ครบรอบ 1 ปี "แอนโทเนีย โพซิ้ว" ตำแหน่งรองอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์ส 2023 ที่พาคนไทยมีความสุขและเข้าใกล้มงสามมากที่สุดบนเวทีมิสยูนิเวิร์ส ในรอบ 35 ปี
ครบรอบ 1 ปี ในฐานะ "รองอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์ส 2023" จากสายสะพายประเทศไทย ที่เกือบจะได้มง 3 กลับมาเป็นของขวัญให้กับคนไทยทั้งประเทศ สำหรับ "แอนโทเนีย โพซิ้ว" มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023 ผู้เป็นความหวังของแฟนนางงามไทยทั้งประเทศ ในการเข้าร่วมการประกวด มิสยูนิเวิร์ส 2023 ที่ประเทศเอลซัลวาดอร์ เมื่อ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ซึ่งตรงกับเช้าวันที่ 19 พฤศจิกายน 2566 ตามเวลาในประเทศไทย
ด้วยดีกรีอดีต Miss Supranational 2019 ตำนานมงแรกของไทย และศักยภาพที่แสดงให้เห็นอย่างประจักษ์แก่สายตาในการประกวด มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023 ทั้งเรื่องของภาษา โครงการ ทัศนคติ และอื่นๆ ทำให้แอนโทเนียกลายเป็นความหวังของแฟนๆ ชาวไทยอย่างไม่อาจปฏิเสธไม่ได้
แถมเมื่อเดินทางถึงเอลซัลวาดอร์ ยังเป็นคนแรกในบรรดาผู้เข้าประกวดที่กวาดกระแสพื้นที่สื่อทั่วโลกที่ติดตามทำข่าวการประกวดมิสยูนิเวิร์ส เป็นไวรัลคลิปจากการแนะนำตัวเป็นภาษาสเปน สื่อละตินรุมล้อมเรียกชื่อขอสัมภาษณ์ทุกครั้งที่ปรากฎตัว ยังรวมถึงเป็นขวัญใจคนเอลซัลวาดอร์ จนขึ้นแท่นเป็นตัวเต็งอันดับต้นๆ มีสิทธิ์คว้ามงกุฎจักรวาลมากที่สุดคนหนึ่งในกลุ่มผู้เข้าประกวด
ตลอดการเก็บตัวระหว่างการประกวด แอนโทเนียไม่มีแม้แต่วินาทีไหนที่จะทำให้คนไทยรู้สึกหมดหวังในการได้มาของมงสาม จะกิจกรรมใดของกองประกวดไม่เคยเห็นแอนโทเนียหายออกไปจากเฟรมรูปที่ปรากฏออกมาทั้งจากของกองประกวด หรือแฟนๆ ที่ไปรอหน้างานแม้แต่ครั้งเดียว
อย่างรอบชุดประจำชาติ ที่ครั้งนั้นนำชุดเทพธิดาอาณาจักรอยุธยาหรือพระแม่ธรณี ออกไปสู่สายตาชาวโลก ก็ถูกเลือกลงหนังสือพิมพ์ชื่อดังของเอลซัลวาดอร์ ประจักษ์แก่สายตาแฟนนางงามทั่วโลก
วินาทีที่พิธีกรประกาศชื่อ แอนโทเนีย โพซิ้ว ไทยแลนด์ ยังดังก้องอยู่ในความรู้สึกของแฟนๆ ที่ติดตามชมการประกวดในช่วงเช้าวันนั้น ก่อนจะผ่านเข้าไปในรอบ TOP 20 คน เพื่อเข้าไปต่อในรอบชุดว่ายน้ำ
เสียงดีใจของแฟนนางงามดังอย่างท่วมท้นอีกครั้งเมื่อไทยแลนด์ถูกเรียกเข้าไปในรอบ TOP 10 ผ่านด่านเข้าไปเดินในชุดราตรี ที่วันนั้นแอนโทเนียมาในชุด Stars in The Universe จากแบรนด์ Myriad Grand Monde
แรงบันดาลใจจากประกายแสงแห่งดวงดาวที่อยู่บนท้องฟ้าทั่วทั้งจักรวาล นำมาประดับอยู่บนเรือนร่างสตรีผู้เป็นความหวังให้กับทุกคนบนโลกใบนี้ ให้เธอได้เปล่งแสงความงามอันล้ำค่า และทรงพลังออกมาให้ทุกคนได้เห็นความงามที่แท้จริงในตัวของเธอ Annthonia Porxild อย่างไม่มีวันสิ้นสุด
สวยสะพรึงต่อหน้าต่อตาแฟนๆ นางงาม ทั้งในฮอลล์และที่รับชมผ่านทางช่องทางออนไลน์
