"ดู๋ สัญญา" ควงลูกชาย "เอม สรรเพชญ์" เปิดใจครั้งแรก หลังเข้าวงการ ไม่หวั่นโดนเปรียบเทียบ

ดู๋ สัญญา ควงลูกชาย เอม สรรเพชญ์ เปิดใจครั้งแรกหลังเข้าวงการ ไม่หวั่นโดนเปรียบเทียบ!? ย้อนเล่าตอนเด็กเคยโดนบูลลี่ เพราะตัวเล็ก-ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง

พิธีกรแถวหน้าของเมืองไทย ดู๋ สัญญา คุณากร ที่วันนี้ควงลูกชายสุดหล่อ เอม สรรเพชญ์ เปิดใจครั้งแรกหลังความหล่อทะลุจอจนเป็นไวรัลชั่วข้ามคืน พร้อมเผยความสนิทพ่อ ลูก สายชิล รวมถึงเรื่องที่ไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อน อีกทั้งยังเปิดเบื้องหลังของหนุ่มเอมจากเด็กขี้อายกลายเป็นดาวดวงใหม่ของวงการบันเทิง ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow 

พี่ดู๋รู้สึกยังไง ลูกชายฉายแสงชั่วข้ามคืน เป็นดาวดวงใหม่ของวงการบันเทิง?
ดู๋ สัญญา : คนเป็นพ่อก็ดีใจ อยากลงรูปลูก แต่เค้าเล็กๆผมพยายามเลือกรูปที่เค้าหน้าตาดีมาลง ถ้าคนอื่นเห็นเค้าหน้าตาดีโดยผมไม่ต้องเลือกรูปได้ ผมก็รู้สึกว่าเป็นบุญของเด็ก แต่มันเป็นแค่บันไดขั้นที่หนึ่ง เวลาเริ่มต้นมันอาจทำให้คนหันมามอง แต่มองแล้วคุณทำงานได้ดีไหม

เห็นบอกว่าเวลาน้องเอมไปดูคอมเมนต์ เขินกับคอมเมนต์มาก ร่างเทพบ้างแหละ ร่างทองบ้างแหละ รู้สึกยังไงบ้าง?
เอม สรรเพชญ์ : บางทีผมอาจจะไม่อ่าน มันตอบไม่ถูกทุกอย่างมันมาเร็วมาก
ดู๋ สัญญา : เขาไม่อ่าน
เอม สรรเพชญ์ : คุณพ่อรู้ดีกว่าผม
ดู๋ สัญญา : เอาจริงๆ ผมเห็นคำชมเยอะ แต่เวลาผมไถ่หา ผมหาคำตำหนิ เพื่อมาบอกเค้า ถ้าสิ่งตำหนินั้นเราควรแก้ไข เราจะได้แก้ แต่ไม่ค่อยเจอ

เขาชมว่าอะไรบ้าง?
ดู๋ สัญญา : ส่วนมากชมว่าหน้าตาดี เหมือนอาบน้ำทุกชั่วโมง

เวลาเราเห็นคนคอมเมนต์ลูกเรา เรายิ้มประมาณไหน?
ดู๋ สัญญา : ไม่เห็นหน้าตัวเอง

น้องเอมไปไหนมาไหน คนเริ่มเข้ามาขอถ่ายรูปหรือยัง?
เอม สรรเพชญ์ : เริ่มมีแล้วครับ แต่ยังไม่ชิน มันรู้สึกแฮปปี้มากตอนมีคนมาบอกว่าเราทำให้วันเขาดีขึ้น โดยเราไม่ได้ทำอะไรเลย

สมัยเด็กๆ รู้ตัวไหมว่าเป็นคนขี้อายมาก ตอนนั้นสาวๆ ไปขออุ้ม เค้าจะวิ่งหนี?
เอม สรรเพชญ์ : อันนี้จำได้ ยังเป็นอยู่
ดู๋ สัญญา : เราไปวิ่งตามเค้าแทนหรือเปล่า

เขินหรือครับ?
เอม สรรเพชญ์ : เขินครับ

1-10 เขินระดับไหน?
เอม สรรเพชญ์ : 10 ครับ

แล้วเวลาคนเข้ามาขอถ่ายรูปรีแอ็คเราเป็นยังไง?
เอม สรรเพชญ์ : อันนี้ได้ครับ ขอถ่ายรูป
ดู๋ สัญญา : มันเป็น 2 อันแยกกัน การขอถ่ายรูปกับชมแบบหล่อขั้นเทพ เค้าไม่อ่าน ไม่ดูเลย

