สำหรับกรณี คุณแม่ของน้องแนท อนิพรณ์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2015 ที่ถูกผู้เสียหายแจ้งความในข้อหาฉ้อโกง จากการหลอกให้ร่วมลงทุนธุรกิจโมเดลลิ่ง ความเสียหายร่วม 3 ล้านบาท ล่าสุดคุณแม่ของน้องแนทก็ได้เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาและให้ปากคำ ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ แล้วโดยให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “แนท อนิพรณ์” เผยรู้เรื่องแม่ถูกทวงหนี้หลักล้านพร้อมสื่อ แจงไม่ขอยุ่งเกี่ยวในเรื่องคดีความ
ล่าสุดวันนี้ (26 ตุลาคม 2563) เจอสาว "นิต้า อนิพรรณ เฉลิมบูรณะวงศ์" ซึ่งเป็นพี่สาวแท้ ๆ ของ "แนท อนิพรณ์" ก็ได้เลยเข้าไปอัปเดตในเรื่องของคดีความ เจ้าตัวก็เผยว่า ตอนนี้คุณแม่ได้คุยกับเจ้าหนี้และเริ่มไกล่เกลี่ยกันแล้วเรียบร้อย โดยมีทิศทางที่ดีขึ้น เพราะคุณแม่ได้ทยอยเคลียร์หนี้ไปแล้วบางส่วน ประมาณ 10% หากถามว่าเครียดกับเรื่องนี้ไหม ตนตอบได้เลยว่า ไม่ เพราะที่บ้านไม่ได้มีฐานะรวย จึงเคยเป็นหนี้มาก่อน แต่ถามว่าตกใจไหม ก็ตกใจ
อัปเดตคดีคุณแม่?
“ตอนนี้คุณแม่ก็คุยกับเจ้าหนี้และเริ่มไกล่เกลี่ยกันแล้วเรียบร้อย เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยแล้ว”
ก่อนหน้านี้ลูกหนี้ติดต่อผ่านเรา?
“ใช่ค่ะ หนูเป็นคนที่เขารู้สึกว่าหนูน่าจะเป็นคนที่ใจดีที่สุด ผ่านได้ง่ายที่สุด เลยติดต่อผ่านหนู”
ตอนนี้เรามีความเครียดหรือกังวลอะไรไหม?
“ไม่อยู่แล้วค่ะ เพราะว่าด้วยความที่ทางบ้านเราเองก็ไม่ได้มีฐานะรวย การที่เคยเป็นหนี้เราเคยเป็นอยู่แล้ว เลยไม่ได้รู้สึกเครียด ถามว่าตกใจไหมที่คนติดต่อมา ตอนแรกก็ตกใจค่ะ แต่หลัง ๆ เริ่มรู้ว่ามีปัญหาตรงนี้”
ได้คุยกับคุณแม่ไหม?
“ได้คุยเรียบร้อยแล้วค่ะ”
ก่อนเป็นข่าวเราได้คุยกันในครอบครัวก่อนไหม?
“ไม่ได้คุยค่ะ เลยไม่ได้รู้เรื่อง มารู้เรื่องพร้อมพวกพี่ ๆ ตอนที่เป็นข่าว หนูก็เลยตกใจ”
เรารู้มาก่อนไหมว่าแม่เขาทำธุรกิจแบบนี้?
“หนูไม่รู้ค่ะ ปกติเวลาถามแม่ เราจะคุยกันเรื่องสบายดีไหม กินข้าวหรือยัง เราไม่ได้ก้าวก่ายในเรื่องของงานค่ะ”
ตอนนี้เราซัพพอร์ตแม่ยังไงบ้าง?
“ตอนนี้ก็คุยกับคุณแม่และให้กำลังใจ เพราะด้วยปัญหาที่มันมีหลาย ๆ เรื่อง ก็ให้กำลังใจและคอยหาทางออกให้ท่าน เท่าที่ช่วยได้”
คุณแม่จะใช้ทุกอย่างที่เกิดขึ้น?
“ใช่ค่ะ แม่เขาบอกว่าเขาไม่ได้หนีอยู่แล้ว ขอเวลากับเจ้าหนี้นิดหนึ่งเพราะเราต้องหาเงินมาใช้ค่ะ”
กับแนท อนิพรณ์ ได้คุยกันไหม?
