ติ๊ก ชิโร่ ควงภรรยา อ้อ พรรทิรา เปิดชีวิตรัก 30 ปี กว่าจะมีวันนี้ไม่ง่ายเลย ย้อนเล่าวิกฤติชีวิตติดหนี้ 20 ล้าน
ติ๊ก ชิโร่ นักร้อง นักแสดง นักแต่งเพลง มากความสามารถ ที่วันนี้ขอควงภรรยาคนสวย อ้อ พรรทิรา ออกรายการคู่กันเป็นครั้งแรก เผยเส้นทางความรักกว่า 30 ที่บอกเลยว่ากว่าจะมีวันนี้ไม่ง่ายเลย ย้อนเล่าจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของชีวิตกับวิกฤตเป็นหนี้ 20 ล้าน เครียดหนัก จนเจ้าตัวถึงขั้นเสียน้ำตามาแล้ว ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บShow
พี่ติ๊ก พี่อ้อ เจอกันได้ยังไง ?
อ้อ : เจอกันที่เยอรมันค่ะ ตอนนั้นเรียนอยู่ เจอพี่ติ๊กที่งานคอนเสิร์ต พี่ไปดู คุณแม่ชวนไปดู
แต่ว่าไม่ได้เจอกันง่ายๆ หลายร้อยคน ไปสะดุดได้ยังไง ?
ติ๊ก : มีคุณป้าเดินเข้ามา มาขอลายเซ็นต์ เขาบอกว่าขอลายเซ็นต์ให้ลูกสาวหน่อย ซักพักได้ยินเสียงเรียก “แม่ กลับบ้าน” เราก็อุ้ย (ทำท่าชี้) จะแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ เราก็รู้แล้วว่าลูกสาว เราก็ถามว่าขอเบอร์โทรศัพท์ที่บ้านได้ไหมครับ แม่ให้
แม่หันไปถามลูกสาวก่อนไหม ?
ติ๊ก : ไม่ได้ถาม
แล้วถ้าเขาขอเองตอนนั้นให้ไหม ?
อ้อ : ก็ต้องให้ค่ะ ต้องมีมารยาทนิดนึง
ตอนเราเห็นพี่ติ๊กตัวจริงแล้ว เรารู้สึกยังไง ?
อ้อ : ก็พี่เขาน่ารักดีนะ ดูเป็นคนสนุกขี้เล่น
พี่ติ๊กได้เบอร์ไปแล้ว กี่ขั่วโมงถึงโทรไป ?
ติ๊ก : วันรุ่งขึ้นโทรหาแล้วก้บอกว่าอยากจะได้ความรู้สึกที่เกี่ยวข้องกับเยอรมัน มันมีร้านชื่อศาลาไทย เราไปกินข้าวกันได้ไหม
อ้อ : พี่ขอทางแม่ ไม่ได้คุยกับอ้อ
ติ๊ก : คือเข้าตามตรอกออกตามประตู ให้เกียรติผู้ใหญ่
พี่อ้องงไหม อยู่ดีๆชวนไปกินข้าวเฉย ?
อ้อ : ก็งงอยู่เหมือนกัน
จริงหรือเปล่าที่ต้องเจอกันทุกวันจนพี่ต้องเลื่อนไฟล์ทกลับ ?
ติ๊ก : ใช่
อ้อ : ประมาณอาทิตย์นึง ก็ทุกวัน เราขับไปหาเขาทุกวัน เพราะเขามาไม่ถูก
ที่ยอมมาหาทุกวันดูแลเขาทุกวันเกิดความประทับใจอะไรในตัวพี่ติ๊กบ้าง ?
อ้อ : อยู่กับเขาแล้วมันสนุก เขาคุยเก่ง ถ้าเราอารมณ์ไม่ดีเขาสามารถบิ้วท์ให้เรากลับมาอารมณ์ดี เหมือนคอยฮีลใจ
แล้วคิดไหมว่าพอพี่ติ๊กกลับมาทำงานที่เมืองไทย เราคงเจอกันได้อาทิตย์เดียว คงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว?