ความเขินนี่ได้มาจากคุณพ่อ?
ดู๋ สัญญา : ตอนแรกผมคิดว่าเค้าเป็นคนเดียว แต่พอมานึกย้อนสมัยผมเรียนมัธยม สมมติโรงเรียนมีการแสดงอะไร เค้าเลือกคนไปแสดง แน่นอนผมมีตำแหน่งประจำ คือ มึงเป็นคนดูไม่ต้องมาเล่น เพราะดูทรงไม่น่าเล่นอะไรได้ ในห้องนึงคนกล้าแสดงออก ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ดีนะ แต่มันมีน้อย

เวลาโรงเรียนมีกิจกรรมที่ต้องออนสเตจ ไม่เอาเลย?
เอม สรรเพชญ์ : ไม่เอาเลยครับ เขิน แล้วเรากลัวไม่คิดว่าเราจะทำได้ ตัดตัวเองไว้ก่อน ไม่ทำดีกว่า

แต่ตอนนี้มันเลี่ยงไม่ได้แล้ว?
ดู๋ สัญญา : อันนี้เค้าเลือกเอง

วันนี้เหมือนเป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น แต่สิ่งที่คุณพ่อมากที่สุดคืออะไร?
เอม สรรเพชญ์ : บุคลิกภายใน ผมว่าเราคล้ายกัน
ดู๋ สัญญา : บุคลิก และวิธีคิดหลายเรื่อง

เห็นว่าพ่อกับลูกเวลาอยู่ด้วยกันมีรหัสลับด้วย ?
ดู๋ สัญญา : มันเป็นคำที่ผมพูดบ่อยๆ ซึ่งมันมาจากโทรทัศน์ตอนเค้าเป็นเด็ก แต่ผมพูดบ่อยจนเค้าจำได้ มันเหมือนเราคุยกันเล่นๆ ถ้าพ่อโดนจับไปแล้วมีส่งข้อมูลมาจงไปจ่ายนี่คือพ่อจริงๆ นะ แต่ถ้าไม่พูดรกัสนั้นอย่าไปเชื่อนะ

แล้วไอตึ๋งคืออะไร?
ดู๋ สัญญา : ผมเรียกเค้าตั้งแต่เด็กๆ เค้าเป็นตึ๋งน้อย แล้วหมาผมเป็นตึ๋งจิ๋ว

การเลี้ยงลูกของพี่ดู๋คือทุกข์ทรมานมากกับการที่ลูกไม่กินข้าว?
ดู๋ สัญญา : มาก

พี่ต้องไปหาหมอโภชนาการ เพราะกลัวลูกตัวเล็ก กลัวไม่สูง?
ดู๋ สัญญา : ไม่ใช่แค่ภรรยา คนรอบๆ ตัวเดินป้อน ผมก็หัวเดียวกระเทียมลีบ แต่สุดท้ายผมเป็นคนหาวิธี ฝากผู้ปกครองทุกท่าน เด็กที่เค้าไม่กิน ไม่ใช่เค้าเป็นเด็กไม่ดี หรือสิ่งที่ทำไม่อร่อย ที่เค้าไม่กิน เพราะเค้าไม่หิว เพราะเค้าไม่เผาผลาญพลังงาน ขาออกเค้าไม่มี คุณลองนอนเฉยๆ ทั้งวัน คุณจะไม่ค่อยหิว

แก้ไขยังไง?
ดู๋ สัญญา : ผมสอนเค้าว่ายน้ำ ฝึกระดับนึง โรงเรียนปีนึงเค้าจะมีการคัดนักกีฬาของโรงเรียน เค้าชอบว่ายน้ำ ก็บอกเค้าว่า ถ้าเอมได้เป็นนักกีฬาว่ายน้ำของโรงเรียน พ่อจะภูมิใจมาก แม่จะดีใจมาก ปั่นเค้าทุกวัน สิ่งที่เราต้องการคือ แกต้องซ้อมทุกวัน เพราะโรงเรียนมันบังคับ

เอมรู้ไหมว่าคุณพ่อใช้วิธีนี้ในการให้เรารับประทานอาหาร?
เอม สรรเพชญ์ : ไม่รู้เลยครับ ผมแค่อยากให้พ่อภูมิใจ

เห็นว่าตอนเด็กน้องเอมถูกบูลลี่ เพราะว่าตัวเล็ก?
เอม สรรเพชญ์ : ตอนนั้นผมเพิ่งเข้าโรงเรียนอินเตอร์ ภาษาอังกฤษยังไม่แข็ง
ดู๋ สัญญา : ตัวเล็ก ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง เด็กไทยมีโอกาสเจอ

แล้วโดนอะไรบ้าง ?
เอม สรรเพชญ์ : โดนทุกอย่างเลยครับ ทั้งคำพูดและทำร้ายร่างกาย ก็ต่อยกันแบบเด็ก ซึ่งผมไม่ได้บอกคุณพ่อ เพราะถ้าบอกผมรู้ว่าคุณพ่อจะจริงจังมาก

