Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ชาล็อต เผยกลไกมิจฉาชีพหลอกเงินสุดเนียน ยอมรับแพนิคจนต้องสูญเงิน 4 ล้าน

ชาล็อต เผยกลไกมิจฉาชีพหลอกเงินสุดเนียน ยอมรับแพนิคจนต้องสูญเงิน 4 ล้าน

10 ธ.ค. 67
17:13 น.
|
346
แชร์

ชาล็อต ออสติน นางงามในสังกัด Miss Grand Thailand เผยกลไกมิจฉาชีพหลอกเงินสุดเนียน ยอมรับกลัวและแพนิค จนต้องสูญเงิน 4 ล้าน

ชาล็อต ออสติน นางงามในสังกัด Miss Grand Thailand ออกมาแถลงข่าวพร้อมกับ บอสณวัฒน์-ณวัฒน์ อิสรไกรศีล หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอน 4 ล้านบาท พร้อมบังคับวิดีโอคอล 24 ชั่วโมง ตามที่ถูกนำเสนอข่าวก่อนหน้านี้

โดยชาล็อต ได้เผยกลไกของแก๊งมิจฉาชีพ ที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ DSI เพื่อตรวจสอบคดีฟอกเงินที่มีชื่อของตนเข้าไปเกี่ยวข้อง พร้อมยอมรับว่าแพนิคและกลัว จึงโอนเงินเพื่อให้ตรวจสอบ โดยหวังว่าถ้าเป็นหน่วยงานจริง ยังไงก็ได้เงินคืน

มีเบอร์แปลกโทรเข้ามาค่ะ ซึ่งไม่ใช่เป็นเบอร์บุคคล นึกว่าเป็นเบอร์หน่วยงานก็เลยรับสาย ซึ่งปกติจะไม่ค่อยรับเบอร์แปลกอยู่แล้ว แต่ว่าวันนั้นมีการไปทำธุระส่วนตัวแล้วทิ้งเบอร์ให้กับทางร้านเอาไว้เพื่อขอใบกำกับภาษี พอเขาโทรมาก็นึกว่าทางร้านโทรมา

เขาแจ้งชื่อตามด้วยยศต่างๆ แล้วบอกว่าหนูมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงิน ของนายศรัทธา ที่เคยเป็นข่าวเมื่อช่วงสิงหาคม หนูก็เลยแสดงความบริสุทธิ์ใจโดยการคุยกับเขาต่อเพื่อบอกว่าหนูไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่ได้รู้เรื่องอะไรพวกนี้เลย เขาก็อธิบายมาว่านายศรัทธาบอกว่าหนูได้มีการขายบัญชีให้กับเขาและเขาโอนเงินมาให้หนูทุกเดือน เดือนละ8 แสน ซึ่งหนูก็บอกว่าหนูไม่มีเงินส่วนนี้สามารถไปเช็คได้เลย ก็คุยเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าเราไม่ได้ทำจริงๆ เขาก็ให้หนูกดโค้ดๆ ในโทรศัพท์เพื่อจะทำการโอนสายไปให้ ตร. อีกท่านหนึ่ง แล้วเขาก็บอกว่าเราขอไลน์ไว้ได้ไหม ขอวิดีโอคอลไลน์เพื่อใช้ภาพและเสียงตรงนี้ในชั้นศาล เพื่อทำการฟ้องนายศรัทธา

บอสณวัฒน์ เสริมต่อว่าหลังจากกดโค้ดโทร สัญญาณโทรศัพท์จะหายไปเลย ไม่สามารถมีใครโทรหาได้ เพราะว่ามันเป็นโค้ดลับที่ตัดการสื่อสาร อันนี้เป็นเทคโนโลยีของมิจฉาชีพ โค้ดไม่ใช่เป็นรหัสลับในการตัด แต่เป็นโค้ดเพื่อบล็อกการใช้โทรศัพท์

ชาล็อตเล่าต่อว่า กดโค้ดนี้แล้วเขาบอกว่าจะมีการตาม GPS เพราะฉะนั้นอยู่ตรงไหนให้อยู่ตรงนั้น ซึ่งตอนนั้นหนูอยู่บนรถกำลังจะมา MGI เพื่อไลฟ์งาน ก็เลยไม่สามารถมาได้ เพราะเขาบอกว่าห้ามบอกใครอันนี้คือความลับราชการที่กำลังตามคดีอยู่ ถ้าหนูบอกคนอื่น คนที่บอกจะโดนไปด้วย เราก็ไม่อยากให้คนอื่นเดือดร้อนก็เลยยอมคุยกับเขา ให้ข้อมูลเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าเราไม่ได้เกี่ยวข้องจริงๆ

