"อาไท กลมกิ๊ก" จากตลกสู่นักบู๊ ศิษย์คนสุดท้ายของ "พันนา ฤทธิไกร"
จากนักแสดงเด็กวัยเพียง 3 ขวบ จนมาโด่งดังจากบท "อาไท" ทำให้กลายเป็นที่มาของชื่อในวงการว่า "อาไท กลมกิ๊ก" เมื่อ 10 กว่าปีก่อน ล่าสุดรายการ ต้มยำอมรินทร์ ได้เชิญ อาไท มาคุยอัปเดตผลงาน เรื่องราวชีวิต หลังจากห่างหายจากหน้าจอไป ซึ่งเจ้าตัวได้เผยว่าช่วงนี้กำลังมุ่งมั่นตั้งใจผลิตน้ำเก๊กฮวย ที่ได้รับสูตรมาจากคุณพ่ออย่างจริงจัง ส่วนงานในวงการบันเทิงยังรออยู่ ซึ่งมีบทหนึ่งที่อยากเล่นอยากจริงจัง เพราะอยากนำสิ่งที่ "อาพันนา ฤทธิไกร" ได้ถ่ายทอดให้ตัวเองไว้นั่นก็คือ "บทบู๊" หลังซุ่มเรียนมากว่า 4 ปี
คอนเทนต์แนะนำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "เพชร กรุณพล" เปิดใจรักต่างวัย 21 ปี ไม่เป็นปัญหา คนนี้รักจริงหวังแต่ง!
- "อร อรอนงค์" คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวหัวใจสุดแกร่ง เผยชีวิตนี้ที่เหลืออยู่ ขอทุ่มเทเพื่อลูก
- "ชมพู่ ก่อนบ่าย" เผยหลังมีลูก ชีวิตคู่ไม่เหมือนเดิม!!!
- เกือบตายมาแล้ว! "ไอซ์ ศรัณยู" เผยประสบการณ์เที่ยวทั่วโลกที่ไม่มีวันลืม
- Tiktok พาดัง! "สาม-ปริม-แจ็คเด้" ศิลปินน้องใหม่จาก ค่าย "ลายไทย เรคคอร์ด"
- ดูเพลิงนางย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี ที่นี่
ถาม ทำไมมาขายน้ำเก๊กฮวย
อาไท : เป็นสูตรของพ่อครับ เพราะว่าพ่อได้สูตรน้ำเก๊กฮวย ก่อนที่จะมีผม เขาไปอ้อนวอนขอสูตรจากป้าคนหนึ่งที่เยาวราช ดอกเก๊กฮวยมีหลายสายพันธุ์ ซื้อดอกเก๊กฮวยมาต้ม มีหลายวิธีการ ด้วยปริมาณของน้ำด้วย สูตรนี้ที่พ่อไปขอเขามา กว่าจะได้มาก็ใช้เวลาไปช่วยเขาที่ร้านเป็นปีๆ เหมือนกัน ถึงยอมให้สูตร
ถาม ในช่วงโควิดที่ผ่านมาทำน้ำเก๊กฮวยไปแจกด้วย
อาไท : ทำแจกครับ มีพี่ๆ ในวงการหลายๆ คนช่วยสมทบทุนให้เราทำไปแจก
อาไท : ตอนนี้ที่เราทำขายคือ ที่ตลาดสหกรณ์ 3 และก็กำลังคุยกับหลายๆ ที่เหมือนกัน
ถาม จุดกำเนิดและเอกลักษณ์ของ อาไท คือ การเล่นมุขแบบตลกผู้ใหญ่
อาไท : ด้วยความที่ผมดูลุงโย่งเยอะ ตอนเด็กๆ พูดอะไร เราจะเป็นลุงโย่งหมด คนเลยให้ความสนใจว่าคนนี้เป็นเด็กที่เล่นเป็นคนแก่ พี่ๆ ในวงการเขาเลยชอบที่เราเล่นเป็นคนแก่ไม่หยาบคาย ตั้งแต่ 3 ขวบเลยที่เราเล่นมาเพื่อนำเงินมาดูแลครอบครัวตั้งแต่ตอนนั้นเลยครับ
ถาม เคยเจอปัญหาไหมเวลาเราเล่นตลกแล้วไม่ตลก
