“40 ปี มาลีวัลย์ กับความรัก” บทเพลงรักที่งดงามจะกลับมาอีกครั้ง! จากศิลปินระดับ “ดีว่า” ของเมืองไทย มิ้นท์ มาลีวัลย์ พบกับคอนเสิร์ตสุดพิเศษ การรวมตัวของศิลปินแห่งความทรงจำ พร้อมแขกรับเชิญสุดพิเศษ ที่จะมาร่วมสร้างเวทีแห่งความประทับใจ ชรัส เฟื่องอารมย์ , คริสติน่า อากีล่าร์ , ป๊อด ธนชัย , ตู่ ภพธร
ในวันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน 2568 (เริ่มแสดง 18.00 น.) หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บัตรเปิดจำหน่าย 11 มีนาคม 2568 ที่ Thaiticketmajor ทุกสาขา ราคาบัตร : 1,000 / 1,500 / 2,500 / 3,500 / 5,000 บาท (บัตรราคา 5,000 บาท พร้อมรับ Miint Serum Gift Set มีจำนวนจำกัด)
รายได้หลังหักค่าใช้จ่าย สมทบทุนสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรมนานาชาติ โดยพระอาจารย์ประเสริฐ ฐานังกโร ณ สำนักวิปัสสนาพัฒนาทางจิต ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง
การร่วมสร้างสถานปฏิบัติธรรม เป็นการสร้างบุญอันยิ่งใหญ่ เพราะเป็นการอำนวยความสะดวก จัดสถานที่อันเหมาะสม สุข สงบ ให้กับผู้ปฏิบัติธรรม เพื่อให้เกิดแสงสว่างแห่งมรรคผลนิพพานต่อไป มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของค่ำคืนสุดพิเศษนี้และดื่มด่ำไปกับบทเพลงแห่งความรัก ที่ไม่มีวันลืม
สำหรับ มาลีวัลย์ เจมีน่า มีชื่อเต็มว่า มีลาโกรส อาเทนซา คีเมนา (Milagros Atienza Jimena) ชื่อเล่น มิล่า หรือ มิ้นท์ เป็นนักร้อง Diva แนวหน้าของประเทศไทย สังกัดจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ มีผลงานเพลงตั้งแต่ พ.ศ. 2528 และมีเพลงที่ได้รับความนิยมคือ "ขอเพียงที่พักใจ", "สงสารกันหน่อย", "บัลลังก์เมฆ", "ขอแค่ได้รู้", "ไม่ผิดใช่ไหม", "รู้ไหมทำไม" และ "คิดถึงเหลือเกิน" เป็นต้น และมีทั้งหมด 28 อัลบั้ม
มิ้นท์ มาลีวัลย์ เกิดเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2505 ในครอบครัวนักดนตรีชาวฟิลิปปินส์ที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานในไทย บิดามารดาหย่าร้างกันเมื่อเธออายุเพียง 3 ขวบ มารดาได้สมรสใหม่และย้ายไปอาศัยอยู่ที่ประเทศสเปน เธอจึงอยู่ภายใต้การเลี้ยงดูของบิดาเพียงลำพังจนเมื่อบิดาเสียชีวิตขณะเธอมีอายุได้ 19 ปี เธอสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี ชอบเล่นกีตาร์ มาตั้งแต่อายุ 7 ขวบ เรียกว่าโตมากับกีตาร์เลยก็ว่าได้
เดิมนั้น มิ้นท์ มาลีวัลย์ นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกตามครอบครัว แต่ภายหลังได้เปลี่ยนไปนับถือศาสนาพุทธ โดยให้เหตุผลว่าส่วนตัวชอบทำบุญ รักษาศีล และภาวนา และเธอยังไปโบสถ์คริสต์เพื่อถวายมิสซาอุทิศกุศลแก่บิดา
