รู้จัก! หมิว ลลิตา ภรรยาคนสวย กัน จอมพลัง ดีกรีนางงามร้อยเวที สามีซัพพอร์ตเต็มที่เดินตามฝัน มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2024
อีกหนึ่งผู้เข้าแข่งขันที่น่าจับตา สำหรับการประกวด MISS UNIVERSE THAILAND 2024 คือ หมิว ลลิตา หงสะมัต วัย 27 ปี MUT พระนครศรีอยุธยา เธอเป็นนางงามที่เคยได้รับฉายาว่า “นางงามพันเวที” เพราะไม่ว่าจะไปประกวดที่ไหนก็มีตำแหน่งการันตีเสมอ โดยปัจจุบันเธอยังเป็นภรรยาผู้สนับสนุนสามีอย่างดีเยี่ยม กัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง นักเคลื่อนไหวตัวแทนประชาชนอีกด้วย
โดย หมิว ลลิตา เดินทางบนเส้นทาง “นางงาม” คือจุดเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่ คือเส้นทางที่สร้างความภาคภูมิใจ เพราะเป็นส่วนสำคัญในการหล่อเลี้ยงชีวิตเราและครอบครัว และที่สำคัญเธอมีสามีอย่าง กัน จอมพลัง ที่คอยซัพพอร์ตในเส้นทางการประกวดครั้งนี้อย่างเต็มที่
ซึ่ง หมิว ลลิตา ได้เปิดใจว่า “ในฐานะนางงามจะช่วยซัพพอร์ตพี่กันในทุกเส้นทางที่เขาเลือกเดินเพราะเราเคยตกลงกันไวัแล้วเราจะซัพพอร์ตอย่างนี้ในทุกๆเรื่องของเขา เพราะว่าหมิวเชื่ออย่างหนึ่งไม่ว่าเขาจะเลือกอะไรก็แล้วแต่มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดและพร้อมซัพพอร์ตเขาเต็มที่เลยค่ะ”
ด้าน กัน จอมพลัง ก็ได้เปิดใจถึงภรรยาคนสวยว่า “น้องหมิวเขาเสียสละเพื่อผมมาเยอะมาก เขาทิ้งความฝันของเขาเพื่อผมเลย เขายอมไปมีลูกให้ผมไปแต่งงานกับผม ทิ้งความฝัน วันนี้เขาได้เดินตามฝันของเขา ผมมีความสุขที่สุดแล้ว จะชนะจะแพ้ไม่สำคัญน้องหมิวชนะใจผมตั้งแต่วันแรกแล้วครับ”
สำหรับบทเรียนที่ดีที่สุดของชีวิต ของ หมิว ลลิตา “คือการช่วยเหลือสังคมเพียง 2 ปี ที่เราและสามีได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ที่ประสบปัญหาต่างๆ จำนวนนับไม่ถ้วน แต่ทุกเคสอยู่ความทรงจำของเราหมด ทำให้เรามีมุมมองที่กว้างขึ้น ได้เห็นชีวิตของคนในหลากหลายรูปแบบ การที่เรายอมสละเวลาแรงกาย แรงใจ และสติปัญญาในการทำงานที่เป็นสาธารณประโยชน์โดยไม่หวังผลตอบแทนสิ่งเหล่านี้ทำให้เห็นคุณค่าของชีวิตมากยิ่งขึ้น”
“ช่วยได้นิดเดียวดีกว่าไม่ช่วยอะไรเลย กว่า 2 ปี ของการลงพื้นที่ทำงานช่วยเหลือสังคมของหมิวและสามี เราเจอผู้คนที่เดือดร้อนจำนวนมาก ทุกเหตุการณ์ทุกเรื่องราว ยังคงอยู่ในความทรงจำ สิ่งสำคัญที่ครอบครัว “จอมพลัง” ตั้งเป้าไว้เสมอคือ “ช่วยได้นิดเดียว ดีกว่าไม่ช่วยเลย” เราไม่ใช่ยอดมนุษย์ แต่เราคือมนุษย์ธรรมดาที่ทำงานกันเป็นทีม เราพร้อมสละเวลา เราทุ่มเทแรงกายแรงใจ และใช้สติปัญญาในการทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์โดยไม่หวังผลตอบแทน”
“บางครั้งมีบางคนตำหนิบ้าง ไม่ชอบเราบ้าง แต่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่จะมาหยุดความตั้งใจของพวกเราได้ เรารู้ว่าเรากำลังทำอะไร และเราเข้าใจดีว่าบางครั้งไม่สามารถช่วยเหลือได้ทั้งหมด แต่ยังดีกว่าไม่ช่วยทำอะไรเลย”
Advertisement