อ้อ : คิดค่ะ เพราะว่าพี่ติ๊กไปทั่วโลก เขามีโอกาสได้เจอคนเยอะแยะ ผู้หญิงก็เยอะแยะ เราก็ไม่ได้คิดว่าเขาจะต้องมาอะไรกับเรา
แต่คนนี้ไม่ทิ้งพี่อ้อ กลับมาถึงปุ๊ปก็ยังติดต่อกันอยู่ ด้วยแฟ็กซ์ ?
ติ๊ก : ครับ เครื่องแฟ็กซ์ตอนนั้นแทบจะมีทุกบ้าน แฟ็กซ์ทั้งวันงานการไม่ต้องทำ คุยทุกเรื่อง จริงๆแล้วผมเก็บไว้ทุกแผ่นเลยนะ
แฟ็กซ์ว่าแพงแล้ว โทรศัพท์แพงกว่า ได้ข่าวว่าสมัยก่อนบิลค่าโทรศัพท์สร้างตึกได้เลยหรอ ?
ติ๊ก : เป็นแสนต่อเดือน
พี่คลิ๊กอะไรในตัวพี่อ้อมากๆ พี่ถึงได้ลงทุนด้วย เวลานอนก็ไม่ได้นอน ทำไมถึงต้องเลือกพี่อ้อ ?
ติ๊ก : เราประทับใจตอนที่อยู่ที่เยอรมัน เขาดูแลเราได้ พาไปไหนมาไหนได้ พูดภาษาเยอรมันซึ่งเราไม่รู้เรื่องเลย มันทำให้เรารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้มีเสน่ห์และเก่ง คุยได้ทุกเรื่อง กลับมาเราก็ยังติดต่อกันอยู่เรื่อยๆ จนเราบอกว่าถ้าเป็นแบบนี้ เดือนละแสนเนี่ย เราเอาอันนี้มาซื้อตั๋วเครื่องบินดีกว่าไหม
แล้วสุดท้ายใครเป็นคนบินมาเจอใครก่อน ?
ติ๊ก : อ้อบินมา เขามีพี่สาวอยู่ที่ลาดพร้าว
อ้อ : หลอกให้บินมาค่ะ (หัวเราะ) เขาหลอกว่าอ้อบินมาเที่ยวไทยไหม เดี๋ยวพี่จะพาไปจังหวัดโน้นจังหวัดนี้ ไปเที่ยวกันไหม ไปเที่ยวน้ำตกไปทะเล
แล้วเราหลอกล่อง่ายไหม ?
อ้อ : ณ ตอนนั้นเราก็เคลิ้มตามเขาเป็นนพูดเก่ง เราก็บอกแม่ว่า แม่เดี๋ยวอ้อไปเที่ยวไทยนะ จะไปเยี่ยมพี่สาวด้วยแล้วก็บอกคุณแม่ว่าไปประมาณสองอาทิตย์เดี๋ยวกลับ
แสดงว่าตอนนั้นพี่ได้สัมผัสชีวิตซุปเปอร์สตาร์คนนี้จริงๆ เขาเป็นยังงบ้าง ?
อ้อ : เขาเป็นคนที่ติดดิน แปลกดี แรกๆก็งง เขาบอกเราว่าอ้อแต่งตัวสวยๆนะ เดี๋ยวจะพาไปทานข้าว เราก็แต่งตัวมาครึ่งวันเลย
แล้วพาไปไหน ?
อ้อ : ข้างทางอะไรก็ไม่รู้
ติ๊ก : ก็อยากจะลองดูว่าถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ เขาจะรับเราได้หรือเปล่า แต่มีบางวันไม่บอกเขาพาไปโอเรียลเต็ลเฉยเลย เขาก็ไม่ได้เตรียมตัว
จากสองอาทิตย์ที่บอกคุณแม่ว่าจะมาเที่ยวเมืองไทย กลายเป็นสองเดือน แม่ว่ายังไง ?
