เปิดตำนานเพลง "เมด อิน ไทยแลนด์" ของ "คาราบาว" หลังกลับมาไวรัลอีกครั้งผ่านซีรีส์ดัง The White Lotus ซีซั่น 3
หลังจากที่ HBO ได้ปล่อยซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ที่มีนักร้อง นักแสดงไทย ทั้ง ลิซ่า ลลิษา, เทม ทับทิมทอง, ดอม เหตระกูล, ภัทราวดี มีชูธน ฯลฯ แสดงประกบกับนักแสดงฮอลลีวู้ดอย่าง แพทริก ชวาสเนกเกอร์, เจสัน ไอแซค, นาตาชา รอธเวลล์ ฯลฯ ออกมาสู่สายตาแฟนๆ ทั่วโลก นอกจากจะได้รับความชื่นชมในเรื่องของโลเกชั่น โรงแรม และทัศนียภาพทางธรรมชาติอันงดงามแล้ว สิ่งที่หลายคนไม่ใช่เฉพาะแฟนชาวไทยต่างพูดถึงนั่นคือ เพลง "เมดอินไทยแลนด์" ของ วงคาราบาว ที่ผู้กำกับเลือกใช้มาประกอบซีรีส์
เพลง "เมดอินไทยแลนด์" บรรจุอยู่ในอัลบั้มที่ 5 ของวงคาราบาว ซึ่งใช้ชื่ออัลบั้มว่า "เมดอินไทยแลนด์" เช่นกัน เป็นอัลบั้มชุดที่สร้างชื่อเสียงให้คาราบาวมากที่สุดเพราะมีเพลงฮิตแบบร้องตามกันได้ทั้งบ้านทั้งเมือง เช่น เมดอินไทยแลนด์, บัวลอย, นางงามตู้กระจก, ราชาเงินผ่อน, มหาลัย, หำเทียม, ลูกหิน ซึ่งยังเป็นเพลงอมตะจนถึงวันนี้ ที่ไม่่ว่าคาราบาวจะขึ้นคอนเสิร์ตที่ไหนก็มักจะไม่พลาดที่จะต้องเล่นเพลงเหล่านี้
สำหรับเพลง "เมดอินไทยแลนด์" ปล่อยออกมาในปี 2527 เป็นบทเพลงจิกกัด เสียดสี และสะท้อนแนวคิดของสังคมไทยในยุคนั้น น้าแอ๊ด คาราบาว เคยให้สัมภาษณ์ผ่านทางนิตยสาร "สีสัน ฉบับครบรอบ 10 ปี เมด อิน ไทยแลนด์" ในปี 2537 ถึงอัลบั้มนี้ว่า ตอนนั้นทำเพลงเสร็จออกมา 9 เพลงแล้ว เหลืออีกเพลงเดียว จนกระทั่งวันหนึ่งได้เข้าไปคุยกับ "อากู๋-ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม" ผู้บริหารของแกรมมี่ ซึ่งช่วงหนึ่งคุณไพบูลย์พูดว่า "ตอนนี้มีแต่ของนอกสั่งเข้ามามากมาย ทำไมคนไทยถึงใช้แต่ของนอก น่าจะเขียนเพลงซักเพลงนึง ให้คนไทยหันกลับมาใช้ของไทย" หลังคุยกับคุณไพบูลย์เสร็จ ก็คิดว่าเป็นไอเดียที่ดีมากทีเดียว น่าจะเอามาทำเป็นเพลงได้ และหลังจากนั้นไม่นาน "เมดอินไทยแลนด์" เพลงสุดท้ายของผลงานชุดที่ 5 ในนามวงคาราบาว ที่มีชื่อเดียวกับชื่ออัลบั้มก็เสร็จเรียบร้อย จนกลายมาเป็นบทเพลงที่สร้างแรงกระเพื่อมและทำให้คนไทยหันมามองคุณค่าของสินค้าไทย
