มาริโอ้ เมาเร่อ เผยแม่คือพลังบวกในชีวิต ยอมรับในอดีตเคยทำให้แม่เสียใจมาก่อน ตอนนี้กำลังตกเป็นทาสแมวชื่อน้องจิ๋วและน้องแจ๋ว
นักแสดงหนุ่มรูปหล่อมากความสามารถ "มาริโอ้ เมาเร่อ" เปิดใจในรายการ WOODY FM ถึงความรักความผูกพันธ์ที่มีต่อคุณแม่ ชีวิตนี้แม่คือเซฟโซนและพลังบวก ยอมรับในอดีตเคยทำให้แม่เสียใจมาก่อนจนถึงกับนอนไม่หลับ ตอนนี้กำลังตกเป็นทาสแมวชื่อน้องจิ๋วและน้องแจ๋ว
ได้ข่าวว่าใครบางคนตอนนี้เป็นทาสแมวไปเรียบร้อยแล้ว ?
มาริโอ้ : โอ้ครับ ก็คือมีแมวมาคลอดในบ้าน คลอด 3 ตัว เราไม่ได้รักแมวอะไรขนาดนั้น แต่สักพักมันน่ารักครับมันมาหลายตัว จริงๆ แล้วผมเป็นคนรักหมา รักปลา ไม่ชอบแมวเพราะกลัวแมวข่วน พอคลอดที่บ้าน 3 ตัวแล้วมันก็ตายไปตัวหนึ่งครับ ส่วนตัวแม่ทิ้งลูกไว้แล้วก็ไปครับ เราก็เลยตัดสินใจไปอุ้มเขาแล้วก็เลยพาไปโรงพยาบาล ตอนนี้ก็เลี้ยงไว้ 2 ตัวครับ ชื่อจิ๋วกับแจ๋วครับ เราเข้าใจว่าเป็นตัวผู้อยู่ 1 ปี แต่จริงๆ มันเป็นผู้หญิง (หัวเราะ) ทีแรกผมก็หาไข่อยู่แต่หาไม่เจอ เป็นผู้หญิงทั้ง 2 ตัวเลย หน้าที่ของผมคือตักอึเขาครับ แล้วก็เล่นกับเขาทุกวันไม่ให้เขาเหงา เขาจะอ้อนมากๆ ครับถ้าโอ้เดินไปที่กรงก็จะเอาตัวมาถูเพื่อให้เราลูบ แต่กรงจะกว้างๆ นะครับ ว่างๆ ก็จะพาเขาออกมาเดินเล่นข้างนอก
ไม่ว่าเจอปัญหาเรื่องอะไรก็ตามมาริโอ้ก็จะพลิกขึ้นมาเป็นบวก คุณค้นพบไลฟ์สไตล์แบบนี้ได้ยังไง ทำให้ชีวิตมันง่ายขึ้นได้ยังไง ?
มาริโอ้ : ผมว่าคนที่เป็นต้นแบบเรื่อง Positive Thinking ก็คือคุณแม่ครับ เพราะว่าตั้งแต่เด็กไม่ว่าเราจะเจออะไรที่มันหนักหรือทำงานเหนื่อย พอเจอแม่หรือแม่พูดไม่กี่คำเราก็รู้สึกว่าเรามีพลังที่จะคิดบวกไปในด้านที่ดี
มีอะไรบ้างในชีวิตคุณที่มันเหมือนจะลบแต่สามารถมองให้เป็นมุมบวกได้ ?