อ้อ : คุณแม่ก็โทรมาตลอดว่าเกินสองอาทิตย์แล้วจะกลับได้หรือยัง เราบอกว่าขออีกนิดนะ กำลังสนุก พี่ติ๊กช่วงนั้นเขามีคอนเสิร์ตต้องขับรถไปทุกจังหวัด เขาก็ชวนไปด้วย เลยบอกคุณแม่ว่าขออยู่ต่ออีกนิด
แม่โอเคไหม ? แม่เขาตามลูกสาวเขา เขาคุยกับพี่ไหม ?
ติ๊ก : แม่ไม่โอเค เขาเป็นห่วงก็เลยโทร
จาก 2 เดือน เป็น 2 ปี แล้วพี่อ้อบอกคุณแม่ว่ายังไง ?
อ้อ : อยู่ไปเรื่อยๆ ก็บอกคุณแม่ว่า แม่ อ้อตัดสินใจแล้วนะ อ้อได้เลือกเส้นทางของอ้อแล้ว อ้อเลือกพี่ติ๊ก แม่เขาก็อึ้งว่าลูกมั่นใจแล้วหรอ แน่ใจแล้วหรอ แล้วเราจะอยู่กับเขาได้ไหม
แล้วพี่อ้อบอกแม่ว่ายังไง ?
อ้อ : สิ่งไหนที่อ้อตัดสินใจแล้ว อ้อต้องทำมันให้ได้
แล้วตอนนั้นพี่ติ๊กตัดสินใจที่จะแต่งงานหรือตัดสินใจที่จะคบกันเป็นเรื่องเป็นราว ?
ติ๊ก : ตัดสินใจที่จะคบกันก่อน
ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน อยู่บ้านหลังเดียวกัน อยู่คอนโดเดียวกันแบบนี้ใช่ไหม ?
อ้อ : แรกๆอยู่บ้านพี่สาว พี่ก็จะขับไปมา ตอนหลังเขาก็บอกว่า อ้อไปคอนเสิร์ตกับพี่นะเอาเสื้อผ้าไปซัก 2-3 ชุด แล้วเขาก็ไปทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศไทย หลังๆ ไม่ได้ส่งบ้านพี่สาวแล้ว ไปส่งบ้านตัวเอง
มีอยู่ครั้งหนึ่งที่พี่อ้อเห็นต่อหน้าต่อตาเลยแล้วเกือบมีเรื่องมาแล้ว ผู้หญิงเข้ามา ทำอะไร ?
อ้อ : เขาอาจจะชื่นชม ชื่นชอบพี่ติ๊ก แต่เข้ามานั่งตัก
เขามานั่งตักแล้วพี่ติ๊กผลักออกไปเลย ?
อ้อ : ไม่ผลักค่ะ เราไม่รู้ว่าเขาเป็นใครแล้วก็มานั่งตัก ครั้งแรกไม่เป็นไร ครั้งที่สองก็ยังไม่เป็นไร เราก็บอกว่าพี่ติ๊กคะ ถ้าพี่ให้ผู้หญิงคนนั้นมานั่งตักพี่อีก อ้อจะจัดการทั้งสองคนเลย พอเขาจะมาอีกพี่ติ๊กก็ชวนพี่กลับบ้าน
มีเหตุการณ์ไหนไหมที่ทะเลาะกันจนขั้นเกือบเลิก ?
อ้อ : มีช่วงหนึ่งค่ะ ที่เรารู้สึกว่าพี่เขาไม่สนใจเราเลย เหมือนเขามุ่งมั่นกับอะไรซักอย่าง ตอนนั้นแต่งงานแล้วมีลูกแล้ว
แล้วได้คุยกันไหม ?
