จากกรณี “เบนซ์ พรชิตา-มิค บรมวุฒิ” ถูกสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ตรวจพบสารไซบูทรามีนในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบรนด์ ITCHA (อิชช่า) ยันเชื่อว่าผลิตภัณฑ์นั้นเป็นของปลอม !!
โดยวันนี้ 6 มิ.ย. 2567 “เบนซ์-มิค” โร่แถลงประเด็นดังกล่าว พร้อมด้วย ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต
ซึ่ง ทนายเจมส์ เผยว่า "ในส่วนที่อย. ออกมาประกาศ ถ้าดูภาพที่กล่อง มี 2 ส่วน กล่องภาพแรกจะมีลายเซ็นของคุณเบนซ์ อันนั้นไม่ใช่กล่องผลิตภัณฑ์เป็นภาพกราฟิก ซึ่งไม่รู้ว่าเพจอย. เอามาจากไหน แต่กล่องกราฟิกที่เพิ่งออกเดือนเม.ย. ที่ผมเชื่อว่าอย. เพิ่งตรวจสารเจอคือ กล่องอีกกล่อง ซึ่งเป็นล็อตผลิตเมื่อวันที่ 10 ม.ค. "
"ดังนั้นที่อย. เอาภาพ 2 ภาพมาเปรียบเทียบกัน ภาพหนึ่งเป็นของจริง ภาพหนึ่งเป็นของปลอม เรายืนยันว่า ตั้งแต่การผลิตล็อตที่ 1 จนถึงปัจจุบัน ไม่มีสารไซบูทรามีนครับ ในสินค้าจริง แต่ในสินค้าปลอม ผมไม่รู้"
"สินค้าที่เขาผลิตไม่ว่าจะล็อตไหน ปีไหน โรงงานจะเก็บตัวอย่างไว้อยู่แล้ว อย. บุกโรงงานเลยครับ ถ้าโรงงานโดนจับ เบนซ์กับมิคก็ไม่เหลือครับ เพราะโรงงานเขาไม่ได้ใส่ จะใส่เพื่ออะไร ถ้าโรงงานไม่มี เบนซ์จะเจาะทีละแคปซูลเพื่อใส่สารตัวนี้เหรอ มันเป็นไปไม่ได้ครับ อยากให้ดูตรรกะตรงนี้ก่อน ถ้าโรงงานไม่ผิด ผลิตภัณฑ์มันก็ไม่มีสารตัวนี้หรอกครับ แต่ที่มันมี ก็เพราะมันคือ ของปลอบ เขาพยายามทำให้เทียบของจริง แต่ลดต้นทุนจึงต้องใส่สารตัวนี้ครับ"
ด้าน เบนซ์ พรชิตา เผยว่า "จริงๆ ไม่อยากพูดอะไรเลยค่ะ เราแค่ทำหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ หน้าที่ของเราคือ เรากินเห็นผล แล้วบอกต่อ ที่เหลือไม่รู้เลย อันนี้พูดตรงๆ สงสารคนที่กินของปลอม คือ ไม่รู้ว่านอกจากอันนี้แล้วเขายังใส่สารอะไรให้กิน"
"พูดแล้วรู้สึกแย่ การจะทำให้คนเชื่อใจเราแล้วซื้อของมันไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าเกิดเป็นแบบนี้ กลายเป็นว่า ของที่เราเป็นรพรีเซ็นเตอร์เป็นของที่หลอกคนอื่น เราไม่สบายใจ เราเป็นแม่คนนะ ผลกระทบกับเบนซ์มีแน่นอน เพราะคนเชื่อใจเรา รายละเอียดทางสินค้า หรือเพจต่างๆ ต้องให้ทางบริษัทพูดนะคะ"
"ก็ต้องขอบคุณทางอย. และทางพี่อัจฉริยะด้วย อย่างน้อยทำให้เราได้รู้ว่ามันมีของปลอบอยู่ในตลาดจริงๆ"
ขณะที่ มิค บรมวุฒิ แจงรายละเอียดของสินค้าที่เป็นของแท้ แตกต่างจากของปลอมว่า
"เราเคยทำคลิปให้ระวังของปลอม ของแท้กล่องจะมีลายเซ็น ซองกันชื้นต่างกันนะ ของแท้จะเป็นซองใส ของปลอมจะเป็นซองทึบ ส่วนตัวแผงความหนาของอะลูมิเนียมจะไม่เหมือนกัน วางแคปซูลยาเป็นตัว s ซึ่งจะทำให้ผลิตช้า และปลอมยาก แต่สุดท้ายก็ปลอมได้ ด้านตัวยาในแคปซูลของแท้จะเป็นผงสีขาว ของปลอมจะเป็นผงสีน้ำตาล"
Advertisement