โก๊ะตี๋ เปิดใจทั้งน้ำตาเหตุเลิก กวาง ผิดเองที่ดันทุรัง

โก๊ะตี๋ เปิดใจทั้งน้ำตาเหตุเลิก กวาง บอกยังรัก ผิดเองที่ดันทุรัง จำเป็นต้องเลือกครอบครัว เปรียบตัวเองเป็นกระปุกออมสินเก็บความทุกข์ไว้คนเดียว 

จากกรณีที่ นาย เจริญพร อ่อนละม้าย หรือ โก๊ะตี๋ อารามบอย นักแสดงตลก และพิธีกร โพสต์ข้อความลงในอินสตาแกรม แจ้งข่าวการเลิกลากับ กวาง สุภัค ภรรยาสาว โดยทั้งคู่เพิ่งเข้าพิธีวิวาห์ไปเมื่อปลายปี 2566 ที่ผ่านมา 

คอนเทนต์แนะนำ

สลด!ลูกทรพี คลั่งใช้ด้ามจอบฟาดหัวพ่อตายคาแคร่

“ทักษิณ” ลั่น ยังไม่มีเหตุปัจจัย ปรับครม. “อิ๊งค์ยังสบายๆ”

“ทักษิณ” รับเสียแชมป์ นายกฯไทย รวยที่สุด ให้ลูกสาว

ล่าสุดวันที่ 3 ม.ค. 68 โก๊ะตี๋ อารามบอย ได้ออกมาไลฟ์ผ่านช่องยูทูบ “โก๊ะตี๋ อารามบอย” พร้อมแคปชั่น “ถึงอังกฤษแล้วนะครับ” โดยแจ้งถึงสาเหตุการเลิกราทั้งน้ำตาว่า 

“มันไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกครับ หนูเข้าใจแหละในเวลาเพจดารา เขาเอาข่าวไปลงกันก็วิพากษ์วิจารณ์กันไปสนุกปาก ด่าทับถมหนู หนูก็ยินดี หนูพร้อมจะให้ทุกคนทับถม หรือว่าจะด่าหรือว่าจะอะไรก็แล้วแต่ เอาตามที่สนุกปากเลย อยากจะพูดอยากจะด่าหนู อยากจะอะไรก็ตามสบาย” 

“แต่หนูจะบอกว่า มันไม่ง่ายหรอกครับ กับคนหนึ่งคนที่เดินทางร่วมกันมาเกือบ 12 ปี หนูรู้จักกวางตั้งแต่อายุ 23 จนกวางอายุ 35 ปี 12 ปี กว่า 1 ทศวรรษที่เรารู้จักกันมา มันไม่ง่ายหรอกครับ มันยากตรงที่ว่าถ้าพูดอย่างนี้มันจะดูตอแหล แต่มันก็ไม่ได้ตอแหล” 

“คือหนูแค่รู้สึกว่ามายด์เซ็ต หรือวิธีคิดมันไม่ตรงกัน หนูต้องยอมรับตรงๆ ว่าหนูเกิดมาพร้อมกับภาระ หนูเลือกที่จะรับผิดชอบมัน เลือกที่จะรับผิดชอบครอบครัว เลือกที่จะดูแลแม่ ดูแลพี่ชายคนโต และอีกหลายๆ คนที่หนูต้องแบกรับภาระเขาไว้ คนที่อยู่ข้างหนูมันก็กดดันพอสมควร” 

“พอเราได้รับแรงกดดัน หรือภาระอะไรต่างๆ มันก็กลายเป็นว่าหนูก็จะพูดจาแรงๆ ใส่ผู้หญิง ซึ่งมันไม่ดีหรอก มันดูเป็นผู้ชายหน้าตัวเมีย เวลาไปตะคอกใส่ผู้หญิง ซึ่งหนูไม่อยากทำ หนูไม่อยากเป็น มันไม่มีอะไรดี บางทีบางครั้งเราเลือกแล้วว่ามันจะเป็นแบบนี้ น้องกวางไม่ได้ผิด เขาก็มีมายด์เซ็ตของเขา” 

“แน่นอนวิธีแต่ละคนที่ถูกเลี้ยงดูมามันคนละอย่าง เขาก็ถูกเลี้ยงดูมาแบบหนึ่ง ซึ่งหนูไม่ได้โทษ หนูก็ถูกเลี้ยงดูมาแบบหนึ่ง ซึ่งก็เป็นชีวิตใครชีวิตมัน แต่คนสองคนที่ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมทางเดินกัน บางคู่ บางคน หรือบางครอบครัวคิดว่าโลกภายนอกไม่สนใจ ไม่เกี่ยว ชีวิตคู่มันคือคนสองคนเท่านั้นก็ถูก แต่สำหรับหนูมันไม่ใช่ หนูก็เลยรู้สึกว่าไม่อยากให้เขาเสียเวลากับหนู” 