อ้อ : ยังไม่ได้คุยเพราะเวลาจะคุยพี่เขาชอบเดินหนี
มีประโยคหนึ่งที่พี่ติ๊กเคยพูดกับพี่อ้อ จนพี่อ้อจำได้ถึงทุกวันนี้ประโยคนั้นคืออะไร ?
อ้อ : ถ้าพ่อไม่มีเวลาให้อ้อมากพอหรือว่าตรงไหนที่อ้อคิดว่าไม่โอเคที่มันขาดไป อ้อก็ลองหาใครคบดูนะ ถ้าอยู่ไม่ได้ก็กลับมาหา
สรุปมันจบยังไง ?
อ้อ : เขาก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็มีงอนอยู่พักหนึ่ง เขาก็ซื้อของมาหลอกล่อ
พี่ติ๊กติดหนี้ 20 ล้าน ตอนไหน ?
ติ๊ก : ตอนนั้นเราทำธุรกิจอยู่ที่ลาดพร้าว 71 เป็นบริษัทนำเข้า-ส่งออก แต่เป็นนำเข้ามากกว่ามันเป็นช่วงหนึ่งที่เราเคยได้ยินว่ามีรถขายรถ มีบ้านขายบ้าน มีที่ขายที่ ซื้อดอลล่าร์เก็บไว้ แต่เราก็ไม่ได้เอะใจ ไม่ได้ทำแบบนั้นตอนนั้นทำธุรกิจอยู่ ธุรกิจไปได้สวยมาก พอวันหนึ่งเขาลดค่าเงินบาท ปั้ง !! เราทันทีเลย ไม่ใช่ครอบครัวเราครอบครัวเดียวนะ ทั้งประเทศมีคนฆ่าตัวตาย ช่วงปี 2540 ต้มยำกุ้ง
พี่แอบไปร้องไห้ ?
ติ๊ก : ตอนร้องไห้คือตอนที่เราเอาเงินไปใช้หนี้ วันนี้เอาเงินไปใช้หนี้แบงค์นี้ ครั้งต่อไปแบงค์นั้นมาฮุบแบงค์นี้ ก็ต้องเอาเงินไปใช้แบงค์อื่น ทุกครั้งที่เราเอาเงินไปจ่าย มันไม่ได้ไปจ่ายน้อยๆ แล้วมันก็ไม่สามารถต้านทานความโศกเศร้าของเรา มันก็เลยต้องหลั่งน้ำตาร้องไห้ด้วยความเสียดาย เรามีชื่อเสียงมามีทุกอย่างมาเรียบร้อย แต่นี่ไม่ใช่ว่สมันไปถึงจุดจุดเดิมนะ มันไปถึงชั้นใต้พิภพถึง 20 ชั้น ถ้าสวยรรค์ก็ชั้น 7 แต่ถ้านรกก็ 20 ขุม
ตอนนั้นคลอดลูกด้วย ในฐานะคุณแม่ตอนนั้นเป็นยังไง ?
อ้อ : รู้สึกกังวลมาก เครียด พี่ติ๊กจู่ๆก็เป็นหนี้ เพราะค่าเงินมันเปลี่ยน ก็อยู่เป็นกำลังใจให้พี่ติ๊ก บอกว่าพี่ก็สู้นะเราล้มได้เดี๋ยวเราก็ลุกขึ้นได้ ตอนนั้นมีเปิดท้ายขายของก็อุ้มลูกไป เอาของในบ้านของเขาเนี่ยแหละไปขาย
ติ๊ก : ทางออกของนักธุรกิจ ของผู้คน ในหลายๆครอบครัว มันจะมีตลาดเปิดท้ายขายของ มีอะไรก็ขายหมด ขายทุกอย่าง ขายเพื่อให้เรามีชีวิตอยู่รอด แต่ก็มีคำที่ออกมาจากปากอ้อ พ่ออ้อจะดูแลพ่อเอง เราจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เยอรมัน
พี่ติ๊กว่ายังไง ?
