พระเอกหนุ่ม บิ๊กเอ็ม กฤตฤทธิ์ เปิดใจที่แรกหลังโพสต์เดือดลงโซเชียล โดนงานอีเวนท์จ่ายค่าตัวช้า พร้อมเล่าเรื่องราวปาฏิหาริย์ของการสร้างประติมากรรมองค์เทพฮินดูจนชีวิตเปลี่ยน แถมงานนี้ หนุ่มบิ๊กเอ็ม ยังเคลียร์สถานะหัวใจ ตอนนี้โสดหรือว่าไม่โสด หลังถูกจับตามองและมีการเปิดวาร์ปสาวคนสนิทที่ชอบชวนกันทำบุญ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow
ที่โพสต์เดือดจวกงานอีเวนท์เรื่องราวมันเป็นยังไง ?
บิ๊กเอ็ม : เมื่อปลายปีที่แล้วผมมีงานอีเวนท์ และมีโอกาสเอาองค์พระพิฆเนศที่ผมปั้นไปโชว์ พอเสร็จงานปุ๊บจะต้องมีการจ่ายเงิน แต่มันเลยระยะเวลาที่เขาต้องจ่ายมา 2 เดือนแล้ว ซึ่งช่วงเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา มันมีการแก้เอกสารบ่อยมาก ประมาณ 4 ครั้ง ตอนแรก เครดิตเทอมของเขา คือ 15 วัน ผมก็รอ เขาก็บอกว่าต้องแก้ไขเอกสารก็ส่งมาให้ผมแก้ไข ถัดมาเขาก็พิมพ์ตัวเลขผิด วันที่ผิด รอบต่อไปพิมพ์ค่าตัวที่เป็นภาษาไทยผิดก็ต้องแก้อีก ล่าสุดบอกให้เปลี่ยนสีหมึกปากกาที่เซ็น ตอนแรกผมเซ็นเป็นหมึกสีดำ เขาบอกว่าขอเปลี่ยนเอกสารใหม่ทั้งหมดให้เป็นสีน้ำเงินจนครบ 2 เดือน
จุดไหนที่ทำให้เราเดือดจนต้องโพสต์ออกสื่อ ?
บิ๊กเอ็ม : ก็น่าจะเรื่องล่าสุดที่บอกให้ผมเปลี่ยนสีปากกา ซึ่งถ้าจะให้เปลี่ยนต้องเปลี่ยนตั้งแต่ตอนแรกที่เซ็นไป
ทางคนจัดงานเขาให้เหตุผลว่าอะไร ?
บิ๊กเอ็ม : เขาบอกว่าเหมือนแอดมินส่งเรื่องช้า ยื่นส่งฝ่ายบัญชีช้า มันก็จะเป็นรอบถัดไปเรื่อยๆ
ตอนนี้เคลียร์หรือยัง ?
บิ๊กเอ็ม : เพิ่งได้รับเงินล่าสุด เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
เพราะเราออกมาโพสต์ ถ้าไม่ออกมาคงไม่ได้?
บิ๊กเอ็ม : ก็อาจจะเป็น 25 กุมภาพันธ์ ปีหน้าถึงจะได้
ปกติทำงานแล้วเคยเจอแบบนี้ไหม ?
บิ๊กเอ็ม : ไม่เคยครับ ตั้งแต่เข้าวงการมาไม่เคยมีปัญหา และเป็นคนที่ไม่ได้โพสต์อะไรง่ายๆ ถ้าไม่โมโห ไม่โกรธจริงๆ
การเลือกงานต้องละเอียดกว่านี้ไหม ?
บิ๊กเอ็ม : เรื่องการคุยคุณแม่เป็นผู้จัดการ ที่ผ่านมามันไม่เคยมีปัญหา เราจะได้รับเงินก่อนและหลังเสร็จงานทุกครั้ง แต่ครั้งนี้อาจจะเป็นบทเรียนให้เราในครั้งต่อไป ว่าอาจจะต้องมีการเซ็นสัญญาเกิดขึ้น
บิ๊กเอ็มมีการปั้นประติมากรรมฮินดู ก่อนหน้านี้มีพื้นฐานมาก่อนไหม?
บิ๊กแอ็ม : ไม่มีครับ พูดเรื่องวิทยาศาสตร์ก่อน ส่วนตัวผมเป็นคนชอบงานศิลปะ แต่ไม่ใช่งานปั้น ชอบวาดภาพมาตั้งแต่เด็กแล้ว ถ้างานปั้นจะเป็นลักษณะปั้นดินน้ำมันส่งการบ้าน แต่งานปั้นที่เป็นลักษณะเป็นกอสยังไม่เคยทำ องค์นี้เป็นงานชิ้นแรกที่ทำใช้เวลา 14 วัน
แล้วอะไรมาดลใจให้เรามาปั้นองค์เทพ?