มิ้นท์ มาลีวัลย์ เริ่มขับร้องเพลงครั้งแรกเมื่ออายุได้หกขวบจากการสนับสนุนของบิดาที่เป็นนักดนตรี และไปเล่นดนตรีในโบสถ์ทุกวันอาทิตย์จนกระทั่งรับจ้างร้องเพลงตามงานต่าง ๆ เมื่ออายุ 15 ปี เธอได้ร้องเพลงที่โรงแรมดุสิตธานี ทำให้เธอมีรายได้รักษาบิดาที่ป่วยโรคเนื้องอกในสมอง และเพียงพอที่จะส่งตนเองเรียนจนจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษา และยึดอาชีพนักร้องเต็มตัวหลังเรียนจบมัธยม ผลงานอัลบั้มแรกที่ร่วมงานกับ ชรัส เฟื่องอารมย์ ชุด "มาลีวัลย์และชรัส" ปีพ.ศ. 2528 สังกัด WEA
โดยอัลบั้ม "ปรารถนาและอารมณ์" เป็นการแจ้งเกิด มิ้นท์ มาลีวัลย์ อย่างเป็นทางการ กับเพลงหลายๆบทเพลง อาทิเช่น "ขอเพียงที่พักใจ" , "สงสารกันหน่อย" ที่ทำให้เธอฌด่งดังและเป็นที่รู้จัก ด้วยที่มีน้ำเสียงเป็นเอกลักษณ์ ชุดนั้นก็จะมีเพลงที่ดังเยอะมากๆ 6-7 เพลง ทำให้เธอกลายเป็นศิลปินระดับตำนานผู้ที่เคยสร้างผลงานระดับมาสเตอร์พีซ ไว้ในวงการเพลง
ปี พ.ศ. 2529 มิ้นท์ มาลีวัลย์ ได้มีอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกภายใต้สังกัด Nite Spot Productions Ltd. โดยใช้ชื่ออัลบั้มว่า "กับฉัน With Me" มีเพลงในอัลบั้ม ได้แก่เพลง เดียวดาย, เถิบมาซิ, หนึ่งใจฉัน และเพลง บทเรียน เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีผลงานอีกหนึ่งชุดกับค่าย Sound Scale คืออัลบั้ม "ณ จุดนี้ของหัวใจ" (ในปี พ.ศ. 2531) ก่อนที่มีผลงานเพลงกับทางสังกัดแกรมมี่
และในปี พ.ศ. 2534 มิ้นท์ มาลีวัลย์ เริ่มต้นเข้าสู่การเป็นศิลปินเดี่ยวเต็มตัว ภายใต้สังกัดจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ออกอัลบั้มในชื่อ "ปรารถนาและอารมณ์" อัลบั้มเปิดตัวครั้งแรกกับค่ายแกรมมี่ และการมาร่วมงาน กับ Executive Producer อย่าง "เรวัต พุทธินันทน์" เพลงที่สร้างชื่อให้อัลบั้มนี้คือเพลง "ขอเพียงที่พักใจ" ด้วยเนื้อหาที่โดนใจและเข้าบรรยากาศได้ดีกับช่วงหน้าฝนที่อัลบั้มนี้ออกวางแผง ทำให้เพลงนี้กลายเป็นเพลงเศร้าเหมาะกับหน้าฝน และกลายเป็นเพลงประจำตัวของ มาลีวัลย์ มาจนถึงปัจจุบันนี้ นอกจากนี้ยังมีเพลงฮิตในอัลบั้มอีกหลายเพลงที่เป็นที่รู้จัก ได้แก่ สงสารกันหน่อย, เล็กๆ น้อยๆ และ ไปให้ไกล เป็นต้น ซึ่งอัลบั้มชุดนี้ทำยอดขายได้ถึง 1 ล้านตลับ ในปี พ.ศ. 2534 อีกด้วย
จากนั้นในปี พ.ศ. 2536 กับอัลบั้ม "คืนวันพระจันทร์เป็นใจ" อีกหนึ่งอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จอย่างสวยงามของ "มิ้นท์ มาลีวัลย์" ทั้งรายได้และหลายบทเพลงแบบดังต่อเนื่องมาจากชุดที่แล้ว ซึ่งอัลบั้มชุดนี้เปิดตัวด้วยเพลง "ขอแค่ได้รู้" เพลงเปิดตัวเพลงแรกที่เศร้าและโดนใจแฟน ๆ ต่อด้วย "กลับมานะ" กับการร้องเพลงดูเอทคู่กันอีกครั้ง กับเพลงน่ารัก ๆ ที่ได้ "ปั่น ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว" มาร่วมถ่ายทอด ซึ่งอัลบั้มชุดนี้ก็ยังคงคุณภาพและกระแสนิยม ด้วยยอดขายสูงถึง 900,000 ตลับ
