ชายปริศนา ปล่อยฮุกขวาใส่ "ศรีสุวรรณ" กลางวงสื่อหน้า ปอท.เหตุร้อง "โน้ส อุดม" วิจารณ์รัฐบาล ลั่น ตบให้ร้องในสิ่งที่ควรร้อง
วันนี้ 18 ต.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อร้องเรียนให้มีการตรวจสอบการจัดแสดงเดี่ยวไมโครโฟน 13 ของโน้ส อุดม แต้พานิช
โดย ระหว่างที่ นายศรีสุวรรณ กำลังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน นายวีรวิทย์ รุ่งเรืองสิริผล (ลุงศักดิ์) ได้ฝ่าวงล้อมสื่อมวลชน เข้าประชิดตัว นายศรีสุวรรณ และฮุคขวาเข้าใบหน้า ของศรีสุวรรณ
หลังจากเหตุการณ์ วีรวิทย์ ให้ว่าสัมภาษณ์ว่า ตนคาใจหลังจากที่ ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย 8 ปี ของนายกรัฐมนตรีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ต่อมานายศรีสุวรรณ ออกมาประกาศว่า ใครชุมนุมจะแจ้งจับ อีกทั้งยังรุบะว่า ตนเป็นหนึ่งในผู้ชุมนุม และในวันนี้ ตนตั้งใจเข้ามาตบเพื่อสั่งสอน
นายวีรวิทย์ กล่าวต่อว่า กราบขอโทษสำนักงาน ปอท. กับกระทำดังกล่าว เพราะไม่มีโอกาสตนอยากให้เห็นว่าประชาธิปไตยทุกคนต้องยอมรับความเห็นต่างหลายปีมานี้ นายศรีสุวรรณ เป็นนักร้อง ดังกว่านักร้องแร็ป ลูกทุ่ง เหตุผลนี้จึงได้เข้ามาตบสั่งสอน และตั้งใจทำจริงๆ พร้อมที่จะเข้ากระบวนการยุติธรรมหากตนต้องถูกดำเนินคดี อีกทั้งยังให้เหตุผลว่า "มาเพื่อตบให้หยุดร้องสักที หรือไม่ก็ร้องในสิ่งที่ควรจะร้อง นี่คือเหตุผลที่เข้ามาตบ"
ทั้งนี้ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อขอให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามครรลองของกฎหมาย กรณีมีบุคคลทอล็คโชว์เดี่ยวไมโครโฟน-13 ซึ่งเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งมีการใช้ถ้อยคำ บางคำพูดอันอาจมีลักษณะส่งเสริมให้บุคคลร่วมชุมนุมสาธารณะที่ผิดกฎหมาย ซึ่งอาจขัดต่อความมั่นคงของรัฐและหรือละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น และหรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน อันเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ประกอบ พรบ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2560 หรือไม่ อย่างไร
โดย บทพูดของการโชว์เดี่ยวไมโครโฟนดังกล่าวมีบางคำพูด อาทิ “วันนี้รถติดเยอะหน่อย มีม็อบไล่คนที่เราอยากจะไล่เขา ก็ให้อภัยเขาไปนะครับ ถือว่าเขาทำงานแทนเรา” นั้น จะสื่อความหมายไปอย่างอื่นมิได้ นอกเสียจากการพูดเพื่อที่จะสื่อหรือโฆษณาให้ผู้ฟังหรือผู้ชม ได้เข้าใจตรงกันว่า มีเจตนาหรือจงใจที่จะให้ทุกคนที่รับฟังและรับชมให้อภัยกลุ่มผู้ที่ออกมาชุมนุมสาธารณะที่เกิดขึ้นหลายๆครั้งเมื่อช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานั่น “ทำงานแทนเรา” นั่นเอง โดยที่การชุมนุมเหล่านั้นล้วนผิดกฎหมาย ฝ่าฝืนข้อกำหนดใน ม.9 แห่ง พรก.ฉุกเฉิน 2548 และมีการสอดใส้การชุมนุมเป็นเรื่องการยกเลิก ปอ.112 และการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ มิใช่การชุมนุมเพื่อขับไล่ผู้นำรัฐบาลแต่อย่างใดไม่
กรณีดังกล่าวจึงไม่ใช่เป็นเรื่องส่วนตัวของบุคคลใดบุคคลหนึ่งแต่อย่างใด หากแต่อาจเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความผิดต่อแผ่นดิน อาจกระทบต่อความมั่นคง และอาจขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน อันเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.84 ม.85 และหรือ ม.87 ประกอบ ม.14 แห่งพรบ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2560 ต้องระวางโทษกึ่งหนึ่งของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นด้วย และหรือต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงต้องนำความพร้อมพยานหลักฐานมาแจ้งต่อ บก.ปอท. ให้ใช้อำนาจตามกฎหมายในการตรวจสอบ สอบสวน กรณีดังกล่าวว่าเข้าข่ายความผิดอาญาต่อแผ่นดินหรือไม่ หากพบว่าเป็นความผิดให้ดำเนินการตามครรลองของกฎหมายต่อไป นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด
Advertisement