เขาบอกว่าตอน 1 ทุ่ม จะทำการออกหมายจับถ้าเราไม่ให้การยืนยันว่าเราคือผู้บริสุทธิ์ หนูไม่อยากให้ชื่อเสียงตัวเองเสียหาย ก็เลยยอมที่จะคุยกับเขาต่อ เขาบอกว่าถ้าไม่ยอม จะแจ้งจับแต่ถ้ายอมเราจะทำการคืนเงินภายใน 15-30 นาที หลังทำการตรวจสอบแล้ว หนูก็เลยโอนเงินไปรอบแรก 2 ล้าน ก็รอตามที่เขาบอก 15-30 นาที เขาก็บอกว่ายังประชุมอยู่นะ ต้องเอาเรื่องไปให้ผู้บังคับบัญชาตรวจสอบ ซึ่งที่โทรมาคือ DSI ค่ะ ก็เลยเชื่อว่ามันคือความลับราชการจริงๆ ที่เราไม่สามารถบอกใครได้ ก็เลยไม่ได้บอกไม่ได้แจ้งใคร

ชาล็อตกล่าวต่อว่า เขาบังคับว่าห้ามวางสาย ถ้าวางสายเมื่อไรจะส่งเจ้าหน้าที่มาจับกุมเข้าฝากขังทันที เราก็ยอมรับว่ากลัวบวกกับแพนิคด้วย เลยทำอะไรไม่ถูกก็ทำตามที่เขาแจ้งมา เพราะเรานึกว่าเป็นความจริงก็เลยบอกข้อมูลต่างๆ และทำให้เขาเชื่อว่าเราคือผู้บริสุทธิ์จริงๆ เลยไม่ได้นึกไปถึงว่าเป็นมิจฉาชีพ อีก 2 ล้านโอนไปตอนเที่ยงคืนที่เป็นวันใหม่ค่ะ จากที่โอนไป 2 ล้านแรก ตอนค่ำก็วิดีโอคอลยาวๆ เลย แต่ไม่ได้คุยตลอดเวลา เวลาคุยเขาก็จะสอบถามว่าเคยมีคดีอะไรไหม

จนกระทั่งเที่ยงคืนเขาบอกว่าเดี๋ยวผู้การเขาจะพักเที่ยงคืนถึงเที่ยงคืนครึ่งนะ แล้วพอพักเสร็จเขาก็ออกมาเปิดกล้องบอกว่าตรวจสอบยอดแล้ว สามารถโอนยอดต่อไปให้เราตรวจสอบได้เลย หนูก็ทำการโอนไปเพิ่มอีก 2 ล้าน แบ่งโอนสองรอบ รอบแรก 5 แสน ตอน 00.12 น. แล้วก็ 00.15 อีก 1.5 ล้าน จริงๆ เขาจะเอาหมดบัญชีเลยค่ะ แต่เพราะทางธนาคารหนูสามารถโอนได้แค่ 2 ล้านต่อวัน มันก็เลยจบที่ 4 ล้าน

บอสณวัฒน์เสริมว่า เท่าที่น้องเก็บข้อมูลได้เป็น AI มันหมดลิมิตของการโอนต่อวันแล้ว มิจฉาชีพเขาก็รู้ว่าหลังเที่ยงคืนที่มันข้ามไปอีกวัน ก็โอนอีก 2 ล้าน แล้วว่ามันโอนอีกไม่ได้ แต่ก็พยายามให้เปิดวิดีโอคอลไว้อยู่ จนน้องไม่ไหวหลับไปตอนตีสาม กลับมาอีกทีตอน 9 โมงเช้า ก็ยังมาคอลกันอีกเพื่อจะรอให้หาวิธีการโอนเพิ่ม