เสียงแห่งความดีใจในรอบ TOP 10 ว่าดังแล้ว วินาทีที่ชื่อของไทยแลนด์ถูกเรียกขึ้นเข้าไปในรอบ TOP 5 เพื่อเข้าไปตอบคำถาม กลายเป็นเสียงแห่งความดีใจพร้อมน้ำตาของแฟนๆ ชาวไทยที่เกาะติดหน้าจอชมการประกวดอย่างหนัก เพราะสิ่งนี้แฟนๆ ต่างรู้ดีว่าคือด่านหินที่ตัวแทนสาวไทยเข้าไปถึงได้ยากที่สุด
ถ้าสามารถพูดกับนักเรียนในห้องที่เต็มไปด้วยการกลั่นแกล้งทางออนไลน์ คุณจะพูดอะไร? คำถามจาก "Avani Gregg" อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังบน TikTok วัย 20 ปี หนึ่งในคณะกรรมการการประกวดในปีนั้นที่แอนโทเนียจะต้องตอบ
"ฉันจะบอกพวกเขาว่า อย่าฟังสิ่งที่คนอื่นพูด เพราะในที่สุดทุกคนมีสิทธิ์ มีความคิดเห็นของตัวเอง แต่ขึ้นอยู่กับเราว่าเราจะตอบสนองอย่างไร ให้เสียงของเรายืนหยัดเพื่อสิ่งที่ถูกต้อง และเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เราอยากเห็นในโลกด้วยการเป็นผู้นำ อย่าฟังคำพูดที่เกลียดชัง เพราะสิ่งนั้นไม่ได้กำหนดให้เราเป็น แต่สิ่งที่กำหนดเราคือวิธีที่เรารับมือและจัดการปัญหา ขอบคุณค่ะ" คำตอบจากแอนโทเนียพร้อมเสียงปรบมือที่ดังสนั่นหลังตอบเสร็จ
เสียงเชียร์ดังกระหึ่มจากไทยไปถึงเอลซัลวาดอร์ เมื่อแอนโทเนียสามารถฝ่าดงสาวงามละตินเข้าไปถึงรอบ Top 3 คนสุดท้ายได้สำเร็จพร้อมกับสาวงามจากนิการากัวและออสเตรเลีย
ก่อนจะได้ไปตอบคำถามในรอบ 3 คนสุดท้าย จากคำถามเดียวกันทั้งสามสาวงามที่ถามว่า
ถ้ามีโอกาสเลือกใช้ชีวิตเป็นผู้หญิงคนอื่นแทนตัวเองหนึ่งปี จะเลือกใครและเพราะอะไร?
แอนโทเนีย ตอบว่า "ฉันจะเลือก มาลาลา ยูซาฟไซ เพราะฉันรู้ถึงการต่อสู้ที่เธอต้องผ่านมา เพื่อไปถึงจุดที่เธออยู่วันนี้ เธอต้องต่อสู้เพื่อการศึกษาของสตรี และต่อสู้เพื่อให้ผู้หญิงทุกคนสามารถยืนหยัดอย่างแข็งแกร่ง เป็นผู้ทำให้สิ่งที่ไม่ดีกลับสว่างสดใส และนำทางด้วยการเป็นแบบอย่าง ถ้าฉันสามารถเลือกใครได้ คนนั้นคือเธอ ขอบคุณค่ะ"
ก่อนวินาทีแห่งความลุ้นสุดตื่นเต้นจะมาถึง เมื่อพิธีกรของงานอย่าง 3 สาว Jeannie Mai , Olivia Culpo และ Maria Menounos ประกาศชื่อออสเตรเลีย ได้ตำแหน่งรองอันดับ 2 ส่งผลให้แอนโทเนียได้เข้าไปจับมือลุ้นมงกับ "เชย์นิส ปาลาซิโอส" สาวงามจากนิการากัว
และท้ายที่สุด กลายเป็น เชย์นิส ปาลาซิโอสได้ตำแหน่งมิสยูนิเวิร์ส 2023 ไปครอง
ท่ามกลางความผิดหวัง เสียดาย เสียใจ ของแฟนๆ ชาวไทย ที่สายสะพายของไทยไม่ถูกเลือก ก่อนที่แอนโทเนีย จะโพสต์ข้อความในอินสตาแกรม ขอโทษที่ไม่สามารถนำมงกุฎมาได้ และขอบคุณทุกความรักและการสนับสนุนจากแฟนๆ ที่ส่งให้เธอได้มาถึงวันนี้
“No words can describe the way I’m feeling right now. I put my all on the stage tonight for Thailand, for everyone who believed in me and was a part of my journey. I’m sorry I couldn’t bring the crown home for us, and I am eternally grateful for all of the love and support I have received throughout this journey. Without your support, I wouldn’t be standing here today. As I was once told, it’s not the crown and sash that is most important- but it’s what you do with the platform you have that matters most.