น้าแอ๊ดยังบอกอีกว่า อัลบั้ม "เมดอินไทยแลนด์" ได้ บริษัทอามีโก้ มาเป็นผู้จัดจำหน่าย ส่วนแกรมมี่มาช่วยในเรื่องการประชาสัมพันธ์ทางโทรทัศน์ ขณะที่ทางวิทยุและสื่อสิ่งพิมพ์เป็นหน้าที่ของแว่วหวาน ตนเสนอให้แกรมมี่ตัดเปอร์เซ็นต์จากยอดขายเทปม้วนละ 10 บาท ขณะที่ทางวงจะได้ม้วนละ 18 บาท โดยสมาชิกทั้ง 7 คน รวมคุณบี๋ เดล โรซาริโอ ผู้จัดการวง รวมเป็น 8 คน จะได้เท่ากันทุกคนคนละ 2 บาท รวมเป็น 16 บาท อีก 2 บาทที่เหลือจะเป็นเงินกองกลางสำหรับสร้างห้องอัดเสียงเซ็นเตอร์สเตจ
อัลบั้ม "เมดอินไทยแลนด์" ทำให้เกิดหลายอย่างครั้งแรกในวงการเพลงไทย เช่น เป็นครั้งแรกที่มีการใช้กลองโปรแกรม โดยมี พี่เต๋อ เรวัต พุทธินันท์ ให้คำแนะนำ เป็นครั้งแรกที่มีโลโก้สินค้าบนปกเทป นั่นคือเครื่องดื่ม "โค้ก" โดยวันที่น้าแอ๊ดเดินเข้าไปเสนอให้โค้กเป็นสปอนเซอร์นั้น เจ้าตัวหิ้วกีต้าร์โปร่งเข้าไปเล่นให้ผู้บริหารฟังแบบสดๆ จนโค้กชื่นชอบมอบเงินสนับสนุนมาให้ 2 ล้านบาท และเป็นครั้งแรกที่มีการเล่นคอนเสิร์ตในดิสโก้เธค นั่นคือที่เดอะ พาเลซ
นอกจากนี้ อัลบั้มชุดนี้ไม่มีการทำมิวสิควิดีโอ แต่กระแสความโด่งดังของเพลง "เมดอินไทยแลนด์" ทำให้รัฐบาลยุคนั้นที่มี พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี เห็นความสำคัญของเนื้อหา จึงหยิบ "เมดอินไทยแลนด์" มาทำเอ็มวีเพื่อรณรงค์ให้คนไทยหันมาใช้สินค้าของไทย
อัลบั้ม "เมดอินไทยแลนด์" ซึ่งเป็นอัลบั้มที่ 5 ของคาราบาว สร้างยอดขายสูงเป็นประวัติการณ์ประมาณ 5 ล้านตลับ ครองอันดับ 2 อัลบั้มที่ขายดีที่สุดตลอดกาลในประเทศไทย
สำหรับเพลง เมดอินไทยแลนด์ ได้รับการบันทึกเสียงและเรียบเรียงใหม่ถึง 5 ครั้ง ได้แก่
• ครั้งที่ 1 อัลบั้ม เมดอินไทยแลนด์ พ.ศ. 2527
• ครั้งที่ 2 Made in Thailand in USA / พ.ศ. 2528 เปลี่ยนเนื้อร้องเป็นภาษาอังกฤษเพื่ออกทัวร์ในสหรัฐอเมริกา โดยให้เทียรี่เป็นคนร้อง ส่วนภาษาไทยยังคงเดิมทุกอย่าง ภายหลังบรรจุในอัลบั้ม รวมเพลงคาราบาว พ.ศ. 2529
• ครั้งที่ 3 เมดอินไทยแลนด์ '40 / พ.ศ. 2540 ในอัลบั้ม เส้นทางสายปลาแดก เปลี่ยนเนื้อร้องทั้งหมด มีการเสริมดนตรีด้วย Brass Section
• ครั้งที่ 4 เมดอินไทยแลนด์ (สังคายนา) อัลบั้ม เมด อิน ไทยแลนด์ ภาค 2546 สังคายนา เปลี่ยนเนื้อร้องบางส่วนจากเวอร์ชั่นแรก
• ครั้งที่ 5 เมดอินไทยแลนด์ '52 / พ.ศ. 2552 อัลบั้ม โฮะ มีเนื้อหาสรุปความเพื่อย้ำเตือนคนไทย เพิ่มสีสันดนตรีด้วยกลองยาว ฉิ่ง ฉับ
• คาราบาวเป็นวงแรกที่ทำเดโม ก่อนจะทำการอัดเพลง
