โดยวันที่ (8 กันยายน 2564) เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. ร่างของ ธันวา ได้ถูกเคลื่อนย้ายมาถึงที่วัดท่าซุงทักษิณาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และในเวลา 11.40 น. ก็ได้ทำพิธีฌาปนกิจทันที ซึ่งหน้าเมรุก็มีรูปถ่ายขนาดใหญ่ของ ธันวา ที่กำลังร้องเพลงและดีดกีตาร์บนเวทีตั้งไว้
สำหรับบรรยากาศภายในงาน ก็เรียกว่าเต็มไปด้วยความโศกเศร้ามีทั้งญาติและเพื่อนๆเดินทางมาร่วมพิธีประมาณ 30 คน โดยช่วงที่มีการนำโลงศพออกจากรถพยาบาลขึ้นไปวางไว้ที่เมรุ นางฟารีดา นวลถิ่น พี่สาวของธันวา ก็ถึงกับปล่อยโฮ พร้อมกอดญาติ และ รอน อรัณย์ เพื่อนสนิทของธันวา โดยช่วงหนึ่งทางญาติร้องไห้แล้วพูดว่า “นี่ฝันไปใช่ไหม” ซึ่งพี่สาวก็ตอบกลับว่า “นี่ไม่ใช่ฝัน มันคือเรื่องจริง เขาต้องไปดีเพราะทำดีต่อสังคมมามาก” และช่วงที่ทำพิธีฌาปนกิจ พี่สาวของธันวา ก็อยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก
โดยหลังจากเสร็จสิ้นพิธีทางศาสนาแล้ว คุณฟา พี่สาวของธันวา ก็ได้เผยกับทีมข่าวอมรินทร์ ทีวีว่า เมื่อสักครู่นี้ตอนวางดอกไม้จันทน์ ตนได้พูดต่อหน้ารูปของน้องชายว่า เขาได้สร้างคุณงามความดีไว้เยอะ ช่วงที่มีโควิดแรกๆ ก็มีบริจาคชุด PPE , เตียงสนาม เรียกว่าช่วยเหลือสังคมมาตลอด เลยอยากให้เขาไปสบาย แล้วก็บอกอีกว่า หากชาติหน้ามีจริงก็ขอให้เกิดมาเป็นพี่น้องกันอีก
คุณฟา บอกอีกว่า เขาเป็นคนมีเมตตา ช่วยเหลือเพื่อนฝูงและพี่น้องอยู่เสมอ ทุกคนก็เลยรักเขา ดูได้จากเพื่อนๆของเขาที่มางานในวันนี้ ตนเชื่อว่าหากไม่มีโควิดก็คงมากันล้นวัด
คุณฟา เผยต่อว่า โรคนี้มันทรมานจิตใจมาก ป่วยก็ไปเยี่ยมไม่ได้ ตนอยากกอดอยากหอมเขา เพราะสนิทกันมาก อยู่กันมาแค่ 3 คนพี่น้อง (ธันวามีพี่ชายอีกคนเป็นคนกลางแต่ไม่ได้มางาน) เพราะพ่อแม่เสียไปตั้งแต่เด็กๆ ตนก็เลี้ยงเขามาเหมือนเป็นแม่คนหนึ่ง พอเขามีชื่อเสียงก็กลับมาดูแลตน เรียกว่าเป็นเสาหลักของครอบครัว มีบ้านให้อยู่ มีรถให้ใช้
ทั้งนี้ คุณฟา ได้เผยไทม์ไลน์ให้ฟังว่า ธันวา ตรวจพบเชื้อวันที่ 17 สิงหาคม และเข้ารับการรักษาตัววันที่ 19 สิงหาคม โดยเขาแข็งแรงมาก ไม่มีอาการอะไรเลย เพราะเขาดูแลตัวเองดีมาก ไม่สูบบุหรี่ด้วย ซึ่งตอนแรกก็อาการปกติดี แต่พอประมาณวันที่ 23-24 สิงหาคม หมอบอกว่าเชื้อลงปอดจึงต้องเข้าไอซียู โดยตอนนั้นเขาก็ยังสื่อสารได้อยู่ ประโยคสุดท้ายที่ได้คุยกันเขาบอกว่าเขาจะสู้ แต่หลังจากนั้นไม่ได้คุยกันอีกเลย เพราะหมอห้ามกระดิกตัวให้นอนนิ่งๆ
