สุดทน! แจ๊ส ชวนชื่น-แจง ปุณณาสา พร้อมเผชิญหน้า "บู๊" แฉสารพัดวีรกรรม เคยโดนขู่ฆ่า ลั่นนับญาติไม่ได้แล้ว อยากให้เอาเข้าคุก หากถูกปองร้ายรู้ไว้มีแค่คนนี้
จากกรณี แจ๊ส ชวนชื่น และ แจง ปุณณาสา แจ้งความถูกโจรขึ้นบ้าน ขโมยรองเท้าสะสมราคากว่า 3 แสน ซึ่งมีการระบุว่าเป็นคนใกล้ตัว เหตุมีการไลฟ์ติ๊กต๊อกเย้ยว่าเป็นคนทำเอง อ้างนำรองเท้าไปแจกชาวบ้าน ต่อมามีการระบุว่า คนใกล้ตัวคือ “บู๊” น้องชายแจง ที่เคยมีประเด็นกันมาก่อนหน้านั้น
วันนี้ (29 มีนาคม 2567) ด้านนักแสดงตลกชื่อดัง แจ๊ส ชวนชื่น พร้อมด้วยภรรยา แจง ปุณณาสา จัดแถลงความคืบหน้ากรณีถูกโจรขึ้นบ้าน ไลฟ์ Tiktok ขโมยรองเท้าผ้าใบสะสม รุ่นหายาก ไปจำนวนหลายคู่มูลค่าประมาณ 300,000 บาท อีกทั้งพบอุปกรณ์เสพยาอยู่ในบ้าน เบื้องต้นทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว
โดยทั้งคู่ “แจ๊ส” และแจงได้เผยว่า “แจง” บอก จริงๆเราพอทราบมาคร่าวๆแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ยังไม่มีหลักฐาน ประกอบกับเขาไลฟ์สด แล้วเขาพูดว่าเขาเป็นคนเอาไป ตนเลยได้เอาหลักฐานไลฟ์ส่งให้ตำรวจ ตนได้ไปหน้าบ้านก็เจอประตูแตกไป1บาน เลยโทรแจ้งเหตุให้ตำรวจเข้ามาที่บ้าน ก็ได้เห็นประตูแตก แต่มีกุญแจล็อคด้านนอกไว้ บอกตนในถ้า ณ เจ้าบ้าน ไม่มีกุญแจ ก็เลยงัดเข้าไป เจอร่องรอยของคนอยู่ ก็ขึ้นไปห้องรองเท้าชั้น3ก่อนเลย ตนเคยถ่ายคลิปเก็บเอาไว้ เลยมีรูปกับคลิปอยู่ว่ามีรองเท้ายังไงบ้าง ที่ไม่ได้ย้ายออกเพราะยังไม่ได้ทำห้องรองเท้า
ซึ่งตอนเข้าไปในบ้านประตูห้องรองเท้ามันถูกงัดเลยเปิดได้เลย เจอว่ารองเท้าที่เป็นของหายากหายไปหมดเลย แล้วก็พบห้องที่มีร่องรอยอาศัย พบอุปกรณ์เสพยา ถุงยางอนามัย แล้วห้องนอนที่ตนกับแจ๊สเคยอยู่ ก็ล็อคเลยงัดเข้าไป พบว่าเหมือนแอร์พึ่งปิด ทิ้งของเอาไว้ เช่น โทรศัพท์ เราจึงคาดว่าเขาน่าจะหนีไปทางหลังบ้าน
“แจง” บอก ตนไม่ได้เงียบ ตนแจ้งความเอาไว้ตั้งแต่ 26 ธันวาคม คือสิ่งที่ตนกับครอบครัวโดนกระทำมันสุดจริงๆ “แจ๊ส”บอก ตนกับแจงเรากำลังสร้างตัว ถ้าใครมาร้ายใส่เราก็ไม่ยอม แต่เรายังต้องทำงาน ถ้าเราทำอะไรมันมีผลกระทบกับงาน แต่มาถึงตอนนี้ก็เงียบไม่ไหว “แจง” บอก ตนนั่งถามตัวเองตลอดว่า ตนผิดอะไร ตอนเขาออกจากคุกเมื่อปี63 ด้วยโควิดเลยไม่มีงาน ก็ให้เขามาขับรถส่งของ จนเขาก็ขับรถไปชนมา มีเรื่องจนต้องไปเคลียร์ เขาก็บอกว่าจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว
บอกแจงได้ซื้อรถต่อจากน้องมือกีตาร์ในวงเพื่อให้เขาขับ แต่เขาก็มีปัญหาอีก คือเรื่องหนี้การพนันที่ตนกับครอบครัวต้องชดใช้ ตนก็ทนและให้โอกาสเขา เราทำงานเหนื่อยแต่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ ตนว่ามันไม่แฟร์เลย เขาทั้งว่าตน ว่าลูกของตน ขู่ฆ่าต่างๆนาๆ แต่ตอนนี้รู้สึกทนไม่ได้แล้ว ให้ออกมาสู้กันเลย “แจ๊ส”บอก คนเชื่อเยอะว่าเขาเป็นญาติแจง แต่ถ้าเอามาคุยกันต่อหน้าจะได้รู้แน่ว่าจริงๆมันคืออะไร “แจง” บอก ตนเสียใจมาก พูดไม่ออก นับญาติไม่ได้แล้ว “แจ๊ส” บอก ตนไม่เคยมีปัญหากับใคร และถ้าครอบครัวตนเป็นอะไร ก็คือเพราะเขา ตั้งแต่ที่ตนรู้จักแจง แจงดูแลเขามาตลอด ไม่เคยทิ้งพี่น้อง “แจง”บอก ตนไม่เคยทำร้ายใคร และไม่เคยสร้างเรื่องเลย