ขณะที่ชาล็อตกล่าวว่าตนไม่ได้ปิดโทรศัพท์เลย ชาร์จแบตเอาไว้แล้ว มารู้ตัวตอนตีสามค่ะ เลขาพยายามหาข้อมูลจนไปเจอในกลุ่ม Facebook ว่ามีคนโดนเหมือนกัน คดีแบบนี้ แต่ตอนนั้นยังไม่วางเพราะยังไม่ได้ถ่ายหน้า ไม่ได้อัดหน้าจอไว้เป็นหลักฐาน ก็เลยรอตอนเช้าตอน 8 โมง พูดออกไปในไมค์เลยว่า "พี่คะประชุมเสร็จหรือยัง" ตอนนั้นคือรู้แล้วว่าเราโดนหลอกก็พยายามตะล่อมเขาให้เปิดกล้องให้หน่อยได้ไหม ตอนแรกเขาก็ไม่ยอม จนหนูบอกว่าช่วยเปิดกล้องยืนยันเพื่อความสบายใจหน่อยได้ไหม เขาก็บอกว่าคุณพูดแบบนี้คุณสามารถโดนอีกคดีได้เลยนะ พยายามข่มขู่ให้เรากลัว ซึ่งหนูยอมรับว่าหนูกลัวจริงๆ

ไม่เอ๊ะใจเลย เพราะว่าเขาส่งเอกสารมาให้หนูทางไลน์ ว่ามีหมายมาจริงๆ นะ มีหมายจับ หมายยุติและส่งมาสุดท้ายเป็นหมายที่บอกว่าจากผู้ต้องหาเป็นผู้เสียหาย เราก็เลยเชื่อเพราะว่ามันมีหลักฐานพวกนี้อยู่ว่ามันคือของรัฐจริงๆ

ข้อมูลถูกทุกอย่าง ชื่อ เลขบัตรประชาชน อีกอันหนึ่งมีบัญชีธนาคารหนึ่งซึ่งเขาบอกว่านายศรัทธาคืออดีตผู้จัดการแบงค์แบงค์หนึ่ง ที่อาจจะเป็นได้ว่าข้อมูลเราอาจจะรั่วไหลจากตรงนั้นหรือเปล่าเลยทำให้เรามาเป็นผู้ต้องหา หนูก็พยายามแจ้งว่าไม่ใช่และไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

พอเราเอ๊ะก็โทรหาธนาคารให้อายัดบัญชีชั่วคราว แล้วก็รีบไปที่ สน.สุทธิสาร ซึ่งทาง สน. เขาบอกว่าต้องนำเอกสารนี้ไปให้ทางธนาคารปลายทางที่เราได้โอนไป ตอนแรกหนูโทรไปตอนตี 5 เพื่อให้เขาระงับชั่วคราวให้ก่อน แต่ทางธนาคารบอกว่าไม่สามารถบอกข้อมูลตรงนี้ได้ ทำให้หนูกังวลว่าถ้าตอนนี้อายัดได้แล้ว มันยังอยู่สัก 2 ล้าน ก็ยังดี แต่ว่าไม่สามารถแจ้งได้ ตื่นเช้ามาก็เลยไปธนาคารปลายทาง ซึ่งเงินก็ไม่อยู่แล้ว

โอนไปทั้งหมด 3 ครั้งชื่อบัญชีเดียวหมดเลย คือ ปาริฉัตร แซ่เอี้ยว เขาบอกว่าเป็นบัญชีของพนักงานที่ตอนนี้ไม่ได้ทำงานในหน่วยงาน แต่คือบุคคลที่ถูกถอดยศ และอยู่กับเขาตลอดเวลา เพื่อให้คนโอนเงินเข้ามาตรวจสอบในบัญชีนี้ ณ ตอนนั้นไม่ได้เอ๊ะใจว่ามันมีความแปลกอะไร เพราะเขาบอกว่ามันคือหน่วยงานของรัฐที่ต้องการตรวจสอบเว้นทางการเงิน ว่าเงินที่หนูได้มาที่อยู่ในบัญชีเป็นเงินที่ขาวและถูกกฎหมายจริงๆ

บอสณวัฒน์พูดต่อว่า ผมว่ามันก็เป็นมิจฉาชีพปกติ แต่เพียงแต่ว่าน้องอยู่ในภาวะที่ตกใจด้วย แล้วโดยพื้นฐานทุกคนก็อาจจะรู้ว่าน้องเป็นแพนิคที่ยังรักษาอยู่ ก็จะเป็นคนที่กลัวคนง่าย การกลัวจะนำพาไปซึ่งความเชื่อและการยอม ก็เลยยอมไปเรื่อยๆ เขาบอกว่าหนูคือผู้ต้องหาเพราะมันมีสมุดบัญชีที่เป็นชื่อหนู ที่ทางนายศรัทธาได้ทำการซื้อต่อจากหนูในราคา 50,000 บาท ซึ่งมันเท่ากับหนูยินยอม หนูก็บอกว่าหนูไม่ได้เกี่ยวกับคนนี้ แล้วไม่รู้ว่ามันไปอยู่ที่คนนั้นได้อย่างไร ซึ่งพอไปเช็คก็พบว่ามันมีข่าวนี้จริงๆ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

