ประเด็นความวีไอพี ขัดแย้งกับการแสดงออกทางความเท่าเทียม ที่สาว มิลลิ ออกมา call out อยู่เสมอ ส่งให้แฮชแทกชื่อของ มิลลิ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ และถูกวิจารณ์อย่างหนักในเพจต่างๆ
ล่าสุด เจ้าตัวออกมาชี้แจง 17 ข้อ สรุป คะแนนสอบหายเพราะตอนทำข้อสอบใช้ล็อกอินยูเซอร์เพื่อนที่มายืมใช้โน้ตบุ๊กของตน ขอโทษอาจารย์เป็นความผิดพลาดของตนเอง เตรียมนัดคุยขอโทษอาจารย์วันศุกร์ (20ส.ค.) เวลา 2 ทุ่ม
ส่วนประเด็นการยื่นเรื่อง Late Exam พูดไม่เคลียร์ทำให้คนเข้าใจผิดว่าได้สอบใหม่ ซึ่งเจ้าตัวเพียงแต่ลองยื่นเรื่องพิจารณา Late Exam ผ่านการเขียนคำร้องผ่านระบบออนไลน์ของมหาวิทยาลัย แนบหลักฐานวิดีโอที่บันทึกภาพขณะทำการสอบ โดยยังไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงเกี่ยวกับคะแนนสอบของตัวเองที่หายไป
โดย มิลลิ โพสต์ทวิตเตอร์ว่า "ขออนุญาตทุกท่านชี้แจงประเด็นเรื่องคะแนนสอบ / late exam /อาจารย์ผู้สอนที่ถูกกล่าวถึง จากโพสต์ทวิตเตอร์ของหนู เรื่องคะแนนสอบหายจนเกิดผลกระทบอย่างหนัก คือเรื่องเป็นอย่างนี้ค่ะ ขอเล่าเหตุการณ์นะคะ ยาวหน่อยนะคะ เพื่อความละเอียด"
1. วันที่ 29 ก.ค. 64 คือ วันที่น้องได้ทำการสอบกลางภาคในวิชาภาษาอังกฤษ ซึ่งในการสอบครั้งนี้ ประกอบไปด้วยหลายส่วน เป็นทั้งพาร์ทข้อเขียนที่สอบในระบบ Microsoft Teams และพาร์ทข้อช้อยส์ที่สอบในเว็บไซต์ LMS ของทางมหาวิทยาลัย ซึ่งน้องยืนยันว่าได้ทำไปครบทุกพาร์ท
2. แต่ในวันประกาศคะแนนสอบ(10 ส.ค.) อาจารย์บอกว่าหนูเนี่ยไม่มีคะแนน ก็ค่อนข้างเหวอเลยทีเดียว และด้วยการสื่อสารที่ผิดพลาด+ใช้อารมณ์เป็นหลัก หนูจึงโพสต์พาดพิงอาจารย์ลงทวิตไปในทันที โดยที่ยังไม่ได้สืบหาข้อเท็จจริงก่อนเลยด้วยซ้ำ ทำให้อาจารย์ท่านนั้นเสื่อมเสียชื่อเสียงและรู้สึกไม่ดี
3. หนูต้องขอโทษอาจารย์ด้วยนะคะ
4. การยื่นขอ late exam
- หลังจากทราบเรื่องคะแนนหาย หนูเลยรีบไปปรึกษาอาจารย์ที่ปรึกษา (ซึ่งเป็นคณบดีของคณะหนูเอง) ว่าจะสามารถตรวจสอบยังไงได้บ้าง อาจารย์เลยช่วยประสานกับทางพี่เจ้าหน้าที่คณะเพื่อสอบถามไปยังมหาวิทยาลัยเพื่อถามหาสาเหตุที่ไม่พบคะแนนในพาร์ทนั้น
5. และเสนอว่าลองยื่นเรื่องพิจารณา Late Exam ไหม ซึ่งวันนั้นที่คุยกันเป็นวันที่สามารถยื่นเรื่องพิจารณา Late Exam ได้เป็นวันสุดท้ายพอดี หนูเลยตัดสินใจจะลองยื่นเรื่องไปก่อน ซึ่งตอนนั้นยังไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงเกี่ยวกับคะแนนสอบของตัวเอง โดยอาจารย์ได้ให้คำปรึกษาในทุกๆ กระบวนการ
