แหม่ม วิชุดา - โก้ ธีรศักดิ์ เปิดใจครั้งแรกหลังทะเลาะหนัก ไม่คุยกันนานกว่า 15 ปี เปิดจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ทั้งคู่ยอมรับเคยแอบชอบกันแบบแฟน?
“โก้ ธีรศักดิ์” วันนี้ควงเพื่อนซี้สุดแซ่บ “แหม่ม วิชุดา” เปิดใจครั้งแรกหลังทะเลาะหนัก ไม่คุยกันนานกว่า 15 ปี พร้อมเปิดจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ทั้งคู่ยอมรับเคยแอบชอบกันแบบแฟน พร้อมเล่าวีรกรรมสุดแสบ ไม่มีใครเกินใครแน่นอน เปิดนาทีชีวิต แหม่ม วิชชุดาเคยถูกคนทำของใส่เกือบตาย ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow
ทะเลาะกัน 15 ปี ไม่คุยกัน?
โก้ : ไม่อยากเชื่อเหมือนกันนะว่าพวกเราจะได้กลับมาคุยกันอีกครั้ง เพราะไม่คุยกันนานถึง 15 ปีแล้ว
เริ่มตอนไหน?
โก้ : น่าจะ 17 ปีที่แล้ว สมัยออกพ็อกเก็ตบุ๊ก ที่ดาราออกพ็อกเก็ตบุ๊กของตัวเอง เราก็บอกว่าแหม่ม เดี๋ยวขึ้นไปเป็นพิธีกรให้หน่อยนะ แหม่มก็บอกว่าพิธีกรอะไร เป็นไม่ได้ ไม่พร้อม ทำไมไม่บอกก่อน
แหม่ม : อยู่ๆ เรียกมัดมือชกได้ไง ทำไมไม่บอกก่อน
โก้ : จากนั้นก็มีเสียงข้างหลังเป็นซุปตาร์ข้างหลังบอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวเราเป็นแทนให้ก็ได้ หันไปคือเก๋ ชลลดา (หัวเราะ) เขาเห็นเราสองคนทะเลาะกัน แหม่มหันมาปุ๊บ บอกว่ามีพิธีกรแล้วใช่มั้ย ก็สะบัดลุกกลับบ้านเลย
อารมณ์นั้นที่พูดกับโก้ พูดแซวเล่นหรือคิดจริงจัง?
แหม่ม : สมัยก่อนพี่ไม่เหมือนตอนนี้ เมื่อ 17 ปีก่อน
โก้ : (หัวเราะ) หนักกว่าหนิงเยอะ หนิงเรียบร้อยไปเลย
แหม่ม : สมัยก่อนพี่เฟียสมาก สุดๆ ปวดหัวมาก พี่ก็เป็นคนเดาใจไม่ถูก พี่รู้สึกว่าอ้าว มาตั้งนานแล้วทำไมไม่บอก ถ้าบอกจะได้ขึ้นให้ อยู่ๆ มาบอกตอนนี้ ไม่ขึ้น เพื่อนสนิทมีสิทธิ์ทำทุกอย่างกับเพื่อนแบบนี้เหรอ ตอนนั้นคิดแบบนั้น ฉันเป็นเพื่อนเธอ เธอควรรู้นิสัยฉัน ว่าฉันไม่ชอบอะไรแบบนี้ เธอก็ควรบอกฉันก่อนก่อนให้ฉันทำอะไรตอนนั้นคิดแบบนี้ พอรู้ว่ามีคนทำให้แล้วก็โอเค ไม่มีประโยชน์อะไรแล้วนี่ ก็กลับเลย
จบงานควรคุยกัน แล้วเกิดอะไรขึ้นทำไมไม่เคลียร์?
โก้ : ก็ไม่คุยกันเลย หลังจากนั้นก็เดินแยกทางกันที่เมเจอร์รัชโยธิน ต่างคนต่างเงียบ ไม่คุยกัน เราไม่ใช่เพื่อนที่เวลาทะเลาะกันแล้วมาด่ากันนะ ออกมาเล่าเรื่องของความไม่ดีคนนั้นคนนี้ ต่างคนต่างเงียบไม่อยากพูดถึงกันและกัน
พี่โก้รู้สึกน้อยใจ?