“คุยค่ะ กับแนทก็คุย เพราะเราจะเป็นตัวกลางผ่านไปบอกแม่ เพราะตอนแรก ๆ แม่กับน้องเขาไม่ได้คุยกัน น้องจะค่อนข้างเครียดกว่า แต่จริง ๆ เขาเป็นคนชิว ๆ นะคะ”
ตอนนี้แนทคุยกับคุณแม่หรือยัง?
“ตอนนี้คุยกันแล้วค่ะ”
ในส่วนของชั้นศาลมีส่วนเข้าไปช่วยไกล่เกลี่ยไหม?
“ไม่เกี่ยวกับชั้นศาลเลยค่ะ มีแค่แม่คุยกับเจ้าหนี้เท่านั้นค่ะ ไม่ได้เอาตัวน้องเข้าไปเกี่ยวข้องค่ะ”
เราเองได้มีโอกาสเคลียร์กับเจ้าหนี้แทนแม่ไหม?
“ส่วนตัวนิต้าเองเจ้าหนี้เขาเคยโทรมาหาหนูค่ะ ก็ด้วยความที่เราไม่ได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมด เราก็สามารถตอบได้เท่าที่เรารู้ค่ะ”
เราตกใจไหมที่อยู่ดี ๆ คนก็โทรมาทวงหนี้เรา?
“ตกใจค่ะ ตอนแรกคิดว่าเขาจะติดต่องาน (หัวเราะ) เพราะหนูขึ้นหัวไอจีเป็นเบอร์โทรตัวเองค่ะ แต่ไม่เป็นไรค่ะ คือหนูมั่นใจว่าทุกบ้านต้องมีปัญหาค่ะ แค่หาทางออกแค่นั้นเองค่ะ เรื่องการเป็นหนี้เป็นสินเป็นเรื่องปกติค่ะ เรายืมเขามาเราก็ต้องใช้ค่ะ ตอนนี้ก็กำลังหาทางออกที่กีที่สุด แต่ต้องขอเวลานิดหนึ่งนะคะ”
ไม่ได้มีผลกระทบมาถึงตัวเรากับแนท?
“ไม่มีเลยค่ะ ด้วยความที่ปัญหาที่เกิดขึ้นคุณแมาเขาไม่ได้บอกให้เรารู้ก่อน เลยรู้สึกว่าเราแค่ตกใจ ณ จุดนั้น แล้วก็หาทางแก้ ไม่ได้เครียดอะไรมาก ไม่ได้ถึงขั้นยกเลิกงาน”
ตอนนี้เราเป็นตัวกลางประสานทุกอย่าง?
“ใช่ค่ะ หนูเป็นคนที่อยู่ตรงกลาง ถ้าแม่บอกมา หนูก็บอกน้อง แต่หลัง ๆ เขาเริ่มคุยกันเองแล้ว”
คุณแม่ขอโทษเราไหมกับสิ่งที่เกิดขึ้น?
“ใช่ คุณแม่บอกว่าจริง ๆ ไม่อยากให้หนูกับน้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ พอเห็นมีข่าว แม่ไปออกรายการกับพี่หนุ่ม กรรชัย แม่ก็พูดชัดเจนเลยค่ะว่าเราสองคนไม่ได้รู้เรื่องด้วย แต่เราสองคนเป็นลูกค่ะ เราก็ต้องรับรู้ และช่วยแก้ปัญหา คือเขารู้สึกผิดมาก เพราะว่าตอนแรกธุรกิจมันไปได้ดี ไม่ได้คิดว่ามันจะต้องเจอโควิด แต่เราจะโทษโควิดไม่ได้ เราทำอะไรเราก็ต้องวางแผน มันเป็นเหตุสุดวิสัย ทำธุรกิจเกิดเรื่องขึ้นมาก็ไม่เป็นไร เราก็หาเงินใช้หนี้”
คุยกับแม่ไหมว่าหลังจากนี้แม่จะเดินหน้าธุรกิจนี้ต่อไหม?
“อ๋อ หนูคุยกับแม่แล้วค่ะ ด้วยตอนนี้คุณแม่มีการไกล่เกลี่ยกับทางชั้นศาล และหนูถามว่าจะเอายังไงต่อ คุณแม่ก็บอกว่าเขาจะสู้ค่ะ เพราะว่าเงินหาได้ ยังไงเขาก็หาได้”
ก่อนหน้านี้หลายคนจับตามองเรื่องความสัมพันธ์ระหว่าง "แนทกับคุณแม่" ที่มีปัญหางอน ๆ กัน?
