ประวัติ สีดา พัวพิมล ผู้ล่วงลับ กับคำพูดสุดท้ายที่ทิ้งไว้ในฐานะนักแสดง
ประวัติ "สีดา พัวพิมล" นักแสดงเจ้าบทบาท หลังจากไปอย่างสงบในวัย 70 ปี เผยคำพูดสุดท้ายที่ทิ้งไว้ในฐานะนักแสดง คงตายตาหลับถ้าได้รับรางวัล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เป็นข่าวเศร้าของวงการบันเทิงหลังจากที่ "สีดา พัวพิมล" แม่ของ "อ๊อฟ-อภิชาติ พัวพิมล" พระเอกดังผู้ล่วงลับ ได้จากไปอย่างสงบในวัย 70 ปี ในห้องพักย่านลาดพร้าวเมื่อคืนที่ผ่านมา (20 มี.ค.68) ท่ามกลางความอาลัยของแฟนหนัง แฟนละคร เพราะเจ้าตัวเพิ่งกลับมาเฉิดฉายโด่งดังอีกครั้งกับบทบาท "แม่แสง" ในภาพยนตร์เรื่อง "วิมานหนาม"
ประวัติ สีดา พัวพิมล
สีดา พัวพิมล เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2498 เข้าสู่วงการจากการแสดงภาพยนตร์ โดยการปลุกปั้นของ "พิศาล อัครเศรณี" มีผลงานการแสดงทั้งบทนักแสดงนำ บทนางเอก และบทนางร้าย หลายเรื่อง ได้แก่ เลือดทมิฬ, รักเธอสุดหัวใจ, พ่อปลาไหล, ทหารอากาศขาดรัก เป็นต้น
ด้านชีวิตส่วนตัวสมรสกับ อมรจักร วิญญทาน มีบุตรด้วยกัน คือ อภิชาติ พัวพิมล หรือ อ๊อฟ นักแสดงชายชาวไทยชื่อดัง และบุตรสาวอีก 1 คน ซึ่งปัจจุบันลูกชายได้เสียชีวิตกะทันหันด้วยโรคหอบหืด เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549
หลังจากที่สูญเสียลูกชายซึ่งกำลังเป็นนักแสดงที่โด่งดัง ทำให้ชีวิตของ แม่สีดา พลิกผันอย่างมาก ซึ่งเจ้าตัวเคยเผยว่า เรียกว่า "ต่ำ" ยังน้อยไป ชีวิตช่วงนั้นต้องเรยกว่า "มิดธรณี" มีกินบ้างไม่มีกินบ้าง ข้าวกล่องนึงต้องกินถึง 3 มื้อ หมดเนื้อหมดตัว เป็นคนที่ไม่มีอะไรเลย ต้องทนทุกข์ทรมานนานกว่า 20 ปี จากเป็นดารามีชื่อเสียงต้องไปรับจ้างเป็นเด็กเสิร์ฟ หลังจากตกเป็นข่าวก็มีเพื่อนๆ และผู้จัดให้ความช่วยเหลือหยิบยื่นงานมาให้บ้าง และยังมี "ต่าย-สายธาร นิยมกาญจน์" อดีตแฟนสาวของ อ๊อฟ อภิชาติ ช่วยดูแล
แม้จะเจอมรสุมชีวิตสารพัด แต่แม่สีดาก็ยังคงหยัดยืนอย่างเข้มแข็งจนกระทั่งในปี พ.ศ.2567 แม่สีดากลับมาเป็นที่พูดถึงและโด่งดังอีกครั้ง หลังจากกลับมารับงานภาพยนตร์ในรอบ 30 กว่าปี กับบทบาท "แม่แสง" ในหนังเรื่อง "วิมานหนาม" ของค่าย GDH ซึ่งได้รับคำชมและวิจารณ์ในทางบวกถึงพลังการแสดงที่ยังไว้ลายรุ่นใหญ่อย่างสมศักดิ์ศรี และส่งผลให้ แม่สีดา คว้ารางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม จากงานประกาศรางวัล Cinefile Audience Award 2024 และ Thailand Box Office Awards 2024 นับเป็นรางวัลแรกในชีวิตของตลอด 46 ปีที่โลดแล่นในวงการบันเทิง ซึ่งแม่สีดาได้เคยกล่าวเอาไว้ว่า
"ถ้าได้รางวัลก็เหมือนได้ประกาศนียบัตร แม่ยังไม่เคยได้รับประกาศนียบัตรเลย แต่ถ้าแม่จะต้องมาได้รับในชีวิตช่วงสุดท้ายของแม่ ตอนนี้ 70 แล้ว แม่จะภูมิใจมาก แม่จะตายตาหลับ แล้วถ้วยรางวัลนั้นแม่จะใส่โลงไปด้วย ถือแทนดอกไม้"
Advertisement