โก้ : น้อยใจมาก เขาออกฤทธิ์ออกเดชกับคนรอบข้างอยู่แล้วเยอะแยะ เราไม่คิดว่าเราที่เป็นคนสำคัญที่สุดในโมเมนต์นั้นของเขา เขาจะทำกับเราได้ ตอนนั้นเศร้าและเสียใจมาก กลางปีแหม่มเขาออกพ็อกเก็ตบุ๊กของเขา ที่ถักโครเซอะไรของเขา เราก็บอกว่าแหม่มถ้าสิ้นปีพี่ออกพ็อกเก็ตบุ๊กของพี่ แหม่มมาเป็นพิธีกรให้พี่บ้างนะ แค่นั้นเอง พอปลายปี เราก็ว่าเราย้ำบอกเขาแล้วนะ ไม่รู้เขาไปเดินสะดุดหกล้ม หรือใครไปทำของใส่เขาหรือเปล่า เขาตีเบลอ แต่เรื่องตีเบลอกับแหม่มเป็นเรื่องปกติ ที่เล่นในเป็นต่อบางทีเป็นนิสัยเลย ดูสมบทบาท คาแรกเตอร์กวนประสาท แต่ก่อนหนักกว่านี้อีก
กี่เท่า?
โก้ : โอ้โห เป็นร้อย ไปงานไหนเราต้องคอยเป็นห่วงว่าแหม่มจะเหวี่ยงใครหรือเปล่า ซึ่งแหม่มเหวี่ยงทุกคน ยกเว้นเรา เราไม่คิดว่าเหตุการณ์วันนั้นแหม่มจะมาเหวี่ยงใส่คนที่คิดว่าเหลือคนสุดท้ายแล้วนะ คนสุดท้ายที่ยืนข้างแหม่ม แหม่มยังจะเหวี่ยงอีกเหรอ
ร้องมั้ย?
โก้ : ไม่ร้อง แต่เสียใจมาก เหมือนคนเฮิร์ต ผิดหวัง โอ้โห นี่คือเพื่อน น้อง คนที่เรารักขนาดนี้
แหม่ม : เธอคิดกับฉันมากกว่านั้นแหละ เธอถึงได้เสียใจขนาดนั้น
โก้ : เราเสียความรู้สึกกับการเหวี่ยงของเขา
แหม่ม : จะบอกว่าวันนั้นมุมพี่ก็รู้สึกว่าพี่ไปก่อนใครเพื่อนเลยนะ ไปเร็วเพราะคิดว่าจะให้ทำอะไรหรือเปล่า ก็รีบไป ระหว่างนั้นรู้ว่าพี่โก้ยุ่ง แต่ไปตั้งแต่งานยังไม่เริ่มหลายชั่วโมงมาก บอกตอนนั้นจะได้เตรียมตัว เพราะพี่ไม่ถนัดทำพิธีกร เป็นพิธีกรไม่เป็น พี่ก็คิดว่ามีอะไรให้ทำมั้ย ไม่มีเหรอ ก็เตร็ดเตร่ไปแถวนั้น พอเวลามาบอกหน้างาน เราก็รู้สึกว่า อ้าว อะไรวะเนี่ย
โก้ : อย่ามา พิธีกรก็เป็นอยู่แล้ว ไม่ได้ยากเลย
แหม่ม : ถึงบอกไงว่าเป็นเรื่องของการไม่สื่อสาร บวกกับพี่เป็นคนแบบนั้นด้วย เป็นคนเรื่องมาก
ก่อนกลับมีการเหวี่ยงใส่พี่โก้ว่าให้คนกลางมาเคลียร์?
