาไหม เขาบอก ไม่ใช่ ก็เลยเออ เราเป็นคนเข้าใจโลก ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ อย่างไปภูเก็ตแคร์โลกที่ไหนล่ะ ฝรั่งลากซ้ายลากขวา อันนั้นเขาชอบเรา ดังนั้นก็เป็นบทเรียนอย่างหนึ่งว่า ต้องเข้าใจและเคารพความคิดคนอื่นด้วย ไม่ต้องไปตื้อ ไม่ต้องไปโกรธ"
เล่าให้สามีฟังเขาช็อกไหม ?
"เขาไม่ช็อก เขาก็รู้อยู่แล้ว เขาดีใจด้วยซ้ำที่อย่างน้อยเราดึงสติกลับไปหาเขาได้"
เป็นเพราะความห่างไกลหรือเปล่า ?
"ไม่ใช่ความห่างไกลหรอกแพท เป็นความแรด เป็นการหลงระเริงในการใช้ชีวิต"
แปลว่าถ้าเขาบินมาจากสวีเดน เราก็จะเป็นแบบนี้ ?
"ห่ะ เราก็อยู่กับเขานิดหนึ่งสิ (ยิ้ม) เมื่อไหร่จะกลับเนี้ย (ทำเสียงหวาน) ถามว่ารักไหม รัก แล้วเวลาเรากลับสวีเดนเราก็ทำหน้าที่ของเราเต็มที่ ผัวจะกินนั้นกินนี่ ตื่นมาเตรียมอาหาร"
จริงไหม คลั่งคนอื่นถึงขั้นอยากจะหย่าสามี ?
"ก็เคยมีความคิดแว่บเข้ามาหลายครั้ง ก็คิดว่า ลองเปิดใจใหม่ไหม ลองให้โอกาสตัวเองใหม่ไหม เพราะทั้งชีวิตมีแฟนมาแค่คนเดียว แต่ก็ต้องขอขอบคุณมาก สุดท้ายแล้ว อะไรที่เป็นตัวเรา ถ้าเราไม่ต้องพยายามดีที่สุด ก็ต่างฝ่ายต่างไม่ต้องพยายามดีที่สุด อย่างที่บอกไม่ต้องเปลี่ยนตัวเอง แค่ปรับ สุดท้ายก็ file out ว่า ชีวิตเราตอนนี้คือ งานก่อน เพราะงานคือ อนาคต"
"งานไม่ใช่ทำไปวัน ๆ ให้มีค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ แต่งานทุกวันนี้ แพทเข้าใจใช่ไหม ทำไมเราต้องมานั่งไลฟ์หนักเพื่ออะไร มันไม่ใช่เพื่อวันนี้ ไม่ใช่ค่าบ้าน แม้เงินมันจะเข้าวันนี้แต่มันสำหรับอนาคต"
"สองคือ ครอบครัว สามี เพื่อนฝูงในวงการ สามคือ เราชอบทำอะไร ใช้ชีวิตเปิดโลกให้ตัวเอง และมันจะมีข้ออื่น ๆ อีกยังไง ก็ให้ผู้ชายอยู่ท้ายสุด คือ อยากชอบ ชอบได้นะ แต่แต่งงานแล้ว ถ้ามันจะเผลอไปกุ๊กกิ๊กอะไรไม่มีปัญหาไม่ติด แต่จะให้มานั่งทำแบบเดิม ไม่เอาแล้ว มีอารมณ์ไปร้านนวดก็ได้ไม่ติด ที่สำคัญคือเป็นตัวเองได้ 100%"
"ถามว่าจะเป็นเด็กดีไหม คือ มันมีนะคนต่างชาติ สิงคโปร์ ไต้หวัน มาคุยด้วยเราก็คุย เรามันแซ่บระดับหนึ่ง คุยได้ระดับหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องไปนอนกับเขาสักหน่อย หรือถ้าวันหนึ่งเขาเดินมาบอก ฉันอยากมีอะไรกับเธอ มีได้นะแต่มีได้แค่เท่านี้นะ มีเสร็จแล้วจะมาต่อไม่ได้นะไม่เอา เราอยากดูแลตัวเองด้วย ไม่ใช่ดูแลตัวเองเพื่อไปหาแซ่บ แต่ดูแลตัวเองเพื่อเป็นผลดีกับตัวเอง พักหลังหล่อขึ้นด้วย"
เสพติดเซ็กส์ไหม ?