ด้าน”แจ๊ส” บอก สำหรับเรื่องรองเท้า ตนโกรธ ตนทำงานหาเงินมาเพื่อซื้อสิ่งที่เราชอบ คู่แรกของตน ตนอยากให้เขาแสดงตัวออกมาเลย อยากให้ทุกคนรู้ก็ออกมาเลย “แจง”บอก หลังจากที่ตนใช้หนี้ให้เขา 7แสนกว่าบาท เมื่อวันเกิดแม่ เขาก็บุกเข้าไป ต่อยหลาน แต่เขาพูดว่าคนในบ้านเอาปืนจะยิงเขา ไปสน.มีเรื่องกับน้องชาย จนโดนจับติดคุก เขาก็บอกว่าตนไม่ส่งเงิน ใครไม่เอาเขาแล้ว ก็มีแค่ตน เขาก็ส่งจดหมายมาว่าให้ตนยอดความ เขาจะไม่ทำอะไรผิดๆแล้ว บอกเลย บู๊ กูคนเก่าหายไปแล้ว
ถามต่อ แจ๊สจะตอบโต้ยังไงบ้าง
“แจ๊ส”บอก ตนไม่ทำอะไรเสื่อมเสียแน่นอน แต่ตนจะทำในสิ่งที่ต้องอยากจะทำ ใครจะเชื่อไม่เชื่อก็ได้ แต่ให้ดูว่าอะไรคือความเป็นจริง เรื่องรองเท้าตน ตอนนี้เขาหนีอยู่ ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน อยากให้ทุกคนช่วยกันแจ้งเบาะแส “แจง”บอก ตอนนี้รองเท้ามีน้องเอามาคืนแล้ว รู้แล้วว่าใครเป็นคนเอามาขาย
“แจง”บอก ที่ไม่ติดกล้องวงจรปิดเพราะตนไม่อยู่แล้ว กะจะไม่ให้ใครเข้าไปอยู่ ตนคิดว่าไม่คิดว่ามีใครอยู่ได้ แต่เขาก็ยังอยู่ได้ “แจ๊ส”บอก หลังจากที่ตนทะเลาะกับเขา ก็มีเพื่อนเขาที่ออกมาโพสต์รูปปืน จนลบออกไป ตนไม่รู้ว่าเขาจะไปถึงจุดนั้นไหม แต่ถ้าครอบครัวเราเป็นอะไรก็เพราะเขา
ถามต่อ ทำมันถึงเลือกเพิ่งออกมาพูด
“แจง” บอก ตนห่วงแจ๊สมากเลยไม่ได้ออกมาทำอะไรก่อนหน้านี้ เคยให้เขาไปหาหมอจิตแพทย์ หมอก็บอกว่า เขาปกติ “แจ๊ส”บอก ตนกล้าสาบานเลย เมียตนไม่ได้ผิดอะไรจากเขา ช่วยเขาตลอด “แจง” สาบานให้ชิบหายเลย (น้ำตาซึม) “แจ๊ส”บอก เรื่องผลกระทบกับงาน ตนไม่อยากไปพูดคำหยาบอะไร ตอนนี้ยังไม่ได้โดนยกเลิกงานอะไร “แจ๊ส”บอก ตอนนี้หมายจับมาแล้ว คุณจะสู้คดีอะไรก็ว่าไป ส่วนจะเจอหน้า สัมภาษณ์อะไรกัน ก็อีกเรื่องกัน ตนว่ามันอยู่ที่เขาว่ามาแนวไหน “แจง”บอก อยากให้เขาเข้าคุกนะ แต่เขาก็ไม่น่าจะกลัวคุกแล้ว ลามมาถึงครอบครัว ยอมรับก่อนหน้านี้หวาดระแวงในการใช้ชีวิต แต่ตอนนี้ไม่แล้ว ถ้าเขาดูอยู่ ก็มาคุยกัน ถ้าไม่ผิดก็มาแก้ต่าง
ส่วนเจอกันแล้วคุมอารมณ์ได้ไหม ตนก็ตอบไม่ได้ คนมันสุดแล้ว “แจ๊ส”บอก ตอนเขาไลฟ์ตนก็ยังงงว่าตนไปทำอะไรให้ ทั้งๆที่ไม่เกี่ยวกับตนเลย “แจง”บอก ถ้าไม่มีแจ๊ส ตนจะเอาเงินจากไหนไปใช้หนี้ให้เขาได้ ไหนจะไม่ช่วยแล้วยังทำลายอีก (ร้องไห้) ตนร้องไห้ด้วยความแค้น บ้านหลังนั้นก็ขาย ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหาก็จะมี ลักทรัพย์ในเคหะสถาน ข่มขู่ และ หมิ่นประมาทในการโฆษณา และน่าจะมีทอดๆไปอีกสำหรับคนที่เอาร้องเท้าไปขายด้วย ตนก็ได้ถามถึงการทำยังไงที่สามารถเอาชื่อเขาออกไปจากทะเบียนบ้านด้วย น่าจะอีก6เดือนก็น่าจะโดนเด้งออก ส่วนรองเท้าที่คร่าวคือขโมยไป5คู่ ได้คืนมา1คู่
Advertisement