โก้ : โก้มีคนกลางคือแวร์โซว ตอนนั้นสนิทรุ่นๆ กัน ก็บอกแวร์โซวว่าไปบอกแหม่มให้มาขอโทษ แล้วจะยกโทษให้ ให้แวร์ไปเคลียร์เลย เพื่อนทุกคนก็เห็นหมด แล้วมันไม่ได้เลิกคบกับเราคนเดียวนะ มันเลิกคบกับคนทั้งกลุ่มเลย (หัวเราะ) มันเลิกคบทุกคนที่อยู่รายล้อมเราหมดเลย
แหม่ม : ไม่เป็นไร เราอยู่คนเดียวได้
โก้ : เขาเลิกคบกับคนอื่น คนอื่นยังอยู่ปกติ แต่นี่ไม่คุยกับคนอื่นเลย ใครเป็นเพื่อนโก้เหรอ ไม่คบ ไม่คุย
พี่แวร์สื่อสารยังไง?
แหม่ม : พี่แวร์บอก แหม่ม น้องโทรไปคุยกับพี่โก้นะ พี่โก้ไม่มีอะไรเลย แค่ไปขอโทษกับเขา พี่แวร์พูดดี พี่โก้เขาก็จะหายโกรธ เขารออยู่ เราก็บอกว่าขอโทษแล้วไง ต้องกลับมาเจออะไรแบบนี้อีกเหรอ ถ้าหนูเป็นคน... ก็ไม่ต้องคบหนู ตอนนั้นคิดว่าตัวเองเป็นคนไม่ดี ถ้าไม่ดีก็ไม่ต้องคบ
ผ่านพี่แวร์ไป พี่นุ๊กมากราบกรานขอร้องให้ไปขอโทษพี่โก้ แหม่มก็ยังไม่ลงอีกเหรอ?
แหม่ม : ไปแข่งเกมส์โชว์ที่อินเดียกับพี่นุ๊ก เขาบอกว่าจะไม่มีความสุขเลยในทริปนี้ ถ้าเธอไม่รับปากฉันหนึ่งเรื่อง เพราะตอนนี้ฉันจะคุยกับเธอลำบากแล้ว ถ้าเธอไม่คุยกับพี่โก้ กลับไปขอโทษกับพี่โก้นะ สัญญาได้มั้ย ก็บอกว่าได้ กลับไปเดี๋ยวจะขอโทษพี่โก้เลย ไม่ต้องห่วง ระหว่างอินเดียก็มีความสุขกันมา พอลงเครื่องบินปุ๊บกำลังจะแยกย้าย ก็บอกว่าที่รับปากไว้ไม่ทำนะ
โก้ : เข้าใจหรือยัง (หัวเราะ)
พี่นุ๊กเป็นคนกลางเขาไม่งงเหรอ?
แหม่ม : ไม่ได้ทะเลาะกับนุ๊ก แต่ก็ไม่ได้คุยด้วย เขาลำบากใจไง ถ้าเป็นเพื่อนพี่โก้ แล้วเป็นเพื่อนพี่ด้วย ก็ไม่ต้องลำบากใจ ไม่ต้องคุยกับพี่ค่ะ
พี่ทิ้งเหตุการณ์ผ่านไป 15 ปีได้ยังไง?
โก้ : ระหว่างทางมันมีนะ อย่างเช่นเราต้องไปอัดรายการแล้วเขาเป็นพิธีกร ไหนบอกเป็นพิธีกรไม่ได้ (หัวเราะ) เราต้องไปขายของของเรา ก็คุยกับเขาเหมือนไม่เคยทะเลาะ แต่พอคัตก็แยกกันเลย แต่ก็ไม่พูดกับใครนะ แล้วไม่มีคนรู้ว่าโก้กับแหม่มตีกันอยู่ เราเดอะโชว์มัสโกออน ศัพท์บ้านๆ คือเฟก
แหม่ม : สำหรับเธอคือเฟก แต่สำหรับฉันคือแยกแยะ (หัวเราะ)
โก้ : ยังมีอีก สวรรค์เหมือนจะทดสอบ อยู่ดีๆ กลับบ้าน เฮ้ยแหม่มมาทำอะไรที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเรา มีกองละครที่เขาเล่นอยู่ มาเล่นที่บ้านเรา เราก็ไปแยกแยะกับเขา สบายดีมั้ย (หัวเราะ) แต่ผ่านไปร่วม 10 ปีแล้วนะ ก็แยกแยะ จบ ไม่คุยกันอีกเลย
โมเมนต์ไหนทำให้กลับมารักกันได้?
