“ทนายแก้ว“ ชี้ บอส-โม หนังคนละม้วน พูดไม่ตรงกัน พิสูจน์ในชั้นศาล
“ทนายแก้ว“ ชี้ มหากาพย์สัมพันธ์ บอส-โม หนังคนละม้วน สองฝ่ายพูดไม่ตรงกัน คงต้องว่ากันในชั้นศาล มองนายห้างเรียก 100 ล้านต้องพิสูจน์ให้ได้เสียหายจริงไหม
วันนี้ 6 มี.ค. 68 นายมนต์ชัย จงไกรรัตนกุล หรือ ทนายแก้ว ให้สัมภาษณ์หลังรายการดังที่เชิญนางสาวโม อดีตแฟน “บอส” แดนเซอร์คนดังที่ตกเป็นข่าวสร้างโลกสองใบกับแฟนและนักร้องชื่อดัง ลำใย ไหทองคำ ในเวลาเดียวกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โดยทนายแก้ว ระบุว่า เรื่องนี้เป็นหนังคนละม้วนกัน ถ้าวันนี้เท่าที่ฟังก็สรุปได้ว่าตัวของน้องโมเอง ไม่ได้ต้องการที่จะมีการไปรีดเอาทรัพย์ใคร ไม่ได้เสนอที่จะไปได้เงินได้ทองอะไร มันเป็นเรื่องที่ฝั่งของตัวของค่ายที่ได้มีการเสนอค่าเสียใจค่าอะไรก็ตาม ส่วนตัวน้องโม ก็คิดอย่างเดียวก็ คือเขาเป็นผัวเมียเมื่อเลิกกัน เขาก็ควรที่จะได้รับเงินในกรณีที่จะไปเริ่มชีวิตใหม่ ซึ่งก็ได้มีการเสนอพูดคุยกัน ซึ่งข้อมูลตรงนี้ ตัวบอสเองที่คุยกับทนายแก้ว เมื่อซึ่งก็บอกว่าตัวของโม ประสงค์จะเรียกกับตัวของศิลปินในค่ายแต่วันนี้ โมก็บอกว่าเขาไม่ได้พูดอย่างงั้น เขาต้องการเรียกแบบนี้ และเขาก็ไม่ได้มีความต้องการ ที่อยากจะไปเปิดเผยพวกหลักฐานต่างๆ ซึ่งวันนี้ บอส เองเขาก็มีการพูดมายอมรับแล้วว่าโม มีการเรียกจากเขา จริงๆแล้วเขาไม่มี เขาก็เลยไปยืมจากค่าย แต่วันนี้โม ก็กลับมายืนยันว่าไม่ได้จะไปเรียกเงิน และไม่ได้คิดจะเปิดเผยหลักฐานที่ทำให้เสียหาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทั้ง 2 ฝ่ายพูดไม่ตรงกัน
ทนายแก้ว เล่าถึงธรรมชาติว่า ต้องเข้าใจว่าตัวโม เมื่อเห็นหลักฐานต่างๆ ก็ต้องโวยวายตามประสาผู้หญิง ซึ่งได้พูดคุยกับบอสว่า ทำอะไรหรือเยียวยาอะไรได้บ้าง บอส ก็เลยเสนอให้เงินให้ โดยโมบอกว่า 5 ล้าน บอสบอก 10 ล้าน เป็นข้อเสนอที่ไม่ตรงกัน โดยมีการพูดคุยให้ บอส ไปหาเงินมา บอส จึงโทรไปหาค่ายให้ค่ายช่วยเหลือเงินตรงนี้ ซึ่งมีตัวแทนค่ายโทรมาจริง แล้วโม ก็ไม่ได้พูดว่าจะไปเปิดหลักฐาน แต่บอส ก็บอกว่าโมจะเป็นคนเปิดหลักฐานทั้งหมด ซึ่งก็ยังไม่ตรงกันอีกในประเด็นนี้ ก็เป็นเรื่องที่แต่ละฝ่ายต้องไปว่ากันในชั้นศาล
ส่วนเรื่องนี้ทนายแก้ว ก็ไม่รู้ว่าจะเชื่อใครดี โดยนักกฎหมายก็ต้องดูที่ข้อเท็จจริงและยังไม่ได้ข้อยุติว่าใครเป็นคนเรียกร้องจากใคร ก็ต้องให้ผู้เสียหายมีการฟ้องร้องกันก่อน
สำหรับประเด็นสัญญา 20 ล้าน ต้องยอมรับว่ามีผลผูกพันตามกฏหมาย เป็นสัญญาที่เป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ แต่บางส่วนของโมเป็นผู้ถูกกระทำฝ่ายเดียว และสัญญาฉบับนี้ไม่มีเวลากำหนดไว้ ถือว่าเป็นข้อด้อยของโม ตนก็ได้แนะนำว่าหากโม พูดให้เกิดความเสียหาย โมต้องรับผล ส่วนเรื่องจำนวนเงิน 20 ล้านก็อยู่ที่ศาลจะพิจารณา
ขณะที่กรณีที่นายห้างประจักษ์ชัย ไหทองคำ ประกาศจะฟ้องเป็น 100 ล้านบาทนั้น ทนายแก้ว เปิดเผยว่า เป็นสิทธิ์ของผู้เสียหายที่จะเรียกเงินสูงถึง 100 ล้าน แต่นายห้าง ก็ต้องพิสูจน์ความเสียหายของตัวเอง ว่าเสียหายถึง 100 ล้านจริงหรือไม่
ประเด็นเรื่องสัญญาต้องแยกว่า คู่สัญญาดังกล่าวเป็นสัญญาระหว่างค่าย กับ โม แต่วันนี้โมมาชี้แจงเรื่องโมกับบอส เพราะยังพูดไม่ตรงกันในหลายประเด็น แต่อย่างไรก็ตามทุกอย่างมีกระบวนการในการพิสูจน์กันอยู่แล้ว
ส่วนของบอส เข้าใจว่าอายุน้อย การนำเสนอจะเรียบเรียงได้ไม่ดีนัก แต่บอส ยืนยันว่าเมื่อวานที่พูดเป็นเรื่องจริง ตนจึงงงว่าตกลงใครเป็นคนพูดจริงกันแน่ เพราะโมก็พูดอีกแบบ พร้อมยืนยันว่า ตัวโมไม่ได้ส่งข้อมูลให้เพจต่างๆ ขณะที่บอส ยืนยันว่าโม ใช้ชื่ออื่นในการส่งหลักฐาน แต่โมก็ปฏิเสธในประเด็นนี้
เบื้องต้น จากที่ทนายแก้ว ได้ดูอากับกริริยาแววตาของโมแล้วดูมั่นใจ ตนก็ฟังเหตุผลจากทุกฝ่าย ซึ่งโม ก็การปรึกษาตนเพิ่มเติมว่า จะแก้ไขสัญญาฉบับนี้อย่างไร ตนก็แนะนำว่าควรให้ทนายทำหนังสือไปยังคู่สัญญาอีกฝ่าย เพื่อขอกำหนดเงื่อนไขในเวลาปลายปิด เพื่อกำหนดว่าแค่ไหน เพียงใด ที่ไม่ทำให้เสียหาย เพราะมันค่อนข้างกว้าง ซึ่งถ้าให้ดูอากัปกิริยาทั้ง 2 ฝ่าย ตนมองว่าโมมีความเป็นผู้ใหญ่กว่า มีการพูดนำเสนอดีกว่า และไม่ได้หมายความว่าโมจะพูดผิด
Advertisement