6. ว่าจะต้องเขียนคำร้องผ่านระบบออนไลน์ของมหาวิทยาลัย ซึ่งจะมีให้เลือกหัวข้อสาเหตุในการยื่นเรื่อง โดยหนูเลือกหัวข้อที่ 4 “กรณีอื่นๆ” และได้แนบหลักฐานที่สามารถยืนยันว่าตัวเราเข้าสอบจริงๆ ประกอบไปด้วย (1.)วิดีโอที่บันทึกภาพหนูขณะที่กำลังทำการสอบ (วีดิโอตัวนี้เราสามารถเข้าไปเซฟ หรือ ดูย้อนหลังได้ใน Microsoft Teams ขึ้นอยู่กับว่ามีใครกด recordเอาไว้หรือไม่นะคะ)
7. ซึ่งครั้งนี้อาจารย์คุมสอบได้ทำการบันทึกวีดิโอเอาไว้ใน Microsoft Teams และ (2.) ส่งประวัติการใช้งานจากบราวเซอร์ Safari ที่แสดงถึงการเข้าไปทำข้อสอบผ่านทางเว็บไซต์ LMS ทั้งหมด 23 หน้าบนระบบในวันสอบนั้น
8. โดยอาจารย์บอกเพิ่มเติมว่า การยื่นขอ Late Examจะต้องมีการพิจารณาขึ้นอยู่กับหลักฐานของนศ.+การพิจารณาจากมหาวิทยาลัย ซึ่งไม่รับประกันว่าจะได้หรือไม่ (เมื่อวันที่ 16 ส.ค. รายชื่อผู้ได้รับ late exam ถูกประกาศผ่านเว็บไซต์ แต่ตัวหนูเองไม่ได้เช็คให้ดีก่อน วันนี้หนูเลยทวิตบอกว่ายังไม่ได้ค่ะ)
9. การหาข้อเท็จจริงและผลลัพธ์เรื่องคะแนนหาย
- บ่ายวันนั้นที่รู้เรื่องคะแนนหาย (10 ส.ค.) หลังจากได้รับการประสานจากมหาวิทยาลัยผ่านทางอาจารย์ที่ปรึกษา เรื่องสาเหตุที่คะแนนหายไป เบื้องต้นทางมหาวิทยาลัยได้เช็คระบบอีกรอบแล้วว่า ไม่มีคะแนนสอบหนูในระบบจริงๆ ทางมหาวิทยาลัยก็เลยถามเพิ่มว่า "หนูได้ไปใช้คอมของคนอื่นในการทำข้อสอบหรือเปล่า หรืออาจจะไปล็อคอินเป็นชื่อของคนอื่นมั้ย"
10. แต่หนูยืนยันว่าใช้โน้ตบุ๊คของตัวเองอย่างแน่นอน เลยทำให้หนูเอะใจขึ้นมาเพราะนึกได้ว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เพื่อนของหนูเคยขอยืมโน้ตบุ๊คไปใช้ล็อคอินในเว็บไซต์ LMS เช่นเดียวกัน
11. ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าบัญชีของเพื่อนถูกล็อคอินค้างไว้ในโน้ตบุ๊คของหนู เพราะหลังจากสอบพาร์ทแรกเสร็จ ก็เปลี่ยนมาเข้าลิงค์เพื่อทำข้อสอบใน LMS หนูล็อคอินเข้าเว็บไซต์โดยการสแกนนิ้วไปเลยด้วยความเคยชิน โดยไม่ได้เช็คให้รอบคอบก่อนว่าเป็น ID ของหนูหรือไม่ เพราะคิดว่ามันคือuserของเราที่เคยเซฟไว้
12. โน้ตบุ๊กหนูคือ MacBook Pro 13 ซึ่งมีระบบ Finger Scan ที่จดจำ username & password ที่เราเคยล็อกอินเอาไว้ก่อนหน้านี้ จริง ๆ หนูก็เคยล็อกอิน user หนูไว้แล้วและเซฟ password เพื่อที่จะ scan นิ้วในรอบต่อไป แต่พอเพื่อนเอาไปใช้ เขาก็เซฟ password ไว้เช่นเดียวกัน โน้ตบุ๊กก็เลยจำ user ของเพื่อนแทน