ปี 2537 มิ้นท์ มาลีวัลย์ กับอัลบั้มพิเศษที่ชื่อ "Reflection Of Love" โดยการนำเพลงสากลมาขับร้อง ได้แก่เพลง I will always love you, Sometimes love just ain' t enough, I have nothing, Without you และอีกมากมาย
ปี 2538 อัลบั้ม "เพลงของเขา...ใต้เงาพระจันทร์" ซึ่งอัลบั้มนี้มีความพิเศษตรงที่ ได้นำเพลงเก่าของศิลปินแกรมมี่ มาขับร้องใหม่ในสไตล์ของมาลีวัลย์ มีเพลงเปิดตัวคือเพลง "ปาฏิหาริย์" ต้นฉบับเป็นของ "กบ ทรงสิทธิ์" ต่อด้วยเพลง "ขอบใจจริงๆ" ต้นฉบับคือ "เบิร์ด ธงไชย" ซึ่งอัลบั้มชุดนี้ยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนเพลง
ปี 2539 มิ้นท์ มาลีวัลย์ ได้ออกอัลบั้มกันมาอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงอัลบั้มชุดที่ 5 ภายใต้สังกัดจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ อัลบั้ม "เสียงจากหัวใจ" ซึ่งแนวเพลงในอัลบั้มชุดนี้ยังคงเป็นอีซี่ ลิสเซนนิ่ง ฟังสบาย ผสมกลิ่นดนตรี R&B แบบไทย ๆ เพลงโปรโมตเพลงแรกกับเพลงที่มีชื่อเดียวกับอัลบั้ม เพลง "เสียงจากหัวใจ" ถือว่าเป็นเพลงยอดฮิตที่สุดของงานเพลงในอัลบั้มชุดนี้
ีปี 2540 มิ้นท์ มาลีวัลย์ ได้ออกอัลบั้ม "รู้ไหม...? ไม่เคยลืมเธอ" อีกหนึ่งอัลบั้มที่มาในภาพลักษณ์ใหม่ กับแนวเพลง โดยมีเพลงเด่นอย่างเพลง "ไม่เคยลืมเธอ" มาเป็นเพลงโปรโมตด้วยความตั้งใจของโปรดิวเซอร์ และนักแต่งเพลงที่ต้องการแต่งเพลงนี้ ให้กับมาลีวัลย์ได้ระลึกถึงคุณพ่อที่เสียไปแล้วของเธอ ทุกครั้งที่ร้องเพลงนี้ เธอจะถ่ายทอดออกมาได้อย่างเข้าถึงอารมณ์ของเนื้อหาบทเพลงได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งนอกจากนี้ยังมีเพลงที่ได้รับความนิยมอีกหลายเพลง ได้แก่ อยากยอมแพ้, คนดีของฉัน และเพลง รู้ไหม?
ปี 2541 มิ้นท์ มาลีวัลย์ กับอัลบั้มเดี่ยวของเธอในชื่อ "ที่รัก...เรายังรักกันใช่ไหม" มีเพลงเด่น ๆ อย่างเพลง "ที่รัก" เพลงที่แปลกและแตกต่างจากอัลบั้มชุดก่อนๆ เรื่องราวของเพลงนี้จะเศร้าแต่ในความเศร้า กลับมองมันในมุมที่บวก
ปี 2542 อัลบั้ม "ฝากดูแลผู้ชายคนนี้สักคน" การปรับเปลี่ยนการทำงานในอีกรูปแบบหนึ่งของมาลีวัลย์ กับดนตรีแนวป๊อปที่มีความเป็นร็อคผสมด้วยดนตรีที่หนักแน่น และการใช้เสียงร้องที่หนักแน่นขึ้น เปิดตัวด้วยเพลง "ฝากดูแลแทนฉัน"
ปี 2544 หลังจากที่ มิ้นท์ มาลีวัลย์ ห่างหายจากการทำอัลบั้มไป 1 ปีเต็ม เธอได้กลับมาออกผลงานเพลงในชุด "Vol. 12 ฉันรักของฉันจริง ๆ" อัลบั้มผลงานลำดับที่ 12
โดย มิ้นท์ มาลีวัลย์ ได้รับรางวัลที่ 3 Asean Pop Song Festival 1987 , รางวัลพระพิฆเนศทองพระราชทาน ครั้งที่ 4 จากเพลง เธอผู้เดียว , สีสันอวอร์ด นักร้องหญิงยอดเยี่ยมประจำปี 2542
ปัจจุบัน มิ้นท์ มาลีวัลย์ เป็นคุณครูสอนร้องเพลงที่มีลูกศิษย์มากมาย และมีธุรกิจผลิตภัณฑ์ความงามเซรั่มบำรุงผิวหน้า "Miint serum" รวมถึงยังคงขึ้นแสดงคอนเสิร์ตให้แฟนเพลงได้หายคิดถึงอยู่เป็นประจำอีกด้วย
Advertisement