จนกระทั่งเมื่อวานนี้ ตอนหัวค่ำหมอโทรมาบอกว่าอาการแย่มาก พอช่วง 5 ทุ่มกว่าก็โทรมาบอกว่าเสียชีวิตแล้ว โดยระหว่างการรักษามีให้พลาสม่าด้วย เรียกว่าทำทุกอย่าง รักษาตัวอยู่ 20 กว่าวัน หมดไปล้านกว่า ตนก็มานั่งเศร้าว่าคนอื่นหมดเป็นล้านยังหาย ทำไมครอบครัวตนไม่หาย
ทั้งที่หมอก็บอกว่าร่างกายของ ธันวา แข็งแรงและสู้มาก ตัวเขาเองก็คิดว่าจะหาย จึงไม่ทันได้สั่งเสียอะไรเลย โดยคิดว่าสิ่งที่เขามีห่วงอยู่คือธุรกิจส่วนตัวและลูกเล็กอีก 2 คน ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่ได้บอกลูกๆเขา แต่เขารู้ว่าพ่อรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล
สำหรับช่วงที่ป่วยไม่ได้ต้องการจะปิดบัง แต่ที่ไม่บอกใคร เพราะคิดว่าเดี๋ยวเขาก็หายแล้วก็ออกมา ตนเองยังแทบไม่เชื่อคิดว่าฝันไป เรียกว่าช็อคมาก ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับครอบครัวของตัวเอง ซึ่งจริงๆ ธันวา เขาก็เป็นคนกลัวโควิดมากๆ ยังร้องเพลงกลัวโควิดกับลูกชายอยู่เลย โดยเขาก็บอกลูกเสมอให้ดูแลตัวเอง ส่วนตัวเขาก็ออกกำลังกาย แถมไปทำบ้านจัดสรรขายก็ตากแดดเป็นเวลานานด้วย จึงคิดว่าตัวเองแข็งแรง เพราะจริงๆเขาก็ไม่เคยป่วยเลย ไม่เคยเข้าโรงพยาบาลด้วย
สุดท้ายตนอยากบอกเขาว่า ในส่วนของธุรกิจตนก็จะสานต่อไม่ต้องเป็นห่วง แล้วก็จะดูแลลูกทั้ง 2 คน และภรรยาของเขา ตนไม่ทิ้งครอบครัวเขาแน่นอน ตอนนี้ภรรยาเขาก็ช็อคแล้วก็สภาพจิตใจย่ำแย่มาก และที่มาไม่ได้ในวันนี้เพราะเขากักตัวอยู่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ ลูกทั้ง 2 คนรวมถึงภรรยาก็ติดโควิดด้วย แต่รักษาหายแล้ว อย่างไรก็ตามพรุ่งนี้ตนจะเข้ามาเก็บอัฐิและเบื้องต้นอาจจะนำไปไว้กับพ่อและแม่ที่จังหวัดอุดรธานี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ธันวา ราศีธนู เจ้าของเพลงไก่ตาฟาง ติดโควิดเสียชีวิต
- นุช วิลาวัลย์ เศร้าอาลัย ธันวา ราศีธนู “พี่จะอยู่ในใจน้องๆอาร์สยาม”
- เปิดประวัติ ธันวา ราศีธนู เจ้าของเพลงดัง ไก่ตาฟาง - กิ้งก่าทอง เสียชีวิตจากโควิด19
Advertisement