โก้ : จริงๆ เรารักกันอยู่แล้วแหละ ทุกเหตุการณ์เราดูส่องแหม่มออกทีวี เราดูตลอด เดี๋ยวร้องไห้ เดี๋ยวโดนของ ใจนึงเราเป็นห่วง แต่เรารู้จักแยกแยะ (หัวเราะ) ก็คิดว่ายังไม่ถึงเวลา ต่างคนต่างไปมีสังคมใหม่ๆ กันแล้ว จนสุดท้ายเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว มีคอนเสิร์ตที่มีพี่นุ๊ก ลิฟท์-ออย เราก็ไปดูคอนเสิร์ตแล้วไปฝั่งนุ๊กตอนเลิกก็ไปหลังเวที เปิดไปห้องศิลปิน อ้าว เจอแหม่มอยู่ในห้อง
แหม่ม : เขารู้ว่าฉันอยู่ เขาจะมาหาฉัน เขารักฉัน
ทำไมวันนั้นไม่ใช้คำว่าแยกแยะ?
โก้ : วันนั้นไม่รู้จะก้าวหรือถอยดี เพราะเปิดเข้าไปแล้ว ก็เลยเดอะโชว์มัสโกออน เดินเข้าไป แต่ก็มีพี่มาบอกว่า เนี่ย จริงๆ แหม่มอยากคุยกับโก้มากเลยนะ เขารักโก้มากเลย มีอะไรก็เคลียร์ๆ กันซะ เราก็คิดว่านี่งานบันเทิงเนอะ ทำไมต้องมาเคลียร์กันหลังเวที นางก็เดินเข้ามาแล้วร้องไห้เลยจ้า เราก็เอาแล้วสิ
แหม่ม : หนูรักพี่โก้ หนูขอโทษ
โก้ : ศิลปินอาร์เอสก็งงหมดเลย ว่าเกิดอะไรกับสองคนนี้ เพราะมันผ่านไป 15 ปีแล้ว ไม่มีคนรู้เพราะเราไม่ได้พูดถึง เขาก็อธิบายว่าเขาเป็นแบบนี้ๆ เราก็โอเค ไม่มีอะไร มันผ่านไปแล้วเนอะเชื่อมั้ยตอนเราดีกัน เราไม่เคยเท้าความเหมือนที่เราพูดเมื่อกี้เลย เราจะไม่พูดเรื่องอดีตว่าเคยทะเลาะกันเรื่องอะไร คิดแค่ว่าถ้าถึงจุดที่เราดีกันแล้ว อดีตไม่ต้องพูดถึง เราสู้มาพูดในรายการและทะเลาะในรายการดีกว่า (หัวเราะ)
แหม่มร้องไห้ บอกว่ารวบรวมความกล้าในการเดินไปหาพี่โก้ แสดงงว่าที่ผ่านมารู้สึกผิดมาตลอดเหรอ?
แหม่ม : ไม่เลย ไม่รู้สึกผิดเลยค่ะ (หัวเราะ) แต่พี่แค่รู้สึกว่ายังไม่ถึงเวลา พี่ก็ไม่ได้เตรียมตัวมา แต่เห็นหน้าพี่โก้แล้วก็คิดว่าวันนี้แหละ ที่จะเดินไปหาแล้วบอกว่าหนูขอโทษ มันมาเองนะ เป็นความรู้สึกว่าวันนี้ไม่ฝืนใจ รู้สึกว่าขอโทษได้ ไม่ต้องมีใครบังคับ ไม่ต้องมีใครพูดอะไรเลย อยากเดินเข้าไปกอดเขา คิดถึงเขาจริงๆ
หวั่นใจมั้ยเขาอาจไม่คุยกับเรา?
แหม่ม : ไม่ พี่มั่นใจว่าเขารักพี่
ผ่านไป 15 ปี อยู่ๆ มาขอโทษ ให้อภัยเลย หรือในใจรู้สึกยังไง?