ชาล็อตกล่าวต่อว่า มันคือความกลัวที่ ณ ตอนนั้นตนอยู่คนเดียวด้วย กลัวว่าถ้ามีการออกหมายจับแล้วไม่ใช่ความจริงเราจะเสื่อมเสียชื่อเสียง ต่อให้จะจริงหรือไม่จริงอย่างไร สังคมก็ต้องมองว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือเปล่า ก็เลยตัดปัญหาด้วยการยอมที่จะยินดีให้ความร่วมมือกับทางนั้นไป ตอนคุยก็คุยไปร้องไป แล้วก็พยายามดึงสติกลับมาว่าแค่ให้ปากคำที่ถูกต้อง ความเป็นจริงแค่นั้น ถ้าเราบริสุทธิ์เราก็ได้เงินคืนอยู่แล้ว ถ้าคือตำรวจจริงๆ

ที่น้องคุยตลอด เปิดหน้าจอตลอด เพราะน้องมีความหวังว่าเขาประชุมแล้วนะทีละยอดที่โอนไป ผ่านแล้วเดี๋ยวเขาจะโอนคืนมา ก็เลยรออยู่ บอสณวัฒน์ กล่าว

หนูรู้ค่ะว่ามีมิจฉาชีพ แต่ไม่ได้รู้ว่าในรูปแบบนี้ ส่วนมากจะเจอแบบกดลิ้งก์แล้วดูดเงิน หรือโทรมาสอบถามบอกว่าเป็นสรรพากร เป็นตำรวจ แต่อันนี้เขาบอกว่าเป็นคดีจริงๆ เป็นหน่วยงาน DSI ที่เป็นความลับพิเศษของหน่วยราชการ มันเลยทำให้หนูไม่กล้าบอกใคร

มันยากครับ เราก็พูดกันตรงๆ อยากจะให้เป็นบทเรียนกับคนที่เหลือ เพราะมิจฉาชีพกลุ่มแบบนี้ทำงานทุกวัน ผมก็ได้รับโทรศัพท์บ่อยมากทุกวัน เพราะฉะนั้นการได้เงินคืนมันแทบจะเป็นศูนย์เลย เป้นไปได้ยากมาก เพราะบริษัทนี้ไม่ได้ตั้งอยู่ในประเทศไทย เจ้าของก็ไม่ใช่คนไทย แต่บังคับลูกจ้างเป็นคนไทยที่พูดไทยได้ ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงก็เอาเป็นว่า สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนมากและบอกกับลูกน้องตลอด โอเคไม่เป็นไร พลาดไปแล้วเราไม่ได้ว่ากันคือ ข้าราชการและตำรวจไม่มีการทำคดีออนไลน์ ไม่ว่าจะใช้เทคโนโลยีแบบใดก็ตาม SMS โทรศัพท์ ไลน์ และวิดีโอ ตำรวจทหารหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการเงิน กระทรวงต่างประเทศ สรรพากร ไม่มีใครทำงานด้วยระบบนี้เด็ดขาดร้อยเปอร์เซ็นต์

ถ้าใครได้ดูเคสของชาล็อตไปอยากจะย้ำเลยว่ามันคือการหลอกลวงล้านเปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นคุณอย่าไปตกหลุมเขาอีกเด็ดขาด ตอนนี้อีกหนึ่งขั้นก็คือ AI ประดิษฐ์ ตอนนี้ทำให้คนกลับไปหลงเชื่ออีกแล้ว มันก็เลยก้าวล้ำเกินกว่าสติจะตั้งได้ เพระาฉะนั้น ต้องฝากเป็นอุทาหรณ์จริงๆ ต้องบอกกับตัวเองเสมอว่าถ้าผิดก็ยินดีไปศาลไปโรงพัก ดีกว่าจะต้องมาพิพากษากันบนออนไลน์ หมดเงินแน่ บอสณวัฒน์กล่าว

Advertisement

แชร์
ชาล็อต เผยกลไกมิจฉาชีพหลอกเงินสุดเนียน ยอมรับแพนิคจนต้องสูญเงิน 4 ล้าน