“ถามว่ารักไหม หนูมั่นใจว่ากวางรักหนู 100 เปอร์เซ็นต์ ถามว่าหนูรักกวางไหมหนูก็ตอบได้เลยว่าหนูก็รักกวางล้านเปอร์เซ็นต์ การที่หนูพิมพ์อะไรไปเป็นตัวหนังสือบางครั้งมันก็พูดไม่หมด หนูขอบคุณความรักที่กวางมอบให้หนูนะมันเป็นความรักที่ผู้หญิงคนหนึ่งรักผู้ชายกระจอกๆ คนหนึ่ง โดยที่ไม่สนว่าหนูจะรวยจะจนหรือจะอะไร เขารักเราเพราะเราเป็นเรา และเขาก็ซื่อสัตย์กับเรา และหนูก็รู้สึกว่าหนูขอบคุณความรักที่กวางมีให้หนู” 

“แต่อย่างที่บอก ถ้าหนูไปทางความรักของหนูอย่างเดียว ครอบครัวหนู หนูก็จะเห็นแก่ตัวกับครอบครัวหนูไปหน่อย ก็แม่หนูยังไม่ตายใช่ไหมล่ะ หรือถ้าหนูจะดูแลแม่อย่างเดียว หรือญาติพี่น้องอย่างเดียว ไอ้คนข้างตัวหนูมันก็ไม่ได้เวลาในส่วนที่ต้องได้ไง บางทีบางครั้งการเป็นคนกลางมันก็ลำบากใจนะ ใครที่รู้ว่าเป็นคนกลางเป็นยังไงจะรู้ดี” 

“แต่หนูไม่ใช่คนกลางแค่แม่กับเมีย หนูเป็นคนกลางของทุกๆ ฝ่าย ยกตัวอย่าง คนที่พูด 1 2 3 4 5 มา หนูเลือกที่จะพูด 1 2 3 ส่วน 4 5 ที่เขาด่าเขาตำหนิมาหนูเลือกที่จะเก็บไว้เอง รู้สึกว่าอยากให้คนรอบตัวเรารักกัน คิดแค่นั้นเอง” 

“คือหนูกับกวางมีอะไรที่เราคิดเราฝันไว้ว่าจะทำด้วยกันเยอะมาก แต่หนูเหนื่อย คือแม่หนูกลับมาเป็นโรคคนแก่อีกครั้งนึง ส่วนพี่ชายคนโตหายจากบ้านสาบสูญไป 4 ปี กลับมาอีกทีเหรอ พูดไม่รู้เรื่อง ถามคำตอบคำ ตั้งแต่ก่อนโควิดจนถึงวินาทีนี้ พี่ชายคนโตพูดกับหนูไม่ถึง 100 คำ” 

“หนูเคยพาไปหาหมอจิตแพทย์ ก็นั่งรถไปเขาก็ถามหนูว่าไปไหน แล้วก็บอกว่าไปหาหมอ แล้วถามว่าใครเป็นอะไร เลยตอบว่าพี่ไง เขาบอกว่าพี่ไม่เป็นอะไร เอ้า ไม่เป็นไรทำไมไม่พูดกับเรา ตอนที่เข้าวงการใหม่ๆ พี่ก็ขับรถให้ผม เป็นผู้จัดการส่วนตัวให้ ถ้าคนรุ่นเก่าๆ จะรู้จักดี แล้วจู่ๆ ทำไมพี่ถึงพูดกับหนูไม่ได้ ทุกวันนี้ยังไม่พูด” 

“หนูก็ไม่เข้าใจ หนูคงไปทำเวรทำกรรมอะไรไปเยอะ ถ้าถามว่าหนูไม่เลี้ยงแล้วใครจะเลี้ยงพี่ชายคนโต หนูถามแค่นี้ จะให้ไปเป็นคนบ้าๆ บอๆ ข้างถนนงี้เหรอ หนูทำไม่ได้ พี่น้องไงมันฆ่ากันไม่ตาย ขายไม่รอด คนอื่นเป็นไงไม่รู้ แต่หนูเป็นอย่างนี้ไง แล้วหนูก็เครียด แม่กลับมาเป็นโรคคนแก่ เที่ยงคืน-ตี 1 ไปนั่งอยู่บ้านคนอื่นเขา จนเขาต้องโทรมาให้ไปรับแม่กลับบ้าน หนูก็ต้องให้แม่กลับมากินยาอีกครั้ง พอแม่กินยาก็เหมือนคนระงับประสาท ก็ได้หลานสาวหลานชายมาช่วยดูแล เพราะหนูก็อยู่สวน” 