บิ๊กเอ็ม : ต้องท้าวความก่อน ส่วนตัวผมเป็นคนที่ศรัทธาและบูชาพระพิฆเนศ น่าจะประมาณ 15 ปีแล้ว แต่เราก็บูชาเหมือนคนปกติ ยังไม่ค่อยเข้าถึงเท่าไหร่ จนปี 2023 ผมได้มีโอกาสบินไปที่ประเทศอินเดีย ไปขอพร แต่เราไม่ได้ไปขอเรื่องนี้หรอก ก็ไปขอเงินเหมือนคนทั่วไป แต่สิ่งที่ได้กลับมาไม่ใช่เงิน แต่เป็นความสามารถ พลังงานบางอย่าง ที่ผมรู้สึกว่ามันอาจจะเป็นหนทางที่ทำให้ผมได้รับความสำเร็จในสิ่งที่ผมขอก็ได้
หลังจากที่ผมกลับมาประมาณ 1 เดือน พระพิฆเนศมาเข้าฝัน ซึ่งในฝันผมกำลังนั่งปั้นพระพิฆเนศ ลักษณะประมาณนี้ แต่ว่าปั้นสององค์ ซึ่งในความฝันปั้นเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จสักที จนเรารู้สึกท้อ เสียใจ แล้วไปนั่งอยู่หน้าบ้าน และพระพิฆเนศก็มาให้เห็น ร่างกายสูงใหญ่ และได้ยินเป็นเสียงภาษาไทย แต่ไม่ได้อ้าปากพูด บอกว่า อย่าเสียใจไปเลย ลูกเก่ง ลูกทำได้อยู่แล้ว แล้วงวงพระพิฆเนศก็มารัดที่ตัวผม แล้วมาแตะที่หน้าผาก แล้วก็หายไปเลย
หลังจากตื่นจากฝันรู้สึกยังไง ?
บิ๊กเอ็ม : ตื่นมาก็ตกใจ เพราะมันเหมือนจริงมาก คือผมบูชามานานมาก แต่ไม่เคยฝันเลยนี่คือครั้งแรกในชีวิต
แล้วจุดไหนจากความฝัน กลายเป็นลงมือทำ?
บิ๊กเอ็ม : หลังจากนั้นประมาณ 2 เดือน ตอนนั้นผมกำลังถ่ายซีรีส์อยู่ แล้วไม่รู้นึกยังไง ผมไปขอเงินไง มันอาจจะเป็นแมสเสจอะไรบางอย่างที่พระองค์ส่งข้อความมาให้ผมว่าอยากให้ลองปั้นฉันดู เผยแพร่บารมีของฉันหรือเปล่า ผมเลยลองเปิดดูยูทูบ ตอนนั้นนั่งอยู่ที่กอง ก็ดูว่าเขาใช้ดินอะไรในการสร้างโมเดล ขึ้นโครงยังไง แล้วก็เริ่มสั่งดินมาแล้วเริ่มทำ โดยที่ศึกษาผ่านยูทูบในการใช้วัสดุและใช้ลวดทำโครงสร้าง แต่เรื่องการปั้น ลวดลายต่างๆ เราใช้จินตนาการแล้วดูหนังสือส่วนนึง
พอทำเสร็จก็โพสต์ลงโซเชียล มีคนขอพรแล้วสำเร็จ แล้วทักมาเล่าให้ฟัง?
บิ๊กเอ็ม : คือพระพิฆเนศองค์นี้ จริงๆ ผมไม่ได้ตั้งใยทำออกมาให้คนบูชา ผมทำเก็บไว้ ทำให้คนได้เห็นความสามารถของเราอีกด้านนึง แล้วเก็บเป็นแกลอรี่ของเรา แต่กลายเป็นว่ามันมีคนที่รักและศรัทธา องค์พระพิฆเนศเขาเห็นภาพ เห็นคลิปขององค์นี้และเหมือนเขาศรัทธามาและขอให้มีบุญ มีวาสนาให้ได้บูชาพระองค์ แล้วก็มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับเขา
และมันไม่ใช่แค่คนเดียว มันมีคนที่ 1-2-3-4 ทักมาเรื่อยๆ ผมก็แบบมันไม่ธรรมดาแล้ว เราอาจจะต้องทำออกมาให้คนที่เขารักและศรัทธาได้ไปเผยแพร่บารมี ก็เลยทำออกมาทั้งหมด 19 องค์ แต่ด้วยกระแสตอบรับตอนนั้น มันมีคนทักเข้ามาเยอะ ผมก็เลยทำทั้งหมด 24 องค์ แต่ทีนี้มันจะมีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้น ตอนแรกที่ผมขอองค์พ่อไว้ให้แค่ 19 แต่ว่าตอนที่จะทำออกมา 24 องค์ ตอนที่จะส่งไปโรงงานบรรจุใส่กล่องแตก 5 องค์ เหลือ 19 องค์เหมือนเดิม
เรื่องนี้มันขึ้นอยู่กับความเชื่อส่วนบุคคลด้วยนะ ทางโรงงานว่ายังไงบ้าง?
