บูม สุภาพร เล่าจุดเริ่มต้นอาการป่วยแพนิคนานกว่า 6 ปี พร้อมประสบการณ์การรักษาตอนนี้หายแล้ว
สำหรับนักแสดงสาว บูม สุภาพร ได้ออกมาเล่าจุดเริ่มต้นของอาการป่วยเป็นโรคแพนิคและประสบการณ์การรักษานานกว่า 6 ปี โดยเผยว่า...บูมหายเป็นแพนิคแล้วนะทุกคน บูมรักษามา 6 ปี แล้ว ตั้งแต่ปี 60 มาเล่าจุดเริ่มต้นก่อนที่จะรู้ว่าตัวเองเป็นแพนิคค่ะ คือเริ่มแบบไม่มั่นใจตัวเองเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเจอภาวะกดดันไม่ได้เมื่อ 6 ปีที่แล้ว รู้สึกว่าสั่นอยู่ตลอดเวลา มันเริ่มกระทบกับการทำงานจนวันหนึ่งเกิดอาการกดดันมากรู้สึกว่ากดดันจังเลยหายใจไม่ได้เลย จนสุดท้ายบูมเป็นลมไปเลย มือเท้ามันเย็นไปเลยทั้งตัว
ตอนแรกบูมชาเป็นหัวใจเต้นผิดจังหวะ ก็เลยไปหาคุณหมอหลังจากทำงานเสร็จ บังเอิญว่าเป็นคุณหมอที่รู้จัก คุณหมอก็ตรวจคลื่นหัวใจ ผลออกมาทุกอย่างเป็นปกติ คุณหมอก็เลยบอกว่าบูมลองไปปรึกษา จิตแพทย์ไหม เราก็เดินข้ามแผนกไปหาจิตแพทย์ ไปถึงก็ได้นั่งคุยเครียดอะไรยังไงบ้างแล้วก็ปรึกษาคุณหมอ เราอาจจะเป็นเหมือนกึ่งซึมเศร้านะแล้วก็ให้ยามา
เราก็ถามว่าเอฟเฟคของยาเป็นยังไงครับคุณหมออันนี้สำคัญมากนะทุกคนเวลาเราจะทานยาอะไรเข้าไป เอฟเฟคของยานั้นมันมีอะไรยังไงบ้าง คุณหมอก็บอกว่า เค้าให้มาทาน 2 อาทิตย์ ทานไปอาจจะมีความรู้สึกที่เราต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษระวังอาจจะรู้สึกระวังการอาจจะอยากทำร้ายร่างกายตัวเอง ด้วยความตอนนั้นเราก็กลัว ว่าถ้าเราทำร้ายตัวเราเอง แล้วถ้าเราเป็นแผลเราจะทำยังไงถ้าเราไม่สวย ถ้าถึงขั้นหนักขึ้นแล้วพ่อแม่เราจะรู้สึกยังไง ก็เลยเลือกที่จะไม่กินยา เราก็ไปหาคุณหมอแล้วบอกว่าเอายามาคืนหนูไม่กิน เพราะว่าหนูกลัวเจ็บ
คุณหมอเขาก็เลยประเมินใหม่อะไรแบบนี้คงเป็นแพนิคแล้วแหละ บูมก็เลยรู้แล้วว่าบูมเป็นแพนิค ก็เลยไปหาคุณหมออีกท่านหนึ่งซึ่งบูมีพี่ที่เป็นแพนิคเขารักษาอยู่ผมก็เลยย้ายไปรักษากับคุณหมอท่านนี้นะคะ ก็คือเป็นคุณหมอปัจจุบันที่บูมรักษามา 6 ปีแล้ว
แล้วพอรักษาไปเสร็จสักประมาณปีสองปีบูมก็หยุดยาไปเอง เพราะคิดว่าตัวเองหายแล้วช่วงโควิดนี้แหละ คิดว่าตัวเองหายแล้ว ปรากฏว่าโควิดมามีภาวะเครียดใดๆกลับมา ปรากฏว่ากลับมาอีกแล้วบูมก็กลัวว่าจะเป็นแบบเดิมอีกก็เลยไปหาหมอ คุณหมอก็เลยบอกว่า จริงๆแล้วการที่เราหยุดยามันต้องค่อยๆลดโดส ซึ่งจริงๆตอนนี้บูมน่าจะหยุดได้แล้วนะทุกคน แต่ก็ยังแบบ ใจไม่กล้าพอเพราะว่าเราเคยเจอเหตุการณ์ที่เราหยุดไปแล้วแล้วมันกลับมาดังนั้นก็คือขั้นตอนในการรักษา คือบูมรักษามา 6 ปีแล้ว
ตอนนี้โอเคมากไม่มีภาวะใดๆแล้วก็คุณหมอก็บอกเลยว่าเคสบูมมันก็ ตั้งแต่ประมาณสองปีแรกแล้วถ้ากูไม่หยุดยา แบบอัตโนมัติของตัวเอง ดังนั้นเราก็ต้องกินยาตามที่คุณหมอสั่งใครที่รู้สึกว่าตัวเองกำลังเผชิญโลกนี้อยู่จริงๆมันรักษาหายได้ทั้งหมดทั้งมวลอยู่ที่ใจของเราแถบจะแบบ 100% เลยก็ว่าได้และการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ แล้วก็เป็นกำลังใจให้ทุกคนด้วยใครที่กำลังเป็นแพนิครักษาให้หายได้คุณภาพชีวิตของเราก็จะกลับมาดียิ่งขึ้นนะคะ
@b_boomm บอกกล่าว อยากให้ฟังค่า อาจจะนานหน่อย แต่ว่า อยากบอกเล่าประสบการณ์ที่ชั้นสู้กับ #แพนิค มา… #ซึมเศร้า #ความรู้ ♬ เสียงต้นฉบับ - B_boomm
Advertisement