มาริโอ้ : หลายอย่างครับ บางทีเราทำงานเยอะๆ แล้วรู้สึกว่ามันเหนื่อยจังเลย ทำไมเราต้องมาทำงานเยอะขนาดนี้ บางทีแม่พูดง่ายๆ เองครับแค่บอกว่า...."เหนื่อยก็ไปพักลูกพรุ่งนี้ก็เอาใหม่" แต่มันเป็นคำที่เป็นพลังบวกกับเรามากๆ เลยครับ เพราะรู้สึกว่าขนาดแม่ทำงานมาตลอดเหนื่อยก็ยังลุกขึ้นมาทำงานด้วยความแฮปปี้ แล้วก็พลังบวกที่ออกมาจากตัวเขามันส่งมาถึงเรา เวลาเจอเรื่องไม่ดีเข้ามากระทบแม่ก็จะบอกว่าชีวิตคนเรามันก็ต้องมีวันที่เราล้มบ้าง แต่อยู่ที่เราจะลุกขึ้นแล้วก็ทำมันต่อไปหรือเปล่า
โอ้บอกพี่เสมอมาว่าเป็นคนที่รักแม่มาก ที่ผ่านมาเคยทำอะไรให้แม่เสียใจบ้างไหม แล้วอาจจะยังรู้สึกผิดอยู่ ?
มาริโอ้ : มีนะ บางทีแม่เตือนเฉยๆ อย่าอย่างนี้นะลูก เราควรจะดูแลตัวเองนะหรืออะไรแบบนี้ครับ บางทีเราทำงานมาหนักๆ หรือว่าถี่ๆ แล้วเราก็รู้สึกว่าทำไมแม่ต้องพูดอะไรแบบนี้ เรารู้สึกเหมือนมีความหงุดหงิดกับสิ่งที่แม่เตือนเรา แล้วก็มีบางทีเราผิดพลาดไปงานสาย แม่ก็จะว่าทำไมทำแบบนี้มันไม่ได้นะโอ้ งานเขารอเรา บางวันเราอาจจะพลาดจริงๆ โทรศัพท์มันไม่ปลุกหรืออะไรแบบนี้ ก็จะโดนแม่ว่า รู้สึกหงุดหงิดบางทีก็เถียงแม่หรือใช้คำที่ไม่ทันคิด พูดกับแม่แรง ว่าแบบผมก็ประมาณนี้แหล่ะ เราก็เสียใจ ตอนพูดไปไม่ได้อะไรแต่ว่าพอแม่วางสายไปก็รู้สึกว่าทำไมเราพูดกับแม่แบบนี้ แม่เราไม่เคยคิดไม่ดีกับเราเลย สิ่งที่เขาคิดกับเราคืออยากให้เราดีขึ้นอย่างเดียว แต่ทำไมเขาเตือนแล้วเราไม่ฟังเขา เราไปใช้อารมณ์เถียงเขา ก็นอนไม่หลับรู้สึกทำไมเราเป็นลูกที่แย่ ก็โทรกลับไปเลย หม่าม้าโอ้ขอโทษ! โอ้พูดกับม้าไม่ดี แม่ก็จะน่ารักมากบอกว่า....ไม่เป็นไรลูก ช่างมันเถอะลูก โอ้โห! รู้สึกมันหายไปเลยครับพี่วู้ดดี้ แม่เราสุดยอดเลย เราโชคดีที่มีแม่ดีขนาดนี้
การขอโทษท่านพี่ว่ามันเยี่ยมที่สุดเลย เพราะเราก็ไม่รู้ว่าการจากลาจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ?
มาริโอ้ : ผมคิดเสมอครับ เพราะผมเองก็เสียคุณพ่อไป รู้สึกว่าผมไม่มีใครแล้วมีแต่แม่นี่แหล่ะ ก็เลยรู้สึกว่าถ้าวันไหนเราพูดกับแม่เราไม่ดี สำหรับผมพลังในชีวิตผมมันร่วงลงไปเลยครับ แม่คือ Positive Thinking ของเราจริงๆ เป็นเซฟโซนของเรา บางทีโทรไปแค่อยากได้ยินเสียงแก หม่าม้าอยู่ไหน แม่ก็จะชอบถามเร็วแม่ผมไวมาก ....แล้ววันนี้ไปทำงานที่ไหน ไปทำงานยังไม่รู้อีกว่าทำงานที่ไหน (หัวเราะ) เวลาโดนแม่ด่าแล้วชอบแฮปปี้ โดนด่าแล้ววันนี้ทำงานได้แล้ว แม่จะเป็น Positive Thinking ที่ไม่ได้มาแบบซอฟท์ ๆ แม่จะว๊ากหน่อยนี่แหล่ะแม่ผม (ยิ้ม)
Advertisement