“อย่างที่หนูพิมพ์ไปในข้อความ หนูเลือกที่จะเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ ตั้งแต่อายุ 13 ตั้งแต่ออกจากโรงเรียนมา เลือกที่จะรับผิดชอบครอบครัวมา เลือกที่จะผลักดันครอบครัวให้มันหนีจากคำว่ายากจน จนทุกวันนี้แต่ละคนก็มีอาชีพ” 

“ใครที่มันด่าหนูในโลกโซเชียลลองมาเป็นโก๊ะตีสักปีนึงก็ได้ ไม่ต้องเป็นตลอดชีวิตหรอก ลองมาเป็นกูสักปีก็จะรู้ว่าเจออะไรบ้าง คนที่ด่าหนูเนี่ย ปีนี้หนูเข้า 45 กว่าจะมีอายุ 45 มาให้พวกมึงด่า พวกมึงถมถุยกัน ผ่านอะไรมาบ้าง เชื่อว่าถ้าพวกมึงเป็นกูพวกมึงทำไม่ได้แบบกูหรอก หนูมั่นใจคนที่ด่าหนูเนี่ย ที่ผ่านมาหนูต้องกินยา ไปหาหมอ หนูต้องกินยานอนหลับยาคลายเครียด หนูกลัวหนูจะฆ่าตัวตายฉิบหาย บอกตรงๆ หนูเครียด หนูปวดหัว หนูโทรหาอาต๋อย (ไตรภพ ลิมปพัทธ์) หาพี่ยุทธ (สรยุทธ สุทัศนะจินดา) บอกว่าหนูไม่ไหว หนูยอมแล้ว” 

“คือเรื่องราวทั้งหมด มันไม่ได้ผิดที่กวาง มันผิดที่หนูคือหนูไปดันทุรัง หนูอยากจะมีความรักแบบนี้ตั้งแต่แรก หนูคิดว่าหนูเอาอยู่ หนูก็ดันทุรัง เป็นกระปุกออมสินที่เก็บความทุกข์ไว้คนเดียว ใครพูดอะไรไม่ดีมา บางทีแม่พูดถึงกวาง เราก็อธิบายแม่เข้าใจว่ากวางเขาก็เหนื่อย คือปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้มีทุกบ้าน แต่หนูมันเป็นกระปุกออมสินที่ไม่ได้เก็บตังค์ มันเก็บความทุกข์ของแต่ละคนไว้ เพื่อไม่ให้แต่ละคนทะเลาะกัน เพื่อไม่ให้แต่ละคนกินแหนงแคลงใจกัน หนูเก็บไปคนเดียว พูดแต่เรื่องดีๆ” 

“คือกวางไม่ได้ผิด หนูก็ไม่ได้ผิด แต่ถ้าจะด่า ด่าหนูเพราะหนูเป็นผู้ชาย กวางรักหนูมาก หนูพูดตรงนี้ว่ากวางมอบความรักให้ผู้ชายคนนึงได้ หนูรู้สึกว่าหนูเคารพและศรัทธาในความรักของกวางที่มีให้กับหนู มันไม่ได้มีมือที่สามไม่มีอะไรต่างๆ นานาไม่มีเลย แค่รู้สึกว่าหนูรับความรู้สึกของตัวเองไว้ไม่ไหว แล้วก็หนูเหนื่อย อยากให้ทุกคนเข้าใจ แต่ถ้าคุณไม่เข้าใจไม่เป็นไร ถ้าอยากจะด่าหนูด่าได้ หนูเป็นลูกผู้ชาย กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าสิ่งที่หนูพูดมันจริงหรือเปล่า ความจริงพูดวันนี้ก็คือความจริง อีก 10 ปีมันก็คือความจริง เพราะฉะนั้นก็ยังให้ทุกคนเข้าใจ และอยากให้ทุกคนให้กำลังใจทางหนู และน้องกวางด้วย ไม่รู้หรอกว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่ตอนนี้หนูแค่รู้สึกว่า หนูเหนื่อย”