"แค่ชอบมากกก...ก (หัวราะ) ไม่ได้ติด แค่มันชอบมาก ๆ ๆ แค่แบบชอบบบบ...บ"
โจนาสทำการบ้านบ่อยไหม ?
"ไม่เหลืออะไรเลยทุกวันนี้ กู้ดไนท์แล้วหลับคร่อกเลย"
แต่เรามีความต้องการ ?
"ต้องการ เพราะเราเด็กกว่าเขาเยอะ เราห่างกัน 14 ปี แล้วเราก็คุยกันตรง ๆ เขาก็บอกว่า อายุเยอะแล้วและไม่ต้องห่วงด้วยรู้ทุกซอกทุกมุม 17 ปีมันไม่ตื่นเต้นแล้ว เรื่องนี้จริง ๆ มันเป็นเรื่องเล็กนิดเดียวถ้าเราไม่ถลำ และควบคุมมันได้ เพราะฉะนั้น ร้านนวดคือทางออก จบ!"
เรามาทางนี้แล้ว ?
"คนเรามันต้องมีทางออก จริง ๆ มันง่ายนะ แต่ความซับซ้อนของมนุษย์อ่ะจะไปถึงทางออก กว่าจะคิดได้"
ห่วงความรู้สึกอีกฝั่ง ?
"ห่วงและมากกว่าห่วงความรู้สึกอีกฝั่งคือ ห่วงว่าเราอยู่ในที่ที่มีแสง เราพูดในรายการเรื่องผัวงิ เราอยู่ประเทศทไทยบางคนอาจจะบอก หูย ทำไมแขดูแรง จริง ๆ เรื่องพวกนี้เมืองไทยก็มี แต่อาจจะไม่มีคนมานั่งพูดแบบนี้ ด้วยศีลธรรม วัฒนธรรม"
"แต่ถามว่า เด็ก ๆ หรือใครที่ดูอยู่ก็ตาม ถามว่าชีวิตพี่มันเป็นยังงี้ต้องตามไหม ไม่ต้อง เพราะพี่เคยจะพยายามทำให้ชีวิตสมบูรณ์แบบ แต่พอพี่ไม่สมบูรณ์แบบไม่ได้แปลว่า พี่ผิด พี่ก็ต้องหาทางออกต่อไปเพื่อให้ดำเนินต่อไปได้ ชีวิตใครชีวิตมัน"
"อย่าเอาบรรทัดฐาน บางคนเห็นแต่งงาน ภาพทุกอย่างมันสวยไปหมด แต่มันเป็นภาพที่เราเห็นแค่นั้น เราถูกเสพแบบนี้มาตลอด พอโตขึ้นเรายึดบรรทัดฐานว่ามันต้องเป็นยังงี้ พอมันหักมุมไม่ใช่ ช็อก! เอ้า! ชีวิตคู่ มันไม่ใช่นี่หว่า ทุกวันนี้ตามหาอะไร ไม่ได้ตามหาความเพอร์เฟกต์ เพื่อให้ทุกคนมองเห็นว่าฉันสมบูรณ์แบบ ทุกวันนี้ตามหาความสุข แล้วฉันก็เป็นคนมอบความสุข และกลายเป็นคนที่ยินดีกับความสุขของคนอื่น"
ติดตามรายการ โดนเทเซมาที่แพท ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 20.00 น. ทางแพลตฟอร์มออนไลน์ Facebook Amarintv online และ youtube กดแจ้งเตือนกันไว้ด้วยนะจ๊ะ จะได้ไม่พลาดความสนุกนี้
Advertisement