13. หนูจึงได้แจ้งชื่อและ ID ของเพื่อน ที่หนูสงสัยให้กับทางมหาลัยวิทยาลัย เพื่อเอาไปตรวจสอบอีกรอบ ซึ่งปรากฎว่าคะแนนสอบพาร์ทช้อยส์ทั้งหมดได้ถูกทำบนบัญชีที่เป็นชื่อของเพื่อน ซึ่งเพื่อนคนนี้ลงทะเบียนเรียนวิชาภาษาอังกฤษเหมือนกัน แต่คนละ section และเขาไม่ได้เข้าสอบในครั้งนี้
14. เพราะว่าเขา ใช้คะแนน IELTS ยื่นขอเทียบเกรดไปแล้ว และเพราะว่าไม่มีคนเข้าสอบ หนูเลยสามารถทำข้อสอบอันนี้ได้โดยทำในชื่อบัญชีของเพื่อน เพราะฉะนั้นมหาวิทยาลัยจึงพบแต่คะแนนในพาร์ทช้อยส์ที่หนูทำ ส่วนพาร์ทอื่นๆ ของเพื่อนก็ว่างเปล่า เนื่องจากเขาไม่ได้เข้าสอบอยู่แล้ว ทำให้คะแนนในส่วนนี้เป็นโมฆะไป
15. ขอชี้แจงเพิ่มเติม จากที่หนูไลฟ์ไปเมื่อวันที่ 11 สค. คือตอนนั้นรู้แล้วว่าคะแนนหายไปได้ยังไง แต่ยังไม่ได้รับการตัดสินว่าจะได้ late exam นะคะ แต่ด้วยความใจร้อนของหนูตอนนั้นอีกนั่นแหละที่อยากอธิบาย เพราะอาจารย์โดนถล่มเยอะมาก เลยอยากออกมาบอกว่าเป็นความผิดของหนูเองค่ะ ไม่ใช่ใครเลย
16. รวมถึงมีการพูดไปว่าได้ late exam แล้ว ซึ่งหนูพูดไม่เคลียร์เองค่ะ และตอนนั้นก็ถูกคนอื่นเข้าใจไปแล้วว่าได้สอบใหม่ ตรงนี้หนูผิดเองจริงๆค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ
17. การโพสต์ข้อความโดยใช้อารมณ์และไม่ไตร่ตรอง จนทำให้อาจารย์ได้รับผลกระทบอย่างหนัก
- หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมดและได้รับข้อมูลทุกอย่าง รู้สึกว่าเรื่องที่ทำลงไปได้ส่งผลกระทบอย่างหนักต่ออาจารย์ ช่วงสัปดาห์ที่แล้วหนูเลยรีบติดต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อขอนัดพบอาจารย์ท่านนั้น เพื่อพูดคุยและขอโทษถึงเรื่องที่เกิดขึ้นซึ่งอาจารย์ท่านว่างและรับนัดเป็นวันศุกร์ที่จะถึงนี้ และตอนสองทุ่มน้องคิดเอาไว้แต่แรกว่าหลังพบอาจารย์แล้ว ก็อยากจะคุยกับหลายท่านที่อาจจะยังมีข้อสงสัยอยู่และต้องการรับฟังคำอธิบายจากน้อง เพราะว่าจะได้อธิบายเรื่องราวทั้งหมดได้อย่างครบถ้วนค่ะ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ปู ไปรยา เจอทัวร์ลง โพสต์ถึงอัฟกานิสถาน ชาวเน็ตจี้อย่าลืมประเทศไทย
- แอน ทองประสม ช่วยชาวนา จ.สุรินทร์ รับซื้อข้าวหอมมะลิอินทรีย์จากเกษตรกร ส่งต่อชุมชนที่เดือดร้อน
- เจนนี่ - ยิว ปล่อยเพลงคู่ครั้งแรก “เก็บรักไว้นานๆ” พร้อม MV สุดโรแมนติก
Advertisement