โก้ : ไม่หรอก เป็นคนมีมูลนิธิเป็นของตัวเอง พาคนไปบวชเณรที่ประเทศอินเดีย เป็นคนที่ช่วงหลังฝักใฝ่ธรรมะ ก็เลยรู้สึกว่าการให้อภัยที่ดีที่สุดคือการอภัยทาน (หัวเราะ) ไม่มีศัตรูดีที่สุด แล้วมันผ่านไปนานมากแล้ว จนเรามาเจอแบบแยกแยะกันได้ ไม่ต้องมาเคลียร์อะไรกัน แต่วันนั้นในเมื่อเขาอยากเคลียร์ คุยกัน มีคุณนุ๊กเป็นตัวกลาง ที่อยากให้เพื่อนดีกัน เพราะเขาทำตัวลำบาก ไม่สามารถรวมกัน 3 คนได้
ประโยคแรกที่คุยกัน?
โก้ : ประโยคร้องไห้แล้วคุยกันนี่แหละ
แหม่ม : แต่ก็พูดไปเรื่อยเปื่อย
โก้ : พูดจนคนหลังเวทีงง จนคอนเสิร์ตเลิก เขากลับบ้านกัน มันก็ยังนั่งคุยอยู่อย่างนี้
ปลดล็อกทั้งคู่?
โก้ : ไม่ได้ปลดล็อกซะทีเดียว การที่เพื่อนทะเลาะกันแล้วจะกลับมาดีกัน มันไม่ใช่แค่ขอโทษแล้วจบนะ บางทีต้องสะสางด้วยเวลา นุ๊กด้วยคนกลาง ก็พยายามจับมากินข้าวด้วยกันเดือนละหนึ่งครั้ง เราก็ทำแบบนี้สม่ำเสมอร่วมปี โดยมีตติ้งแรกคือวันเกิดแหม่ม เราเตรียมของขวัญวันเกิดให้เขา ขณะเดียวกันเขาก็เตรียมของขวัญย้อนหลังวันเกิดให้เรา จริงๆ แหม่มเป็นคนน่ารักมากเลยนะ พูดแล้วอยากร้องไห้ แหม่มน่ารักมาก นิสัยดีมาก เป็นคนที่แคร์สุดๆ เตรียมของมาให้ ทำโน่นทำนี่ ของที่เขาประดิษฐ์แฮนเมด เป็นคนรายละเอียด แต่เขาเป็นคนอารมณ์อาร์ติสต์ เลิกทำแล้วไม่มีอารมณ์ เขาก็จะไม่เฟก ก็เลิกทำไปเลย
แหม่ม : ไม่รักษาน้ำใจใครเลย
เป็นคนซื่อสัตย์กับความรู้สึก?
โก้ : แต่ก็ไม่ควรทำบ่อย (หัวเราะ)
พี่โก้มีของขวัญเซอร์ไพรส์พี่แหม่ม?
แหม่ม : เฮ้ย พี่โก้ ตุ๊กตาหนู หนูทำผมเอง หนูให้พี่โก้เหรอ
โก้ : แหม่มให้ 15 ปีที่แล้ว แหม่มเขาถักเอง เวลาของขวัญวันเกิด แหม่มขัดนิตติ้งผืนเบ้อเริ่มให้ ผ้าพันคอให้ ถักเนคไทให้ เรียกว่าเลิกคบไป 15 ปี เราก็ขาดของพวกนี้ไปเยอะเลย ไม่ได้ของอะไรอีกเลย อันนี้เอามาให้ดู แต่ล่าสุดเขาก็เอาลาบูบู้มาให้เรา แกะแล้วติดกระเป๋าเราเลย กลัวเราเอาไปให้คนอื่นต่อ (หัวเราะ)
แหม่ม : ไม่คิดว่าเธอจะเก็บไว้ เธอเก็บไว้อย่างดีเลย รู้สึกดี พี่รักพี่โก้มากๆ เลย ไม่ว่าพี่โซแซดแบดถั่วขนาดไหน ต่อให้ติสต์คนอื่นไม่เข้าใจขนาดไหน พี่โก้จะเป็นคนออกรับแทนพี่ตลอดเวลา ตามล้างตามเช็ดทุกอย่าง พี่เกเรแค่ไหน พี่ทำอะไรแค่ไหน พี่โก้เอ็นดูและเมตตา เข้าใจพี่ เป็นคนเดียว มีนุ๊กที่เข้าใจพี่อีกคน แต่พี่โก้ ต่อให้เขาไม่เข้าใจ เขาก็จะพยายามเข้าใจ ใช้คำนี้ดีกว่า
พี่โก้เลือกยอมพี่แหม่ม?