• เมดอินไทยแลนด์ ทำให้วงคาราบาวเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมืองเป็นครั้งแรก หลัง พล.อ.เปรม สั่งให้ทำเอ็มวีเพื่อให้คนไทยหันมาใช้ของไทย
• เทียรี่ เมฆวัฒนา เข้ามาเป็นสมาชิกวงคาราบาวอย่างเต็มตัวในอัลบั้ม เมดอินไทยแลนด์
• ในตอนแรกทางวงคาดว่า เพลง "นางงามตู้กระจก" จะถูกแบนจากทางการเพราะเนื้อเพลงเขียนว่า "สิบ ร้อย พัน ยันรัฐมนตรี" แต่รอดมาได้
• เพลง "หำเทียม" ในอัลบั้มนี้ถูกแบนห้ามออกอากาศทางโทรทัศน์ เพราะมีคำว่า "หำ" ที่เป็นภาษาอีสานทั้งหมด 19 คำในเพลงนี้
• อัลบั้ม เมดอินไทยแลนด์ มีทั้งหมด 10 เพลง รวมความยาวของทุกเพลงคือ 40.10 นาที
• อัลบั้ม "เมดอินไทยแลนด์" มียอดขาย 5 ล้านตลับ ครองอันดับ 2 อัลบั้มที่ขายดีที่สุดตลอดกาลในประเทศไทย รองจากอัลบั้ม "ชุดรับแขก" ของ พี่เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ โดยเพลง "แฟนจ๋า" ฮิตสนั่นจนทำยอดขายสูงถึง 8 ล้านชุด
• ความสำเร็จอย่างล้นหลาม ทำให้คาราบาวต้องเปิดการแสดงคอนเสิร์ต "ทำโดยคนไทย" ณ สนามเวลโลโดรม ในสนามกีฬาหัวหมาก
• อัลบั้ม เมดอินไทยแลนด์ เป็นอัลบั้มที่มีสมาชิกในตำนานครบ 7 คน คือ ยืนยง โอภากุล (แอ๊ด) ร้องนำ-กีตาร์, กีรติ พรหมสาขา ณ สกลนคร (เขียว) กีตาร์,ปรีชา ชนะภัย (เล็ก) ร้องนำ-กีตาร์, อำนาจ ลูกจันทร์ (เป้า) มือกลอง, ไพรัช เพิ่มฉลาด (รัช) มือเบส, อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี ขลุ่ย ฟลุ้ต แซ็กโซโฟน และเทียรี่ เมฆวัฒนา (รี่) ร้องนำ-กีตาร์
เมดอินไทยแลนด์ แดนดินไทยเรา
เก็บกันจนเก่า เรามีแต่ของดีดี
มาตั้งแต่ก่อนสุโขทัย มาลพบุรี อยุธยา ธนบุรี
ยุคสมัยนี้ เป็น กทม.
เมืองที่คนตกท่อ (ไม่เอาอย่าไปว่าเขาน่า)
เมดอินไทยแลนด์ แดนไทยทําเอง
จะร้องรําทําเพลง ก็ลํ้าลึกลีลา
ฝรั่งแอบชอบใจ แต่คนไทยไม่เห็นค่า
กลัวน้อยหน้า ว่าคุณค่านิยมไม่ทันสมัย
เมดอินเมืองไทย แล้วใครจะรับประกันฮะ
(ฉันว่ามันน่าจะมีคนรับผิดชอบบ้าง)
เมดอินไทยแลนด์ แฟนแฟนเข้าใจ
ผลิตผลคนไทยใช้เองทําเอง
ตัดเย็บเสื้อผ้ากางโกงกางเกง
กางเกงยีนส์ (ชะหนอยแน่)
แล้วขึ้นเครื่องบินไปส่งเข้ามา
คนไทยได้หน้า (ฝรั่งมังค่าได้เงิน)
เมดอินไทยแลนด์ พอแขวนตามร้านค้า
มาติดป้ายติดตราว่าเมดอินเจแปน
ก็ขายดิบขายดีมีราคา
คุยกันได้ว่ามันมาต่างแดน
ทั้งทันสมัย มาจากแม็กกาซีน
เขาไม่ได้หลอกเรากิน
หลอกเรานั่นหลอกตัวเอง...เอย
Advertisement