บิ๊กเอ็ม : ขนส่งก็เป็นล็อตเดียวกัน รถก็คันเดียวกัน
ที่มันแตกคือแตกยังไง?
บิ๊กเอ็ม : ขาหักบ้าง ทุกอย่างคือเละหมดเลย ช่วงที่ขนส่งจากโรงงานทำสี ส่งไปที่โรงงานกล่อง นั่นแหละแตกไป 5 องค์
พอเราโพสต์ลงโซเชียล ก็มีข่าวเม้าท์อีกว่าทั้งหมดไม่ได้ทำเอง ทำเพราะสร้างกระแส ฟังแล้วรู้สึกยังไงบ้าง?
บิ๊กเอ็ม : รู้สึกเฉยมาก เรารู้ว่าเราทำอะไร เราสร้างผลงานนี้ขึ้นมาด้วยเมือเรา หลายคนไม่เคยเห็นผมทำ เลยมีคำถามนี้เกิดขึ้น เลยไม่แปลกใจ ผมเลยตัดสินใจไลฟ์สดทำให้ดูเลยจะได้เชื่อ
ตอนนี้เขายังเม้าท์อยู่ไหม?
บิ๊กเอ็ม : ไม่มีแล้วนะคะ
แล้วไปโรงหล่อเพื่ออะไร?
บิ๊กเอ็ม : คือองค์ที่จะเข้าโรงหล่อ จะเป็นองค์ที่ทำเพื่อให้คนบูชาโดยเฉพาะ
ความยากขององค์ท่านอยู่ตรงไหน?
บิ๊กเอ็ม : เครื่องประดับ ทุกอย่างที่เป็นสร้อย มงกุฎต่างๆ นานา ตั้งแต่ที่ผมปั้นมาถ้าเป็นเทพฝั่งผู้ชายจะปั้นค่อนข้างง่าย แต่ว่าด้วยความที่เป็นเทพผู้หญิง เขามีเครื่องประดับเยอะ
ที่ต้องแก้ เพราะความรู้สึกเรา รู้สึกว่าองค์ท่านไม่ชอบ?
บิ๊กเอ็ม : มันเป็นความรู้สึกส่วนตัว คือตอนที่ผมทำ มันจะมีช่วงนึงที่ผมกำลังปั้นพระแม่อยู่ ผมไม่ได้ขออนุญาตก่อน คือทุกครั้งที่ผมปั้น ผมจะมีการขออนุญาต สวดมนต์ในแต่ละวันที่จะทำ แล้วก็บางวันอาจจะพูดจาไม่ค่อยดี พอกลับไปปั้นปุ๊บ สร้อยคอหลุดกลางไลฟ์เลยก็มี เครื่องประดับทุกอย่างหลุดกลางไลฟ์ หรือว่าอะไรต่างๆ มันจะมีเหตุเกิดขึ้น ช่วงที่ผมปั้นผมจะเปิดเพลง อย่างพระแม่ลักษมี ก็เป็นเพลงของเขาเลย อย่างคืนนั้นพอปั้นไปปุ๊บมือก็ปวดแสบ ปวดร้อนโดยไม่ทราบสาเหตุแล้วจะคัน มันทรมานมากเลยครับ ซึ่งตอนนั้นอาจจะมีความคิดลบๆ ในหัวด้วย แล้วเราไม่ได้โฟกัสที่เขาไง
พอโดนแบบนี้รู้เลยไหมว่าพระแม่อาจจะไม่ชอบให้เรามีพฤติกรรมอะไรแบบนั้น?
บิ๊กเอ็ม : ตอนแรกก็ยัง คิดว่าเราอาจจะไปโดนสารเคมีอะไรบางอย่างหรือเปล่า คือผมปั้นมา 6 องค์แล้วมันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ก็เลยคิดว่า เขาอาจจะมาเตือนเรา ถ้าจะทำฉันก็ต้องทำให้ถูกต้อง จะมาทำแบบนี้ไม่ได้
ได้มีการขออโหสิกรรมใดๆ ไหม?