“ตอนนี้เขาคุยกันแล้วค่ะ ไม่มีปัญหา ชิวๆ แต่ก่อนหน้านี้มีปัญหากันจริง น้องไม่รับรู้ คือด้วยความที่เราไม่รับรู้อะไรเลย และน้องเขาก็มีปัญหาก่อนหน้านั้นแล้วค่ะ เขางอนกัน ด้วยความที่แม่กับน้องเขานิสัยคล้ายกัน ใจร้อนทั้งคู่ น้องเป็นคนพูดเร็ว แม่ก็พูดเร็วค่ะ แล้วเขาคุยกันฟังกันไม่รู้เรื่อง อารมณ์ร้อนทั้งคู่ ที่บ้านมีหนูคนเดียวค่ะที่ฟังทั้งสองฝ่าย”
พอเหตุการณ์นี้เข้ามาทำให้เรารักกันมากขึ้นไหม?
“หนูรู้สึกว่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิตทำให้หนูเก่งขึ้น แกร่งขึ้น เพราะว่าหนูด้วยความเป็นเด็กที่อยู่ในโลกของดิสนีย์ ก็ชิว ๆ พอเริ่มประกวดนางงาม รับรู้ปัญหา ก็รู้สึกว่าหนูเก่งขึ้น”
เราเป็นคนกลางรู้สึกลำบากใจบ้างไหม?
“ไม่เลยค่ะ ด้วยความที่หนูเป็นผู้ชอบฟัง เวลาใครเล่าอะไรมาเราก็ฟังและสรุปใจความสำคัญให้เขา แล้วมาบอกอีกทีหนึ่งว่าแบบนี้ เรามีการเชื่อมโยงที่เก่งค่ะ เลยชิวๆ”
หนี้จะเคลียร์หมดภายในกี่ปี?
“หนูไม่แน่ใจว่าจะสามารถหมดในกี่ปีนะคะ แต่ตอนนี้เขาก็เริ่มใช้บางส่วนแล้วนะคะเท่าที่เขาหาได้”
จาก 100 % ตอนนี้เหลืออีกเท่าไหร่?
“90 แหละค่ะหนูว่า น่าจะยังเยอะอยู่ เพราะเราไม่กล้าตอบว่าตอนนี้ไปกี่เปอร์เซ็นต์ เพราะถ้าสมมุติว่าถ้าเจ้าหนี้เขามาได้ยินแล้วบอกว่ายังไม่ได้ใช้ฉันเลย”
อย่างน้อยเคลียร์หนี้หมดแม่ก็เดินหน้าธุรกิจต่อ?
“ใช่ค่ะ คุณแม่หนูเป็นนักสู้อยู่แล้วค่ะ ครอบครัวหนูถูกเลี้ยงมาเป็นนักสู้ มีปัญหาก็แก้ เดินหน้าต่อไปค่ะ ไม่เครียด”
ความเชื่อมั่น เราบอกแม่ยังไง?
“ความเชื่อมั่นที่จะเข้ามาทำงานด้วยหรอคะ เรื่องนี้หนูว่ามันเป็นความสัมพันธ์ของผู้ใหญ่ เวลาเราทำธุรกิจถ้าเราคุยกันดี เวลามันล้ม เราก็สามารถปรับความเข้าใจได้ แต่ธุรกิจที่แม่ทำ ตอนที่เราพูดเขาไม่คิดว่ามันจะพับลงมาแบบนี้ค่ะ”
ทิศทางดีขึ้น?
“ใช่ค่ะ ทิศทางดีขึ้น แต่จ้างงานหนูกับน้องได้นะคะ(ยิ้ม)”
ตอนนี้ที่บ้านเหมือนเดิม?
“เหมือนเดิมค่ะ ด้วยความที่มีคุณตา คุณยาย มีน้าที่คอยคุยกันตลอดเวลา ทำให้บ้านเราสนิทกันมากขึ้น จากที่สนิทกันอยู่แล้วก็สนิทกันมากขึ้นค่ะ”
Advertisement