I will continue to work towards my dreams and hope you will all come along with me on whatever path we go from here. I hope I can continue to be a guiding light to anyone who has a dream, a dream that they feel is impossible. Dare to take that first step because you never know where that path will take you and who you will meet along the way. I love you all from the bottom of my heart. Thank you for everything.”
"ไม่มีคำพูดใดสามารถอธิบายความรู้สึกของฉันตอนนี้ได้ ฉันปลดปล่อยทุกอย่างบนเวทีคืนนี้เพื่อประเทศไทย เพื่อทุกคนที่เชื่อในตัวฉัน และเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางของฉัน ฉันขอโทษที่ไม่สามารถนำมงกุฎกลับบ้านให้เราได้ และฉันรู้สึกขอบคุณตลอดไปสำหรับความรักและการสนับสนุนทั้งหมดที่ฉันได้รับตลอดการเดินทางครั้งนี้ หากปราศจากการสนับสนุนของคุณ ฉันคงไม่ได้ยืนอยู่ที่นี่ในวันนี้ อย่างที่ฉันเคยบอกไป ไม่ใช่มงกุฎและสายสะพายที่สำคัญที่สุด แต่สิ่งที่คุณทำกับแพลตฟอร์มที่คุณมีนั้นสำคัญที่สุด
ฉันจะทำงานต่อไปเพื่อมุ่งสู่ความฝันของฉัน และหวังว่าทุกคนจะร่วมเดินทางไปกับฉันในทุกเส้นทางที่เราจะไปจากที่นี่ ฉันหวังว่าฉันจะยังคงเป็นแสงสว่างนำทางให้กับทุกคนที่มีความฝัน ความฝันที่รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ กล้าที่จะก้าวแรกนั้น เพราะคุณไม่มีทางรู้ว่าเส้นทางนั้นจะพาคุณไปที่ไหน และคุณจะพบกับใครบ้างระหว่างทาง ฉันรักคุณทุกคนจากก้นบึ้งของหัวใจ ขอบคุณสำหรับทุกสิ่ง"
แอนโทเนียเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2566 มีแฟนๆ นางงามไปรอต้อนรับ รองอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์ส 2023 กลับบ้าน จนสนามบินแทบแตก
"ขอบคุณทุกคนที่มารับแอนกลับมาบ้าน ตื่นเต้นมากที่มาเจอทุกคน มาฉลองโมเมนต์นี้กับทุกคน เป็นโมเมนต์ที่แอนทำได้ดีที่สุด ไม่ได้เพื่อตัวเอง แต่เพื่อประเทศของเรา และเป็นตัวอย่างให้คนเห็นว่า ถ้าเรามีความฝัน ถ้าเราพร้อมที่จะสู้ สเตปแรกเราต้องมีความมั่นใจในตัวเองและความสามารถตัวเอง เราไม่ต้องเปลี่ยนโลกใบนี้ภายใน 1 วัน แต่ถ้าเราร่วมมือและมั่นใจในตัวเอง มีความฝันไปด้วยกัน จากจุดนี้หวังว่าทุกคนจะร่วมมือและจับมือไปด้วยกัน ขอให้ทุกคนไปกับแอนนะคะ"
แม้จะพลาดมงสามในวันนั้น แต่จนถึงวันนี้ ชื่อของ แอนโทเนีย โพซิ้ว ก็ยังคงเป็นชื่อตัวแทนสายสะพายไทยแลนด์ที่แฟนๆ ภาคภูมิใจอยู่เสมอ ในฐานะรองอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์ส 2023 ในรอบ 35 ปี และเป็นความสุขของแฟนๆ ชาวไทยที่ได้ลุ้นสุดตัวกับการดูมิสยูนิเวิร์สในรอบ 8 ปี หลังไทยเปิดประตูเวทีจักรวาลได้อีกครั้งจากปีของ "แนท อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์" ที่ทำให้ประเทศไทยกลับไปยืนแถวหน้าของฝั่งเอเชียได้อีกครั้ง จากการผ่านเข้าถึงรอบ 10 คนสุดท้ายได้ในปี 2015 และทำให้ประเทศไทยถูกจับตาและฝ่าด่านเข้ามารอบลึกๆ ได้เรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้
Advertisement