แหม่ม : พี่โก้เขารักพี่
จุดเริ่มต้นความสนิท มาได้ยังไง แอบรักกัน แอบคบกันเหรอ?
แหม่ม : ไปงานอะไรสักอย่างไม่รู้ พอเจอปุ๊บ พี่โก้น่ารักมาก ตอนนั้นเพิ่งออกเทปเอง ก็คิดในใจฉันจะจีบ
หนิง : ทำไมเหมือนฉันเลย ฉันเจอเขาตอนออกอัลบั้ม ฉันไปเดินตามจีบเขาที่สยามสแควร์ พี่โก้เขาเรียกไปรีเสิร์จ เขาเป็นศิลปินดังมาก เขาหันมาพูดกับเราว่า ให้พี่ช่วยอะไรมั้ยครับน้อง มันคือป๊อปปี้เลิฟครั้งแรกในชีวิต เขาดังมาก โหย เรามือสั่น ก็คิดว่าฉันต้องไปอยู่แถวนั้นบ่อยๆ เขาจะต้องมาแถวนี้อีกแน่ๆ ก็พยายามแทรกซึมตัวไป
แหม่ม : ตอนนั้นเจอพี่โก้ ก็คิดว่าจะจีบคนนี้ ก็เข้าไปเนียนๆ เป็นเพื่อน แต่พี่ชอบพี่โก้ ชอบเลยแหละ แต่ไม่บอกว่าชอบจะจีบ เราก็เนียนไปปรึกษานั่นนี่ ไปหาที่บ้านไปกินก๋วยเตี๋ยวบ่อยๆ แล้วบางทีขอนอนค้าง พอนอนค้างเสร็จ เก็บเสื้อผ้ามานอน 3 วัน อีกวันนอนบ้าน อีก 3 วันมานอนใหม่
ไม่กลัวเหรอ ผู้หญิงหอบผ้ามานอนบ้าน?
โก้ : ตอนนั้นเรายังเด็กไง จริงๆ เราใสๆ แต่เรารู้สึกว่าชอบแหม่มตั้งแต่แรกเห็นเหมือนกัน ที่ชักกี้เนอะ เป็นงานเลี้ยงอะไรสักอย่าง รู้สึกว่าเขาเต้นสวย แว๊บแรกคือชอบลีลาเต้น เขาอาจจะเมาก็ได้ (หัวเราะ) เขาเต้นแล้วทำไมเป็นคนสนุกสนาน สมัยก่อนโก้ชอบลูกครึ่ง แหม่มเขาสวย ลูกครึ่ง เป็นคนนิสัยเหมือนผู้ชาย ลุยๆ พูดง่าย หลังรู้จักกัน เขาเป็นคนมีน้ำใจ เป็นคนที่ทำกับทุกคน ยกเว้นเรา (หัวเราะ) ก็คิดว่าเราน่าจะเป็นคนพิเศษในสายตาเขา ตอนนั้นระดับแท่นชาร์ตคือเขาขึ้นอันดับหนึ่งในใจ จนเพื่อนบอกว่าแหม โก้อะไรๆ ก็แหม่มมาก่อนเสมอ
รู้สึกสปาร์กจริงๆ ฟีลแฟนบ้างมั้ย?
โก้ : ให้สุภาพสตรีพูดดีกว่านะครับ เราเป็นผู้ชายพูดไปจะดูไม่ดี
แหม่ม : เราสองคนเคยประกาศคบกันเป็นแฟน หน้าหนึ่งไทยรัฐมาแล้วนะคะ พี่รู้สึกแบบนั้นจริงๆ ว่าจะคบกัน แต่พี่ไม่รู้ว่าพี่โก้จริงหรือไม่จริง แต่คนสมัยก่อนจะหัวเราะพี่มากว่าตลก เราก็คบจริง แต่ไม่เกินเลย พูดเรื่องการมีอะไรกันนะ แค่คบกัน สนิทกัน รักกัน
โก้ : เขาคือสาววายที่มาก่อนกาล จะชอบฟีลพลิ้วไหวนิดนึง
ตอนนั้นพี่แหม่มก็รู้ว่าพี่โก้เป็น LGBTQ?