ติ๊ก : ป่ะ ลองดู ตอนนั้นแทบจะไม่ได้มีคอนเสิร์ต ถ้าจะมีก็แค่งานพิธีกร คือความเครียดขอเรามันมีแน่นอน มันจะต้องหาวิธีการอะไรก็ได้ที่จะดำรงชีวิตให้ได้แล้วก็ใช้หนี้ให้ได้ เราก็คิดว่า ซึ้งใจนะที่อ้ออยู่เคียงข้างเราเสมอ แม้ยามที่เราทุกข์และสุข เราเป็นหัวหน้าครอบครัว ร้องเพลงได้ แต่งเพลงได้ เป็นศิลปินวาดภาพ เล่นหนังก็ได้ เล่นละครก็ได้ เราก็ยังมีชีวิตอยู่ได้นะ ผมเป็นลูกผู้ชายพอ ผมกล้าสู้ ผมไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย แต่ว่าสู้ได้ เพราะว่าเราเป็นคนขยัน เป็นคนอดทน เป็นหัวหน้าครอบครัว เพราะฉะนั้นถ้าจะตายให้มันรู้ไป เราตัดสินใจว่าเราจะอยู่ที่เมืองไทย
นานไหมกว่าจะฟื้นตัว ?
ติ๊ก : เรียกว่าเหนื่อยสายตัวแทบขาด
อะไรทำให้พี่ทั้งคู่อยู่ด้วยกันมายาวนาน 30 ปี ?
อ้อ : ต้องมีความยืดหยุ่น ถอยมาคนละก้าว ถ้ามีตรงไหนเรามีปัญหากันให้มาคุยกัน
ติ๊ก : อีกอย่างก็คือโซ่ทองคล้องใจก็คือชาเมกับยาหยี ผมเป็นคนเห็นคุณค่าของเวลา ทำงานทุกนาทีมีคุณค่าเสมอ ถ้าโกรธเคืองกันงอนกันไม่พูดกันสองวัน น่าเสียดาย บางทีเลยไปถึงสามวัน พอวันที่สี่กลับมาคุยกันมันน่าเสียดายที่เราบึ้งตึงใส่กัน
อยากจะบอกอะไรผู้ชายคนนี้ ?
อ้อ : ขอโทษพ่อที่ผ่านมาอ้อเคยทำอะไรให้ไม่สบายใจหรือว่าเสียใจ หรือว่าทำตัวไม่น่ารัก อ้ออยากจะขอบคุณพี่ติ๊กที่เป็นหัวหน้าครอบครัวที่อดทน เข้มแข็ง ดูแลเราอย่างดีมาเสมอไม่ว่าจะเป็นอ้อหรือลูก ขอบคุณที่พี่มีความรักให้อ้อเสมอต้นเสมอปลาย ขอสัญญาว่าอ้อจะอยู่เคียงข้างพี่ตลอดไป ไม่ว่าจะทุกข์หรือสุข ตราบเท่าที่อ้อยังมีลมหายใจอยู่
ติ๊ก : ทุกครั้งที่ผมพูดว่าผมจะแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ มาถึงวันนี้ก็ยังรักษาคำพูดนี้อยู่ มันมีบางสิ่งบางอย่างที่เกิดขึ้นอย่างที่อ้อพูดเมื่อสักครู่นี้ หลายๆคนอาจะนำไปใช้ก็ได้ถือว่าเป็นวิทยาทานเป็นการแลกเปลี่ยนกัน ถ้าวันไหนมันหนักหนาจริงๆ อ้อจะบอกว่า พ่อมานี่ อ้อจะกราบเท้าพ่อ ขอโทษแล้วก็อยากจะขอบคุณพ่อที่เลี้ยงดูมา ที่อยู่ด้วยกันมาแล้วก็ดูแล มาถึงตรงนี้ผมกล้าพูดได้ว่า ในชีวิตนี้จะอยู่ดูแลอ้อแล้วก็ลูกๆของเราไปจนลมหายใจสุดท้ายครับ
Advertisement