อาไท : เคยครับ อันนั้นทำให้เราต้องทำการบ้านมากขึ้น เป็นช่วงที่เราเข้ามาทำงานในวงการทีวีช่วงแรก เพราะเวลาที่เราอยู่ในวงการตลกจะมีคนรับส่ง แต่พอมาทีวี เราเล่นเกมโชว์ เจอพี่ๆ นักแสดงซึ่งเขาเล่นละครเก่ง เขาไม่ต้องมีคนรับ ส่ง เล่นเอง ตบเองได้ด้วยตัวเอง เราก็แบบทำไง เราไปเล่นแล้วคนก็ไม่เข้าใจ ช่วงนั้นทำการบ้านหนักมาก รายการเขาเล่นกันยังไง อย่างผมเล่นตลกบนเวที ผมก็จะดูตลกบนเวที อย่างผมเข้ารายการ ผมก็จะดูรายการให้เยอะขึ้น
ถาม แต่ใครจะเชื่อว่า อาไท ที่เติบโตมาในเส้นทางตลก แต่ความใฝ่ฝันของ อาไท คืออยากเป็นนักแสดงสายบู๊
อาไท : ใช่ครับ ชอบเล่นบู๊มาก พอเริ่มเป็นตลกแล้ว เราก็มุ่งไปทางตลกอย่างจริงจัง แต่ใจของเราจริงๆ เราชอบบู๊มาก เวลาดูหนังเราจะดูเป็นหนังแอ็คชั่น ช่วงนั้นเรามีแผ่นของ เฉินหลง เยอะมากเลย เป็นความใฝ่ฝันที่ชอบ
ถาม เพราะชอบมากถึงกับไปเรียนการแสดงคิวบู๊เลย
อาไท : ใช่ครับย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ไปเรียนกับอาพันนา เขาจะสอนวิธีการต่อยยังไง ล้มยังไง วิธีการเชฟร่างกาย ทางอาพันนา เขามีทีมมาสอน มีพี่ๆ สตั๊นท์แมนที่จบครูพละมา หรือ จบยิมนาสติกมา เขาก็มาสอนเราครับ การที่เราเรียนสตั๊นท์แมน คนตัวใหญ่ก็สามารถที่จะเล่นได้เรียนได้ครับ อยากให้คนตัวอย่างผม ตัวใหญ่ ลองมาออกกำลังกายกันดู มันก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เราสามารถทำได้เหมือนกัน
ถาม เราเคยบาดเจ็บไหมกับการบู๊
อาไท : ไม่เคยครับ แต่ถ้าฟกซ้ำดำเขียว เป็นเรื่องปกติ
ถาม เราใช้เวลานานไหม กว่าจะเก่งได้ขนาดนี้
อาไท : นานครับ ผมใช้เวลา 4 ปี
ถาม แต่เห็นเก่งแบบนี้ แต่ไม่มีคนจ้างให้เล่นบู๊เลย เพราะว่าค่าตัวแพงมาก
อาไท : ไม่เลยครับ เราก็รับค่าตัวนักแสดง แต่ก็ไม่มีใครมาจ้างเรา เขาบอกว่าจ้างสตั๊นท์ธรรมดาดีกว่า คงเป็นเพราะเราคิดค่าตัวแบบนักแสดงด้วยครับเลยไม่มีใครจ้างเรา (ทำหน้าเศร้า) แต่จริงๆ ผมเป็นคนที่ชอบหาอะไรที่เพิ่มความรู้ความสามารถให้กับตัวเราเอง
ถาม ถามเรื่องงานมาเยอะแล้ว ถามถึงเรื่องหัวใจของอาไทบ้างดีกว่า เห็นว่าไปตามเฝ้าสาวที่สตูดิโอ ไม่รับงานเลยติดผู้หญิงใช่ไหม
อาไท : อันนั้น น่าจะเป็นเมื่อหลายเดือนที่ผ่านมาแล้วครับ ตอนนี้ไม่ได้ไปแล้วครับ ตอนนี้บู๊อยู่กับหม้อเก๊กฮวยครับ
อาไท : ตอนนี้โสดมากครับ สามารถไดเร็กไอจีมาได้ครับ ความรักตอนนี้ผมรู้สึกว่ายังไม่อยากมี อยากขอมีงานก่อนครับ ฝากพี่ๆผู้ใหญ่ด้วยนะครับ ไท ก็ยังคงรับงานทุกรูปแบบนะครับ นักแสดงก็ได้ ตลกก็ได้ พิธีกรก็ได้ ได้ทุกอย่างเลยครับ
Advertisement