แหม่ม : เขาก็ไม่ได้ปิดบัง แต่เขาก็ไม่เคยพูดถึงผู้ชายให้พี่ฟัง ก็แสดงว่าเขาชอบพี่ (หัวเราะ)
ถ้าวันนั้นพี่โก้ตอบรับรักพี่ หรือแสดงอะไรให้รู้ พี่สองคนคบกันแน่?
แหม่ม : พี่ว่าคบกันแล้วแหละ แต่ไม่ได้พูดว่าเธอเป็นแฟนฉัน ฉันเป็นแฟนเธอ ทุกอย่างที่ทำก็สำคัญที่สุดกว่าทุกคน พี่ทำอะไรก็แล้วแต่ พี่โก้ให้อภัยเสมอ ใครว่าอะไรพี่ พี่โก้ออกรับให้แทนทุกอย่าง
พี่แหม่มย้ายของไปบ้านเขา นอนด้วยกันมั้ย?
แหม่ม : นอนด้วยกัน เตียงเดียวกัน ก็กอดกันนะ
โก้ : แต่แหม่มมาอยู่ด้วย ไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลานะ ต่างคนต่างนั่งคนละมุม มีมุมส่วนตัว รู้สึกว่าเราก็เคารพเวลาส่วนตัวของแต่ละคน ไปงานด้วยกัน ออกงานด้วยกัน แฮปปี้มากนะ
แหม่ม : นั่งกันคนละมุม ต่างคนต่างมีเวลาของตัวเอง ไม่ต้องมานั่งพูดอะไร
สมัยนั้นพี่โก้คบกับพี่แหม่มมั้ย?
โก้ : คบนะ เราพูดว่าตอนนั้นเราก็เป็นแฟนกันแหละ แต่ไม่ได้มาพูดว่าเราเป็นแฟนกัน ตอนนั้นอายุยังไม่ถึง 20 เลยมั้ง เป็นวัยรุ่น แต่มีความรู้สึกที่ดีให้กันมากๆ แหม่มเราก็รู้ว่าเขาเป็นสายทอมเหมือนกัน ดูห้าวๆ เราก็สายออกหวานๆ นิดนึง มันอาจเป็นเคมีที่ลงตัวกันพอดี มุมเราอ่อนแอเขาก็แข็งแรง มุมเขาอ่อนแอเราก็แข็งแรง แต่โดยรวมมันไม่มีคำจำกัดความว่าอะไรยังไง แต่เรารู้สึกว่าเรารักเขา อยากมีแต่สิ่งดีๆ ให้กันและกัน วันนี้เราเลยจะมาแถลงข่าว (หัวเราะ) เราเคยพูดครั้งเดียว
ตอนออกข่าวไปคนด่านักข่าวว่าเขียนข่าวอะไร เพราะสมัยนั้นคนรับเรื่องแบบนี้ไม่ได้???
โก้ : ก็ไม่เชิงด่า นักข่าวเขาเห็นว่าเราสองคนติดกันมาก ไม่ได้ติดกันเพื่อไปจิกคนอื่น เหมือนอยู่กันสองคน
ตอนเป็นแฟนกัน เลิกกันเพราะอะไร?
โก้ : ไม่เคยมีคำว่าเลิก และไม่เคยมีคำว่าเริ่มด้วย
สถานะตอนนี้เป็นอะไรกัน?
โก้ : เป็นมากกว่าเพื่อน เป็นพี่น้อง เป็นคนในครอบครัว เป็นความผูกพัน แต่ไม่ใช่เชิงชู้สาว ต่างคนต่างเป็นดักแด้กลายเป็นผีเสื้อกันไปหมดแล้ว แต่ครั้งนั้นก็มีความสุข
ค่อยๆ เฟดออกจากกันเหรอ?
แหม่ม : ไม่ได้เฟด เหมือนอยู่ไปสักพักนึงคบไปสักพักนึง มันก็เข้าใจกันไปเอง ว่าโอเคพี่โก้กับเราอาจจะไม่ใช่
พี่โก้ไม่เคยพูดเรื่องผู้ชายเพราะลึกๆ แคร์เขาอยู่หรือเปล่า?