บิ๊กเอ็ม : มีครับ ที่บ้านผมจะมีเป็นห้อง ผมเข้าไปคือผมรู้แล้วว่ามือผมเป็นแบบนี้เพราะอะไร ก็คือขอโทษที่ตอนนั้นเราอาจจะไม่ได้ตั้งใจ หรือว่ามีความคิดที่มันไม่ดี หรือว่าพูดจาไม่ดี ขอให้กลับมาทำงานได้อย่างราบรื่น และทำองค์พ่อออกมาได้สวยงาม ตามที่ต้องการ แล้วก็ไม่เป็น
เคยมีขอพรอย่างอื่นด้วยไหม นอกจากงาน?
บิ๊กเอ็ม : กับแต่ละองค์ที่ปั้นใช่ไหมครับ ก็มีลองขอบ้าง แต่แปลกที่ว่าผมเป็นคนสร้างขึ้นมา ผมจะขอไม่ค่อยได้ แต่คนอื่นจะขอได้ คือเขาขอจากโซเชียลเลยครับ
ชีวิตเปลี่ยนไปยังไงบ้าง หลังจากที่มานับถือในเรื่องของการปั้นเทพฮินดู?
บิ๊กเอ็ม : ต้องบอกว่าผมศึกษามากขึ้น ตั้งแต่ปี2023 ผมรู้สึกเลยว่าชีวิตผมเปลี่ยนไป ดีขึ้นเรื่อยๆ แล้วเราก็เริ่มอยากรู้อะไรมากขึ้น อย่างผมถ้าชอบอะไรมากๆ ผมจะศึกษาแล้วลงลึกแบบให้เข้าถึง ให้เข้าใจจริงๆ ในแบบที่มันถูกต้อง ผมก็มีไปเรียน และมีที่ปรึกษาเป็นอาจารย์ของคนอินเดีย ให้เขาช่วยดู อย่างองค์ล่าสุดก็มีที่ปรึกษา และศิลปินอินเดียมาช่วยผม
คือเดินทางไปที่ประเทศอินเดียเลย?
บิ๊กเอ็ม : ไปอินเดียนี่ผมไปไหว้ แต่ทุกครั้งที่เราไป เราจะเจอคนที่เข้ามาในชีวิตเรา และเข้ามาช่วยเหลือเรามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทพ เรื่องงาน และได้รู้อะไรเยอะมาก แม้กระทั่งบางอย่างที่เราคิดว่ามันถูกต้อง แต่พอเราไปดูความเป็นออริจินอลจริงๆ นี่เราเข้าใจผิดมาตลอด อย่างเช่น การสวดมนต์ แม้กระทั่งตามศาลต่างๆ จะมีนโมตัสสะ ซึ่งจริงๆ ไม่มี เขาจะใช้คำว่า โอม เฉยๆ อย่างของไทยเขาจะมีการผสมผสานความเป็นพุทธเจ้ามานิดนึงบวกกับความเป็นไทยของเราด้วย ซึ่งถามว่าผิดไหม ก็ไม่ได้ผิด แต่ถ้าเป็นที่นู้นเขาค่อนข้างเรียบง่ายกว่า สวดง่ายกว่า
ที่บิ๊กเอ็มไปศึกษามาทางศาสตร์อินเดีย เขาถวายของกันยังไงให้กับเทพ?
บิ๊กเอ็ม : เขาจะไม่ถวายของที่มีของคาว คือ พวกไข่ หรือว่าเป็นสิ่งที่มีชีวิต ส่วนใหญ่จะถวายเป็นลาดู และผลไม้ที่มีรสหวาน ซึ่งถ้าเป็นผลไม้รสเปรี้ยวมากๆ จะไม่แนะนำ
มีคนสังเกตผู้หญิงที่ไปอินเดียด้วยกันคือใคร แล้วความสัมพันธ์คืออะไร?
บิ๊กเอ็ม : เขาคือพี่หนุ่ยครับ เขาเป็น CEO เจ้าของหลอดไฟ แล้วผมเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์นี้ครับ
ทำไมต้องไปอินเดียด้วยกัน?
บิ๊กเอ็ม : ก่อนจะเจอพี่หนุ่ย เขาบูชาพระพิฆเนศ ผมเลยชวนแกไปอินเดียด้วย เพราะผมไปแล้วประสบความสำเร็จ
โสดหรือไม่โสด?
บิ๊กเอ็ม : ตอนนี้ยังโสดอยู่ครับ
Advertisement