ได้ข่าวมาว่าตอนนี้เซ็นสัญญากับช่องวันเรียบร้อยแล้ว ?
เอม สรรเพชญ์ : ใช่ครับ

เพราะคุณพ่อ ?
ดู๋ สัญญา : จริงๆ เป็นเรื่องบังเอิญ ก็รู้กันอยู่ว่าคุณบอย ถกลเกรยรติ เราไม่สามารถไปบังคับให้เค้าอะไรได้ เพราะเค้าเป็นผู้บริหาร คือบังเอิญผมเจอกับบอยที่งาน ตอนนั้นเค้าไม่มีอะไรทำ และเค้าอยากทำ เราสองคนคุยกันแล้วว่าเค้าอยากทำ แล้วผมก็เห็นว่ามีนู่น นี่นั่นมาติดต่อ 3 เจ้า แต่ในนั้นไม่มีช่องวัน

ทำไมต้องเป็นช่องวัน ?
ดู๋ สัญญา : ผมเล่นละครเยอะๆ คนรู้จักก็ช่องวัน ตอนนั้นเป็นเอ็กแซ็กท์ ซึ่งวันนั้นพอละครเลิกก็บังเอิญเดินไปเจอ เอาว่ะไม่ได้เจอกันหลายปี บอยเคยเห็นรูปผมหรือยังสนใจไหมให้มาเป็นนักแสดง ลำบากมากเลย บอยบอกเอาสิพี่ นัดเจอเลย มีเวลาแค่นั้นแล้วต่างคนต่างแยก แล้วเลขาบอยก็โทรมา

น้องเอมได้ยินแบบนี้รู้สึกยังไง ?
เอม สรรเพชญ์ : เขินแทนเหมือนกันครับ ถ้ามันไม่ใช่บุคลิกของพ่อด้วย ขอบคุณครับ

กดดันไหม ถ้าคนเอาไปเทียบกับคุณพ่อเพราะคุณพ่อเก่งมาก?
เอม สรรเพชญ์ : ไม่กดดันอยู่แล้วครับ แต่ผมเชื่อว่าผมได้บุคลิก และหลายอย่างจากคุณพ่อ ผมไม่ได้กลัวการเทียบ เพราะผมเชื่อว่าเขารู้ว่าเราคนละคนกัน ผมกลัวว่าถูกมองว่าเป็นลูกสัญญาอย่างเดียว แล้วไม่ใช้ทักษะอะไรเอง อย่างที่พ่อพูด เราโอเคมาถึงจุดนี้ ส่งนนึงก็มาจากคุณพ่อแหละ ต้องยอมรับ แต่ผมเชื่อว่าผมมีฝีมือจริงๆ

พี่ดู๋แนะนำน้องยังไง?
ดู๋ สัญญา : ส่วนตัวก่อน ไม่นับว่าลูกทำงานมีบางงานที่เราเคยทำ ผมว่าใครเปรียบเทียบใครกับใครก็ได้ ไม่เป็นไร มันเป็นเรื่องปกติ ผมอยากบอกว่าความเก่ง ไม่เก่ง เราลองดู และที่ชัดเจนกับเรื่องนี้คือกีฬา คุณจะไม่มีทางเป็นแชมป์ตลอดไป เพราะฉะนั้น ผมก็ไม่ได้เก่ง เชื่อว่ามีพิธีกรเก่งกว่าผมตั้งเยอะ มันอยู่ที่โอกาสของเค้า ความพยายามของเค้า ทุกสิ่ง ทุกอย่าง ไม่มีใครเป็นแชมป์คนเดียว ถ้าทุกคนตั้งใจ พยายาม ยังไงก็ชนะได้

พอเรามาถึงจุดนี้ คุณพ่อแนะนำอะไรบ้าง?
เอม สรรเพชญ์ : ผมรู้สึกว่าพ่อเตรียมมาตามบุคลิก ไม่ใช่เตรียมสำหรับวงการโดยรวม ให้เป็นคนดี
ดู๋ สัญญา : มีคนถามว่า เข้าวงการต้องเตรียมอะไร ผมบอกว่าสิ่งที่ผมเตรียมเค้ามาสำหรับทุกอาชีพ เช่น เป็นคนดี มีความพยายาม ตรงเวลา ไม่โกหก

การเล่นละครเตรียมตัวยังไง?
เอม สรรเพชญ์ : กำลังเวิร์กช้อปอยู่ครับ

สเปคสาวเป็นแบบไหน?
เอม สรรเพชญ์ : เป็นตัวของตัวเอง แนวเท่ แนวเก่ง

อย่างเบส คำสิงห์ สเปคไหม?
เอม สรรเพชญ์ : พยักหน้า จริงๆ