แหม่ม : ลึกๆ เขากลัวฉันเสียใจ เขาจะไม่เคยเล่าเรื่องพวกนี้ให้ฟัง เพราะเขาเกรงใจฉัน
โก้ : ไม่หรอก จริงๆ ต้องบอกว่าพอเข้ามาปุ๊บ เขาจะเอาเรื่องของเขามาเล่าก่อน พอเราจะพูดเรื่องเราบ้าง เขาไปแล้วไง (หัวเราะ) สรุปยังไม่ทันได้ปรึกษาเลย เราก็ไม่ได้เล่า เพราะแหม่มเล่าเรื่องตัวเองก่อน เขาไม่ได้ฟังว่าเราจะเล่าเรื่องอะไร เรารู้เรื่องเขาทุกเรื่อง เพราะเขาเล่าให้เราฟังทุกเรื่อง
รู้มั้ยพี่โก้มีแฟนกี่คน?
แหม่ม : ไม่รู้ ไม่อยากรู้ รู้แล้วเดี๋ยวไปยุ่งวุ่นวาย (หัวเราะ) ตอนนี้เป็นเพื่อนกัน เป็นครอบครัว
โก้ : เป็นเพื่อนที่กลับมาดีกัน และรักกันมากกว่าเดิม
มีช่วงนึงพี่แหม่มโดนทำของหนักมาก จริงมั้ย ที่ช่วงนึงพี่แหม่มดูเพี้ยนๆ?
แหม่ม : ได้ยินจากวงในมาแน่ๆ ช่วงกำลังเพี้ยนๆ ใส่พี่โก้
โก้ : แหม่มเขาป่วงไปป่วงมา ดูไม่เหมือนแหม่ม ใครจะคบก็คบ มันไม่ไหวจริงๆ มันป่วงมาก
แหม่ม : อาการพี่ผิดปกติ ตอนนั้นเลิกคบกับทุกคนไปแล้ว ไม่เหลือใคร พี่รู้สึกว่าความเหวี่ยงของเราไม่ใช่สิ่งผิดปกติสำหรับเรา แต่อาการผิดปกติคือจะมีช่วงที่หัวใจเต้นแรงเหมือนใจจะหลุดออกมาจากอก ไม่ได้โมโห แต่ไม่สบายตัว อยากไปหาตลอดเวลา
หาคนที่ทำ?
แหม่ม : ใช่ เกือบตาย เพี้ยนมากเลยตอนนั้น
รู้แน่ๆ โดนทำของจากสิ่งไหน?
แหม่ม : น้องคนนึงบอกว่าพี่โดนทำของ เพราะพี่มีอาการผิดปกติ น้องบอกว่าพี่โดนแน่ๆ แต่ไม่กล้าพูด เลยพาหนูไปสถานที่นึง เหมือนสำนักๆ นึง แล้วนั่งสวดทุกวันพระ เขาบอกแล้วแต่คน ถ้าหมดกรรมเร็วก็หายเร็ว บางคนอาจหายช้าเป็นปี ของพี่ออกไปช่วงวันพระใหญ่ ไม่กี่เดือน
อาการที่ออกไปแล้วโดนทำของ?
แหม่ม : เวลาคนอื่นไปทำก็จะมีพวกตะปูออกมา แต่ของพี่ไม่มีอาการนั้น เป็นอาการเหมือนเวลาสวด เท้าพี่เวลาตั้งอยู่ จะเหมือนคนเต้นบัลเล่ต์ ฝืนเท่าไหร่ก็ไม่ขึ้น เป็นคนไม่ค่อยมีสติ พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่พอเขาบอกว่าออกไปแล้ว ซึ่งพี่ก็ไม่รู้สึกว่าออก แต่ไม่มีอาการแบบนั้นอีกเลย มีสติมากขึ้น อธิบายไม่ถูก กลับมาเป็นคนปกติ แล้วก็ไม่อยากไปหาคนนั้นแล้ว รู้สึกว่าชอบเข้าไปได้ยังไง
Advertisement